‘ซีพี’ ดึงสูตรสำเร็จเกาหลี สร้างสะพานดันเด็กไทย เขย่าโลกซอฟต์ พาวเวอร์

“ซอฟต์ พาวเวอร์” กลายเป็นเรื่องที่หลายประเทศให้ความสำคัญในการนำมาเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจเติบโต มั่งคั่ง หลังจากเห็นเกาหลีใต้ ประสบความสำเร็จ ในการนำพาธุรกิจบันเทิง วัฒนธรรมอาหารการกิน กระแส K-POP เขย่าโลกอย่างต่อเนื่อง

ย้อนกลับมายังประเทศไทย ภาคเอกชนพยายามผลักดันซอฟต์ เพาเวอร์ของไทย ให้ผงาดในโลกบ้าง หนึ่งในนั้นคือ เครือเจริญโภคภัณฑ์หรือซีพี อาณาจักรธุรกิจอาหาร การสื่อสารและโทรคมนาคม ค้าปลีก อีคอมเมิร์ซและดิจิทัล ฯ ที่ประกาศขอเป็น “สะพาน” ผลักดันเด็กไทยที่เก่ง มากความสามารถได้ปลดล็อกศักยภาพ สู่การเป็นศิลปิน ไอดอล ระดับโลก ผ่านการร่วมทุนกับ “THEBLACKLABEL” ค่ายเพลงและครีเอทีฟเอเยนซีจากประเทศเกาหลีใต้ ตั้ง “THEBLACKSEA” ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า “ร้อยล้านบาท”

พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา Chief Content Strategy, Investment and Partnership Officer เครือซีพี ฉายภาพว่า บริษัทใช้เวลาเกือบ 2 ปี เพื่อเจรจากับ “Teddy Park” ผู้ก่อตั้งและ Executive Producer ของ THEBLACKLABEL ในการร่วมทุนและทำงาน ท่ามกลางองค์กรธุรกิจอื่น กองทุนที่สนใจเป็นพันธมิตรเช่นกัน

ด้วยเป้าหมายที่ตรงกัน คือการปั้นซอฟต์ พาวเวอร์ จากเอเชียให้ทรงอิทธิพลในเวทีโลกมากขึ้น เสริมแกร่งจากเกาหลีใต้ ที่ฉายเดี่ยวเด่นเป็นทุนเดิม

“THEBLACKLABEL เนื้อหอมมากจากผู้ลงทุนต่างๆ ขณะที่ซีพี เราใช้เวลาคุยกัน 2 ปี แต่ด้วยความจริงใจและ Passion ในการเสนอเรื่องซอฟต์ เพาเวอร์ การให้โอกาสเยาวชนคนไทย โชว์ศักยภาพในเวทีโลก ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวที่ได้ร่วมทุนกับ THEBLACKLABEL”

สำหรับ THEBLACKSEA จะผสานจุดแข็งระหว่างซีพี ที่มีอีโคซิสเทมรองรับ ประสบการณ์ด้านซอฟต์ พาวเวอร์กว่า 10 ปี จากทำงานกับพันธมิตรเกาหลี ทั้ง “ซีเจ” และ “เอสเอ็ม” ซีนเนอร์ยีกับ THEBLACKLABEL ที่ปั้นศิลปิน ไอดอล แต่งเพลงดัง มีสลักความสำเร็จให้เห็นจากแฟนๆทั่วโลก เพื่อนำไปปลุกปั้นหรือเดบิวต์เยาวชน คนไทยที่มีความสามารถให้เก่งมีมาตรฐานโลก แจ้งเกิดต่อไป

 “ซีพีมีวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนเยาวชน คนไทยที่มีศักยภาพสู่ตลาดโลก การร่วมทุนครั้งนี้เป็นโอกาสดีเลิศ ในการสร้างสะพานที่แข็งแกร่งไปสู่เป้าหมาย ซึ่งการจะเดบิวต์ บ่มเพาะศิลปิน ไอดอลต้องใช้เวลา เราไม่รีบ เพราะต้องการเจียระไนให้คนเก่งเป็นดุจเพชรที่วาวที่สุดให้ได้”

