'ตัวตน' สวมใส่คาแรคเตอร์ที่เป็นคุณ

'ตัวตน' สวมใส่คาแรคเตอร์ที่เป็นคุณ

“ตัวตน”แบรนด์เสื้อผ้าน้องใหม่สัญชาติไทยแท้ ที่แหวกกรอบความเป็นแฟชั่นมาสร้างผลงานไม่อิงฤดูกาล ไม่ตามเทรนด์ ไม่ตามใคร แต่ใช่ในตัวตนของตัวเอง

เสื้อผ้าสไตล์ Mix & Match ออกแนว เท่ๆ เซอร์ๆ ที่มาพร้อมชื่อ “ตัวตน” (TUATON) ประกาศความเป็นแบรนด์น้องใหม่ สัญชาติไทยแท้ รอทักทายเหล่าคนมีตัวตน อยู่บริเวณชั้น 1 โซนแฟชั่น สยามสแควร์ วัน

ถัดมาเพียงไม่กี่ชั้น คือที่ตั้งของ “เพลินวานพาณิชย์” ร้านกาแฟไทยโบราณ เจ้าของเดียวกับ “เพลินวาน หัวหิน” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีก่อน

จุดร่วมเดียวกันของทั้งสองแบรนด์ คือมีชื่อของ “ก้อย-ภัทรา สหวัฒน์” กรรมการผู้จัดการ บมจ.วนชัย กรุ๊ป เป็นผู้ก่อตั้ง ทว่าแบรนด์ใหม่ เธอไม่ได้ฉายเดี่ยวอีกต่อไป แต่จับมือน้องสะใภ้ “บัว-บัวชมพู ฟอร์ด” อดีตศิลปินดังที่ออกมาเป็นคุณแม่ฟูลไทม์ได้พักใหญ่ และ “แหม่ม-ศิวาพร มูลน้อย” สไตลิสต์ผู้สร้างคาแรคเตอร์ให้ศิลปินชั้นนำของวงการ มาร่วมกันปั้นแบรนด์ “ตัวตน” ให้แจ้งเกิด 

“ที่จริงเราทำแฟชั่นมานานแล้ว เพราะเพลินวานหัวหินเองก็มีกิฟท์ช้อป เราทำเสื้อผ้าออกมาด้วย โดยที่พี่แหม่ม(ศิวาพร) ก็ช่วยมาตั้งแต่ยุคแรกๆ”

จิ๊กโก๋เพลินวาน บอกที่มาของการขยับมาจับแบรนด์เสื้อผ้า แม้จะต่างจากความเป็นเพลินวานอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังมีเหมือนกันคือ เน้นความเป็นไทย ชาตินิยมแบบไทยๆ โดยยังคงใช้ผ้าไทย ย้อมสีธรรมชาติ และผลิตในไทยเท่านั้น

“เราอยากเป็นคนปลายน้ำ ที่เอาต้นน้ำมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ความเป็นตัวตนของก้อยยังอยู่นะ คงเดิมไม่มีเปลี่ยน” เธอบอก

ดีไซน์ฉบับตัวตน ไม่อิงแฟชั่น ไม่มีฤดูกาล ออกมาเป็นซีรีส์ ไม่ใช่ซีซั่น ใส่ได้นาน ไม่มี “เอาท์”

“เราออกแบบเสื้อผ้าที่ง่ายๆ ใส่ได้จริง สไตล์เท่ๆ เซอร์ๆ โดยไม่ได้ออกมาเป็นฤดูกาล ไม่ต้องมีวินเทอร์ ซัมเมอร์อะไรทั้งนั้น ไม่ได้ตั้งใจสวนกระแสนะ แต่คิดโจทย์จากความเป็นจริงเพราะ เมืองไทยไม่มีฤดูกาล เราร้อนทั้งปี มองเรื่องของตลาด ทำทำไมเสื้อหนาว ก็เราเมืองร้อน อีกส่วนก็เป็นเรื่องของต้นทุนด้วย”

“ตัวตน” เลยไม่ใช่เสื้อผ้าแฟชั่นจ๋า ที่ออกมาสนองกลุ่มแฟชั่นนิสตาร์ และไม่พยายามเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นด้วย แต่เน้นใส่ง่ายๆ ใส่ได้ตลอดทั้งปี อยู่ได้นานกว่าแฟชั่นที่มาแบบฉาบฉวย

