‘สยามเทค-ดีป้า-บีวายดี’ผนึกพลัง สร้างบุคลากร ‘อีวี’ รับเมกะเทรนด์โลก

อย่างไรก็ตาม ตลาดที่เติบโตรวดเร็ว สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญซึ่งต้องทำควบคู่กันคือ การสร้างบุคลากรมารองรับตลาดที่กำลังขยายตัว เนื่องจากประเมินกันว่าในระยะเวลาอีก 5-7 ปี ประเทศไทยจะมีประชากรรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมหาศาล ทำให้ภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทย 3 หน่วยงาน ผนึกกำลังเพิ่มทักษะของแรงงานฝีมือ ยานยนต์ไฟฟ้า ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) วิทยาลัยอาชีวศึกษา ภายใต้เครือข่ายของ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ บริษัท บีวายดี เมโทรโมบิล จำกัด

“รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช” ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) ฉายภาพแรงงานในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยว่า มีความต้องการแรงงานที่เกี่ยวข้องในระดับหมื่นคนตามตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยที่โตเร็ว โดยในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ตลาดเติบโตสูงถึง 600% แต่ภาคการศึกษาของไทยยังผลิตแรงงานในด้านนี้ออกมาไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยสยามเทค สามารถผลิตบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้เพียงปีละ 1,000 คน

นอกจากนั้น ไม่เพียงแค่ความต้องการบุคลากรที่เชี่ยวชาญยานยนต์ไฟฟ้า แต่ อีกสิ่งสำคัญคือการเสริมสร้างบุคลากร ที่มีความเชี่ยวชาญ ทักษะด้านซอฟต์แวร์ ที่มีความเข้าใจระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีของรถยนต์ทั้งหมด รวมถึงบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทักษะการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่เกี่ยวข้องและแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการขยายอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

ในช่วงที่ผ่านมาสยามเทคได้ร่วมมือในการปรับเปลี่ยนทักษะ และเพิ่มทักษะหรือ Reskill และ Upskill กลุ่มนักเรียนอาชีวะอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มวิชาที่เรียนเกี่ยวกับรถยนต์สันดาปภายใน ได้เสริมความรู้ยานยนต์ไฟฟ้าไปด้วย รวมถึงทักษะด้านดิจิทัลด้วย 
 

รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค)

“การประชุมดาวอสในเร็วๆ นี้ ที่มีผู้นำจากทั่วโลกไปร่วมประชุมกว่า 2,000 คน มีหัวข้อที่น่าสนใจกับ เทคโนโลยี เอไอ ที่เข้ามามีบทบาทและสร้างโอกาสใหม่ๆ แต่ในอีกด้านต้องเฝ้าติดตามกับ การใช้เอไอ ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะหากมีแฮคหุ่นยนต์ไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการประชุมเกี่ยวกระแสโลกร้อน ทำให้การใช้พลังงานทางเลือกมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า”

 

นั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงทิศทางที่ทั่วโลกกำลังก้าวไป แล้วไทยก็ต้องเตรียมพร้อมรับ ทั้งแนวทางการจัดการกับกระแสโลกร้อนที่ทำให้ความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในทั่วโลกเพิ่มขึ้นเช่นกัน 

ทั้งนี้ปัจจุบันไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วน 12% ของตลาดรวม และประเมินว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า จะมีสัดส่วนมากกว่า 50% ความต้องการแรงงานจึงยิ่งมีเพิ่มขึ้น

สำหรับการร่วมมือของ 3 หน่วยงานหลัก ทั้งวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และ บริษัท บีวายดี เมโทรโมบิล ในครั้งนี้ มีเป้าหมาย 3 ด้านที่สำคัญได้แก่ บูรณาการความร่วมมือในการวิเคราะห์และสังเคราะห์ทักษะฝีมือและวิชาการขั้นสูง การร่วมส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมทางวิชาการให้แก่ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา และผู้เกี่ยวข้อง พร้อมเพิ่มทักษะ ทั้งหมดเพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ในอุตสาหกรรม

“ภัทร จึงกานต์กุล” กรรมการบริหาร บริษัท บีวายดี เมโทรโมบิล จำกัด ให้มุมมองต่อรถยนต์ไฟฟ้าว่าจะมีความสำคัญมากขึ้น และจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมี เหมือนการมีโทรศัพท์มือถือ จึงมีความจำเป็นต้องสร้างบุคลากรไทยที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามารองรับในตลาดทั้งบุคลากรในด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ที่เข้าใจเทคโนโลยีและบุคลากรที่เข้าใจรถยนต์

พร้อมกันนี้ต้องติดตามกับอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าชุดแรกที่จะหมดสัญญาประกันที่ทำไว้ ตั้งแต่ 5-7 ปี ทำให้มีความต้องการใช้บริการซ่อมบำรุงจากศูนย์ภายนอก ไปจนถึงจะเกิดตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง เข้ามาในตลาดจำนวนมาก ความต้องการแรงงานในด้านนี้จึงจำเป็นต้องผลิตมากขึ้น และเป็นโอกาสของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำงานในสายนี้

หากประเมินเทรนด์ของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในอีก 5 ปี จะมีบทบาทมากขึ้น และจะเห็นเทรนด์สงครามราคาของรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากประเทศมหาอำนาจในโลกต่างต้องการมีบทบาทในตลาดนี้

“ฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์” รองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เสริมว่า ทั่วโลกกำลังพูดถึงเทรนด์“ Electrifying the Future : Green Skills Development for the EV Revolution 2024”  ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของโลกกับโอกาสใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ โดยหลายประเทศได้ประกาศว่าในอีก 25 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาป มาใช้พลังงานสะอาด ทำให้ภาคเอกชนไทยและหน่วยงานภาครัฐพร้อมร่วมเสริมทักษะในด้านนี้มารองรับ เพื่อร่วมสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ผศ.ดร. มานนท์ สุขละมัย อาจารย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ระบุว่า มหาวิทยาลัยได้รับการมอบหมายจาก สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ให้เป็นที่ปรึกษาดำเนินการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อกำหนดและรับรองสมรรถนะ กำลังคนด้านยานยนต์ไฟฟ้า ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อปี 2565 แล้ว มีทั้งสาขาผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ สาขายานยนต์ไฟฟ้าและสาขาวิชาชีพบริการยานยนต์ เป็นต้น เพื่อรวมผลักดันมาตรฐานวิชาชีพนี้