'แอลจี' ส่องตลาดแอร์ไฮซีซั่นปี 67 โตเดือด 20% จากอากาศร้อน ต่างจังหวัดโต

'แอลจี' ส่องตลาดแอร์ไฮซีซั่นปี 67 โตเดือด 20% จากอากาศร้อน ต่างจังหวัดโต

'แอลจี' ประเมินตลาดเครื่องปรับอากาศในปี 2567 แข่งขันรุนแรง เดินหน้าขยายกำลังการผลิตในประเทศไทยเพิ่ม เร่งรุกตลาดหน้าไฮซีซั่น ท้าชนขอขึ้นเบอร์ห้าในตลาดเครื่องปรับอากาศ

"แอลจี" (LG) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย ด้วยโรงงานที่จังหวัดระยอง เป็นฐานการผลิตของสินค้าเครื่องปรับอากาศที่มีกำลังการผลิตต่อปีประมาณ 2 ล้านเครื่อง ซึ่งฐานการผลิตในประเทศไทย เพื่อทำตลาดในประเทศและส่งออกไปในต่างประเทศ

“ซองฮัน จอง” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอลจีพร้อมรุกตลาดเครื่องปรับอากาศในปี 2567 ให้ครอบคลุมทุกตลาด ทั้งเครื่องปรับอากาศในบ้าน เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ด้วยการมุ่งสร้างนวัตกรรม และเน้นเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ เพื่อร่วมประหยัดพลังงาน

 

“อำนาจ สิงหจันทร์” หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉาพภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยปี 2567 จะมีมูลค่าประมาณ 34,300 ล้านบาท มีโอกาสขยายตัว 20% จากปีก่อน โดยตลาดรวมขยายตัวจากอากาศที่ร้อน ความต้องการปรับเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่และค่าไฟที่แพงขึ้น อีกทั้งเมื่อประเมินอัตราการครอบครองเครื่องปรับอากาศของคนไทย มีสัดส่วนประมาณ 34% ของครัวเรือนทั้งหมด จึงมีโอกาสเติบโตมาก โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด 

สำหรับภาพรวมเครื่องปรับอากาศในปี 2566 มีมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท มีการขยายตัว ประมาณ 26.8% ตามสภาพอากาศในประเทศที่ร้อน

 

\'แอลจี\' ส่องตลาดแอร์ไฮซีซั่นปี 67 โตเดือด 20% จากอากาศร้อน ต่างจังหวัดโต

"แอลจีมีโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย ที่มีกำลังการผลิตรวม 2 ล้านเครื่องต่อปี และในปีนี้มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิต รองรับตลาดที่กำลังขยายตัว ทั้งในประเทศและส่งออก"

แผนการตลาดประจำปี 2567 ของแอลจี ได้เตรียมงบการตลาดไว้เบื้องต้นที่ 200 ล้านบาท ร่วมสร้างแบรนด์สู่กลุ่มลูกค้า พร้อมมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าดีลเลอร์ร่วมทำตลาดในทั่วประเทศ รวมถึงได้จัดโรดโชว์สินค้า การจัดคาราวาน และโปรแกรมนำสินค้าเครื่องเก่ามาแลกใหม่ เพื่อร่วมกระตุ้นยอดขายอีกทาง พร้อมรุกเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับกลางและระดับบน 

ทั้งนี้ประเมินว่า ภาพรวมยอดขายเครื่องปรับอากาศในสิ้นปี 2567 จะเติบโต 30% อยู่ที่ 2,600 ล้านบาท จากปีก่อน ที่มียอดขายรวมอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท สูงกว่าตลาดรวมต่อเนื่องจากปีก่อน อีกทั้งจากแผนการตลาดในเชิงรุก ทำให้แอลจีได้ตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่งการตลาด อยู่ในระดับ 5 ของตลาดรวมเครื่องปรับอากาศ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 7.5% จากในปีก่อนที่มีส่วนแบ่งการตลาด อยู่ในลำดับ 8 ของตลาด ด้วยส่วนแบ่ง 5.7%

\'แอลจี\' ส่องตลาดแอร์ไฮซีซั่นปี 67 โตเดือด 20% จากอากาศร้อน ต่างจังหวัดโต

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมแอลจี ในสิ้นปีนี้ ประเมินว่า จะสร้างยอดขายรวมอยู่ที่ 13,500 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน มาจาก 4 กลุ่มสินค้าได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ และ ตู้เย็น โดยแอลจี ครองส่วนแบ่งการตลาด อันดับหนึ่งในตลาดเครื่องซักผ้า ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 42% โทรทัศน์ มีส่วนแบ่งการตลาด 33% อยู่ลำดับสองในตลาด ตู้เย็น มีส่วนแบ่งการตลาด 12% อยู่ลำดับที่ 3 และ 4 ของตลาด

หากประเมินเฉพาะตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าใน 4 กลุ่มที่ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และโทรทัศน์ ในประเทศไทย ในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดประมาณ 8 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะขยายตัวสองหลักได้

\'แอลจี\' ส่องตลาดแอร์ไฮซีซั่นปี 67 โตเดือด 20% จากอากาศร้อน ต่างจังหวัดโต