ที่สำคัญไม่ได้ใส่เพื่อให้เป็นแบบใคร แต่ใส่เพื่อสะท้อนตัวตนของคนๆ นั้นให้เด่นชัดขึ้น

“เสื้อผ้าของเรา จับใส่ไปทำงานก็ได้ กลางคืนจะไปเที่ยวต่อก็ไม่น่าเกลียด ไม่มาก ไม่น้อย ใส่แล้วไม่ขัดเขิน เป็นคาแรคเตอร์ของตัวเอง เรียกว่า มีทางออก อธิบายได้”

ทำไมต้องเลือกเดินทางใหม่ ไม่ตามรอยความเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น พวกเขาบอกว่า ลองสังเกตแบรนด์เสื้อผ้าที่มี ส่วนใหญ่จะตามแฟชั่น เทรนด์ไหนมา สีไหนมา ก็มักจะแห่ไปตามกัน เหมือนกันแทบทุกร้าน ทั้งที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบสีสันตามแฟชั่น

“เรามองว่า สีไม่ต้องตามแฟชั่นไปหมดก็ได้ อย่างเราเลือกสีจากธรรมชาติมาใช้ สีจากใบไม้ ต้นไม้ ไม่ต้องฉูดฉาด เพราะแฟชั่นทุกวันนี้ มันคือ คาแรคเตอร์”

และตัวตนกำลังทำหน้าที่ให้ คาแรคเตอร์ของทุกคนเด่นชัดขึ้น ก็เท่านั้น

จุดแข็งของแบรนด์ คือได้สายตา แหม่ม-ศิวาพร มาช่วยในการออกแบบ เธอจบสาขาศิลปะการออกแบบพัสตราภรณ์ จากคณะศิลปกรรม ธรรมศาสตร์ มีประสบการณ์เป็นสไตลิสต์ช่วยดึงคาแรคเตอร์ของศิลปินให้โดดเด่น ขณะที่ “บัวชมพู” เป็นรุ่นน้องที่คณะศิลปกรรม อดีตศิลปิน-สไตลิสต์คู่บุญที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่อัลบั้มชุดแรกเมื่อกว่าสิบปีก่อน

วันนี้บัวคือคุณแม่ลูกสาม และย้ำว่ามีอาชีพหลัก เป็น “คุณแม่” แต่ก็มีความฝันมาตั้งแต่เล็ก ว่าอยากเป็นดีไซเนอร์

“บัวอยากเป็นดีไซน์เนอร์มาตั้งแต่เด็ก บางครั้งเขียนแบบชุดตัวเองแล้วให้คุณแม่ตัดให้ก็มี เป็นอย่างนี้มาตลอด ชอบมาตลอด ถามว่าคาดหวังอะไรบ้างกับแบรนด์นี้ มองว่า แค่ได้ทำนี่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แค่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักก็โอเคแล้ว” เธอบอก

นอกจากตอบความฝันในวัยเยาว์ แบรนด์ตัวตน ยังตอบอุดมการณ์ของเหล่าคนทำ ที่อยากสร้างแบรนด์ไทย ให้คนไทยเข้าถึงได้ ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ขณะที่ไม่มีกลุ่มเป้าหมาย เพราะเชื่อว่า ไม่ว่าคนในวัยใด อายุเท่าไร ก็มีสไตล์มี “ตัวตน” ของตัวเองได้ทั้งนั้น

หนึ่งเรื่องปวดจิตของเหล่าดีไซเนอร์หรือเจ้าของแบรนด์ คือ มักจะถูกก๊อปปี้เอาได้ง่ายๆ วันนี้ออกแบบ อีกวันแบบก็กลายเป็นสินค้าอยู่เต็มตลาดแล้วด้วยฝีมือของเหล่านักก๊อป แต่กับเพลินวานพวกเขาบอกว่า มองในแง่ดีการถูกก๊อปปี้ก็อาจเป็นเครื่องวัดเรตติ้งอย่างหนึ่งก็ได้ ถ้าถูกก๊อปก็แสดงว่าของชิ้นนั้นต้องใช้ได้อยู่พอตัว

