‘วายดีเอ็ม’ แนะแบรนด์ควรวางกลยุทธ์อย่างไรเมื่อ ‘เอไอ’ ครองตลาด

‘วายดีเอ็ม’ แนะแบรนด์ควรวางกลยุทธ์อย่างไรเมื่อ ‘เอไอ’ ครองตลาด

'วายดีเอ็ม’ ชี้ไม่สายเกินไป ที่แบรนด์นำเอไอ มาเสริมแกร่งธุรกิจ แต่หากยังไม่ใช้ หวั่นกลายเป็นแบรนด์ที่ถูกลืมในตลาด พร้อมแนะ 4 ทางเสริมแกร่งธุรกิจ เพิ่มทักษะพนักงาน การลงทุนเทคโนโลยี การสร้างกลยุทธ์ อย่าละเลยที่จะรักษาคำว่า "จริยธรรม"

KEY

POINTS

  • วายดีเอ็ม ชี้เข้าสู่ยุคเอไอเคลื่อนอุตสาหกรรมโฆษณา
  • ผู้ประกอบการ-แบรนด์ต้องเร่งวางแผนรับมือ สร้างการเติบโตแข็งแกร่ง 
  • เตือนแบรนด์-ผู้ประกอบการไม่ปรับตัว อาจถูกลืมจากตลาด กลุ่มลูกค้า 
  • เปิดแผนวายดีเอ็มในปีนี้ 67 เสริมทัพเทค - ร่วมมือพาร์ทเนอร์ Google 

 

ทศวรรษของ "เอไอ" ที่เข้ามาร่วมปฏิวัติภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย ไปจนถึง อุตสาหกรรมโฆษณา ที่มีเม็ดเงินรวมอยู่ในอุตสาหกรรมรวมประมาณ 1.14 แสนล้านบาท จากการประเมินของ สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT ต่างมีการนำเอไอ มาใช้ในการทำตลาดด้วยเครื่องมือใหม่ๆ มากมาย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้แม่นยำ ส่งผลให้อุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล เติบโตอย่างร้อนแรงในปีก่อนกว่า 100% จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แบรนด์ต้องเตรียมแผนรับมือ และหาสร้างการเติบโตในยุคใหม่นี้ให้ได้ หากยิ่งช้า จะถูกคู่แข่งครองตลาด และครอบครองดาต้า จำนวนมหาศาล จนทำให้แบรนด์ถูกลืมในตลาดได้

“ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด ฉายภาพของอุตสาหกรรมโฆษณาในประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเปลี่ยนครั้งใหญ่ จากการมีเทคโนโลยีเอไอ เข้ามาร่วมพลิกโฉมการตลาดและกลุ่มลูกค้า ตลอดจนการมีเครื่องมือใหม่ เข้ามากระตุ้นตลาดทั้ง ChatGPT ไปจนถึง Generative AI รวมถึงมีผู้ให้บริการขนาดใหญ่ในโลกได้มุ่งให้เทคโนโลยีและบริการใหม่ๆ ทั้ง กูเกิ้ล หัวเว่ย เป็นต้น ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกในการนำเทคโนโลยีมาใช้ขับเคลื่อนองค์กร

 

ทั้งนี้ เอไอ ได้เข้ามาร่วมยกระดับธุรกิจที่สำคัญใน 3 ด้านได้แก่ Economy of scope บุคลากรคนหนึ่งสามารถทำงานได้อย่างหลากหลาย Economy of scale การผลิตสินค้าและบริการได้มากขึ้น พร้อมใช้ต้นทุนที่ลดลง Economy of speed ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า พร้อมร่วมทำให้เกิดประสิทธิภาพทางธุรกิจสูงขึ้น และช่วยสร้างการตลาดที่แม่นยำ

จากแนวโน้มการเข้าสู่ยุคเอไอ เข้ามาร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ ทำให้แบรนด์และนักการตลาดต้องเตรียมปรับแผนใหม่เพื่อให้พร้อมรับมือการแข่งขันครั้งใหม่ ทั้ง 1. การเพิ่มทักษะ โดยเฉพาะบุคลากรในด้าน ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ที่มีความเข้าใจในเทคโนโลยีและนำไปปรับใช้ได้ 2. การลงทุนในด้านเทคโนโลยี โดยแบรนด์ต้องมีการลงทุนใช้เทคโนโลยีเอไอให้เหมาะสมกับธุรกิจ 

 

‘วายดีเอ็ม’ แนะแบรนด์ควรวางกลยุทธ์อย่างไรเมื่อ ‘เอไอ’ ครองตลาด

3. การสร้างกลยุทธ์ ที่ต้องวางกลยุทธ์ให้มีความชัดเจน มีเป้าหมาย ทิศทางและวิธีการใช้ และ 4. จริยธรรม ที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรม ในการนำเอไอ ร่วมดูแลข้อมูลของลูกค้า และนำมาใช้อย่างรับผิดชอบ

“ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคเริ่มต้นเท่านั้นของการนำเอไอ มาร่วมใช้ขับเคลื่อนองค์กรต่างๆ และมีความสำคัญมากขึ้นต่อภาคธุรกิจ แบรนด์จึงต้องเริ่มต้นวางแผนในการนำมาปรับใช้กับองค์กรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ส่วนในตลาดโลกเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอย่างมาก”

สำหรับการนำเอไอมาปรับใช้นักการตลาดต้องให้ความสำคัญกับการวัดผลได้ พร้อมควรเลือกได้ว่าเทคโนโลยีในด้านใดที่มีความเหมะสมและไม่เหมาะสมกับภาคธุรกิจ ซึ่งประเมินได้จากเทคโนโลยีเอไอ ที่สำคัญต่อภาคธุรกิจมากขึ้น จึงมีการประเมินว่า ภาพรวมในปีนี้เม็ดเงินในการนำมาใช้ด้านเอไอของแบรนด์ต่างๆ จะเติบโตสูงขึ้น จากในปีก่อน อยู่ในสัดส่วนประมาณ 10% ของงบด้านการตลาดทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วนประมาณ 5%

“อีกอาชีพที่กำลังมีเอไอเข้ามาปฏิวัติอย่างมาก กับ อาชีพคอลเซ็นเตอร์ ที่มีโอกาสเอไอ จะเข้ามาเปลี่ยนโฉมอาชีพนี้และมีโอกาสที่จะหายไปได้ในอีก 5 ปีข้างหน้าได้เช่นกัน" 

‘วายดีเอ็ม’ แนะแบรนด์ควรวางกลยุทธ์อย่างไรเมื่อ ‘เอไอ’ ครองตลาด

“ณัฐพล จิตงามพงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) กล่าวเพิ่มเติมว่า วายดีเอ็ม ได้นำเอไอ และดาต้า เทคโนโลยี เข้ามาร่วมเสริมศักยภาพในงานบริการแก่ลูกค้า เพื่อทำให้วางแผนการตลาดได้อย่างครบวงจร เริ่มตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ ฝ่ายครีเอทีฟ ฝ่ายโซเชียลมีเดีย ฝ่าย เคโอแอล (KOL) ทำให้สามารถร่วมประเมินผลตอบรับจากการทำแคมเปญการตลาดและยอดขายให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบวงจร พร้อมวัดผลได้แม่นยำมากขึ้น 

โมเดลการตลาดที่วายดีเอ็ม ได้นำมาปรับใช้กับทั้งในด้าน สร้างการรับรู้ให้แก่แบรนด์ (Awareness) การทำให้ลูกค้าพิจารณาและตัดสินใจ (Consider) การตัดสินใจเลือกซื้อ (Purchase) และติดตามผลภายหลังเลือกซื้อสินค้าไปแล้ว มีการซื้อซ้ำหรือไม่ (Post-purchase) เพื่อทำให้สามารถวางแผนทำการตลาดให้สอดรับกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงการเลือกสื่อที่นำเสนอ ข้อความ การวัดผล และช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่สินค้า ซึ่งที่ผ่านมา พบว่า การนำรูปแบบนี้มาปรับใช้กับลูกค้าของบริษัท ทำให้เพิ่มทั้งฐานลูกค้าและยอดขาย

ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจสูงในการนำ เอไอ และดาต้า เทคโนโลยี มีทั้งกลุ่มประกัน คลินิก การเงิน และกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค และ อีคอมเมิร์ซ เนื่องจากมีฐานข้อมูลของกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก และต้องการเพิ่มยอดขายของบริษัท

"แม้ว่าบริษัทจะมีการนำเครื่องมือเอไอ และเทคโนโลยีต่างๆ มาร่วมใช้มากขึ้น อย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจให้แก่ลูกค้า การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่บริษัทยังให้ความสำคัญกับการบุคลากร ที่จะเข้ามาร่วมดูแลและบริหาร ตรวจสอบทุกอย่างอีกครั้ง"
 

‘วายดีเอ็ม’ แนะแบรนด์ควรวางกลยุทธ์อย่างไรเมื่อ ‘เอไอ’ ครองตลาด

แผนเชิงรุกของวายดีเอ็มในปีนี้ มีแผนร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกกับ กูเกิ้ล ในการร่วมนำเทคโนโลยีมาเสริมประสิทธิภาพและบริการรวมถึงเอไอให้แก่ลูกค้า พร้อมมีแผนขยายตลาดไปในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านได้แก่ CLMV เริ่มจากประเทศเวียดนาม และลาวเป็นตลาดสำคัญ ที่กลุ่มลูกค้าสนใจในการติดตามสื่อไทยรวมกว่า 20 ล้านคน ซึ่งการรุกไปต่างประเทศตามลูกค้าที่ได้มีขยายตลาดไปในประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ

ทั้งนี้ ประเมินว่าจากแผนที่วางไว้ จะทำให้ผลประกอบการโดยรวมในปีนี้เติบโตมากขึ้น จากในปีก่อนที่มีรายได้รวมประมาณ 700 ล้านบาท เติบโต 30% ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณ 5% ของรายได้รวม ประเมินว่า รายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้นในปีนี้