หากโปรเจค THEBLACKLABEL ประสบความสำเร็จได้ “พีรธน” ยังมองอรรถระโยชน์ที่จะตามมา วัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ความเป็นไทยที่ถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก จะทำให้หันมามองประเทศไทยในทุกมิติ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แฟชั่น การศึกษา สังคม ฯ 

ขณะที่อีกด้านของซีพี การลุยธุรกิจคอนเทนต์ถือเป็น New S-Curve ของบริษัทด้วย

ปรางพลอย สุขพิริยกุล กรรมการผู้จัดการ THEBLACKSEA กล่าวว่า การร่วมมือกับ THEBLACKLABEL เป็นการมอบโอกาสเด็กไทยไปสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง เพราะเชื่อมั่นว่าคนไทยมีศักยภาพและโตได้ไกลกว่าแค่ในประเทศแต่การหาคนเก่ง จะเริ่มจากโปรเจค “THEBLACKLABEL’S FIRST THAILAND AUDITION” ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 2,000 คน มาออดิชั่น และคัดเลือกผู้ที่จะเป็นเด็กฝึกหัดในค่าย ที่ประเทศเกาหลีใต้ และปั้นสู่การเป็นศิลปินระดับโลกต่อไป

ปัจจุบัน กระแสวัฒนธรรมเกาหลีใต้ K-pop หรือ “Hallyu” มีขนาดใหญ่ โดยปี 2562 มูลค่าตลาดราว 1,700 ล้านดอลลาร์ เติบโต 2.5 เท่า (เฉพาะคอนเทนต์เพลง ซีรีส์ ฯ ไม่รวมสินค้า) และคนไทยกลายเป็นเจ้าบุญทุ่มอันดับ 1 มีสัดส่วนถึง 18% ของสาวก K-POP จำนวนหลัก “ร้อยล้านราย” ทั่วโลก(นับเฉพาะผู้ที่ใช้จ่าย ซื้อสินค้าเกี่ยวกับ K-POP )

“ถือเป็นก้าวเล็กๆก้าวแรกเท่านั้น เรายังมีโครงการอื่นอีกมาก เพื่อมอบโอกาสให้คนไทย”

ด้านแดนนี ชัง นักแต่งเพลงค่าย THEBLACKLABEL และหัวหน้าฝ่ายพัฒนาศิลปินของ THEBLACKSEA ซึ่งเป็นคนเกาหลี ที่เติบโตในสหรัฐฯ กล่าวว่า ตนเองเข้าสู่วงการ K-POP เมื่อ 10 ปีก่อน ได้ลงทุนทั้งแรง เวลา และอนาคตให้กับงานในวงการเต็มที่ เนื่องจากเชื่อในศักยภาพของ K-POP จะเติบโตขึ้นอย่างวันนี้

ขณะที่การเดินทางและมาอยู่ในประเทศไทย ภารกิจคือการลงทุนลงแรง เวลาและอนาคต แบบเดียวกับที่ทำเมื่อ 10 ปีก่อน เพื่อให้ซอฟต์ เพาเวอร์ของประเทศไทยเติบโตประสบความสำเร็จเช่นในเกาหลี

ปิดท้ายที่ อนรรฆวี ชูรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด ด้านการตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผู้ผลิตอาหารแบรนด์ CP กล่าวว่า ซีพีปักธงธุรกิจใน 18 ประเทศทั่วโลก และมีการจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดกว่า 100 ประเทศทั่วโลก สะท้อนการเป็นบริษัทระดับโลกอย่างแท้จริง นอกจากภารกิจในการมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้า นำแบรนด์ไทยไปสู่สายตาชาวโลก บริษัทยังพร้อมสนับสนุนเด็กไทยที่มีศักยภาพมีโอกาสแสดงความสามารถให้นานาประเทศเห็นด้วย 

อย่างไรก็ตาม ช่วง  1 สัปดาห์ ของกิจกรรมออดิชัน แบรนด์ซีพีได้เข้าร่วมทำ THE BLACK BOX Pop-up Studio จนมีผู้สนใจสมัครกว่า 1,500 คน