“เอาจริงๆ เรื่องพวกนี้มันเลี่ยงไม่ได้หรอก แต่ว่าในความที่เราเป็นผู้ริเริ่ม เป็นเจ้าของไอเดีย เชื่อว่า เราไปต่อได้ คิดใหม่ได้ตลอด ฉีกไปได้เรื่อยๆ ไอเดียเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ อยู่กับเรา ขโมยกันไม่ได้หรอก” พวกเขาบอก

แบรนด์ตัวตนยังอยู่ระหว่างการทดลองตลาด ผู้ก่อตั้งบอกเราว่า ถ้าสำเร็จ อนาคตก็อาจมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ออกมาด้วย โดยไม่จำกัดแค่เสื้อผ้า แต่อาจเป็นได้ทั้งกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เพราะตัวตน คือ “ไลฟ์สไตล์” ไม่ใช่เสื้อผ้า

คุยกันครั้งล่าสุด ก้อย ภัทรา พูดถึงแผนที่อยากเอาร้านเพลินวานพาณิชย์ ไปเปิดที่ต่างประเทศ แย้มว่าอยากปักธงเพลินวานที่ “นิวยอร์ค” แต่พอถามถึงแบรนด์ตัวตน เธอกลับบอกว่า ไม่ได้คิดว่าจะต้องโกอินเตอร์ เพราะไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จแล้วต้องไปต่างประเทศ

“ไซส์ของตัวตนยังเล็กมาก และเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแมสด้วย นี่ไม่ใช่ธุรกิจ แต่เป็นอุดมการณ์ เป็นความฝัน ความชอบ และความอยากทำ ทำแล้วขอให้ไม่ขาดทุน ให้พอไปได้ก็พอแล้ว ส่วนเป้าหมายก็แค่อยากให้ตัวตนเป็นแรงบันดาลใจ เพื่ออีกหน่อยอาจจะมีเสื้อผ้าแนวนี้มากขึ้น มาเป็นทางเลือก คนไทยจะได้คิดกันมากขึ้น ไม่อย่างนั้นเราก็จะไปมองคนอื่นและทำตามคนอื่นอยู่ตลอดเวลา” พวกเธอสะท้อนความคิด

ก่อนหน้าได้ชื่อแบรนด์ตัวตน เคยเกือบใช้ชื่อว่า “You are what you wear” แต่คนทำคิดได้ว่า ทั้งยาวไป และฝรั่งจ๋า แปลเป็นไทยก็ลำบาก ไม่สอดรับกับคนหัวใจไทย เลยมาสรุปที่ “ตัวตน” ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษก็ยังสวยและยังได้ใช้คำไทยอยู่

เงินลงทุนหลักล้านบาท ถูกใช้ปลุกปั้นธุรกิจในฝัน เมื่อถามถึงเป้าหมาย ไม่มีสักคนที่พูดถึงตัวเลขผลกำไร

“พวกเราหวังว่า ทุกคนจะยังสนุกกับมัน เพราะเชื่อว่า ทำธุรกิจต้องสนุก ถ้าสนุกแล้วมันจะไปต่อได้เอง ธุรกิจนี้ไม่มีใครรู้หรอกว่าเวิร์ค หรือไม่เวิร์ค แต่ถ้าเราทำด้วยความสนุก และไม่เครียด แม้ตลาดไม่ยอมรับ แต่อย่างน้อยเราก็ได้ลองทำในสิ่งที่เราต้องการแล้ว”

สำหรับบางคนการปลุกปั้นธุรกิจขึ้นมาได้ และได้ทำ ก็นับว่า ประสบความสำเร็จแล้ว นี่แหล่ะ “ตัวตน” ของพวกเขา

“””””””””””””””””””
Key to success
แตกต่างอย่างมี “ตัวตน”


๐ เท่ๆ เซอร์ๆ มีทางออก อธิบายได้
๐ เน้นผ้าไทย ย้อมสีธรรมชาติ ผลิตในไทย
๐ ใส่ได้จริง ไม่แฟชั่นจ๋า ไม่มีฤดูกาล
๐ ราคาจับต้องได้
๐ ไม่กลัวคนก๊อป เพราะไอเดีย ขโมยกันไม่ได้
๐ ทำงานด้วยความสนุก ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน
๐ แค่ได้ทำก็สำเร็จแล้ว