ทายาทชายนิด "ศรัณยู โง้วศิริมณี" หนุ่มผู้รักความ "ท้าทาย"

ทายาทชายนิด "ศรัณยู โง้วศิริมณี" 
หนุ่มผู้รักความ "ท้าทาย"

นอกจากจะเปิดตัวสกีรีสอร์ตหรูติดอันดับ 1ใน 2 ของญี่ปุ่นแล้ว"ชายนิด โง้วศิริมณี"ยังถือโอกาสเปิดตัวทายาท"ศรัณยู โง้วศิริมณี"ผู้กุมชะตาPFคนต่อไ

"ศรัญยู โง้วศิริมณี" ทายาทหนุ่ม ลูกชายคนโตของ ชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เขาคือหนุ่มนักเรียนนอกวัยเพียง 31 ปี ที่ผู้พ่อเลือกแล้วให้รับภารกิจสำคัญ ดูแลโปรเจกยักษ์ "คิโรโระ สกีรีสอร์ท" ณ เกาะฮอกไกโด ใกล้เมือง ซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการลงทุนนอกประเทศแห่งแรกของบริษัทนี้ เป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อปีที่ผ่านมา กับการทุ่มเงินเกือบพันล้านบาท ซื้อสกีรีสอร์ทต่อจากกลุ่มมิตซุย

กับเป้าหมายการพัฒนาสกีรีสอร์ทแห่งนี้ ติดอันดับสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จุดหมายของนักเดินทางระดับโลก (World Class Destination)ท้าทายความสามารถของคนหนุ่มเช่นเขา ยิ่งนัก !

ทว่าเขาก็บ่ยั่น บอกด้วยซ้ำไปว่า เป็นคน "รักความท้าทาย" เป็นชีวิตจิตใจ

"งานนี้ถือเป็นการพิสูจน์ความสามารถของตัวผม รวมทั้งทีมงานรุ่นใหม่ ในเจนเนอเรชั่นที่สอง ซึ่งจะต้องตั้งใจทำงานกันเต็มที่ เพราะผู้ใหญ่คาดหวังไว้มากว่ากับคนรุ่นใหม่ กับไอเดียใหม่ๆว่าจะพาโครงการนี้ให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้"

เขาเล่าต่อว่า ก่อนจะมาดูแลโปรเจกนี้ ในเก้าอี้ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวางแผนโครงการ สายงานพัฒนาธุรกิจ เขาคลุกคลีกับการทำงานให้กับบริษัท มานานกว่า 7 ปี ตั้งแต่ยังเรียนมัธยม เข้ามาช่วยงานจริงๆจังๆขึ้นเรื่อยๆสมัยเรียนปริญญาตรี จนกระทั่งเรียนในระดับปริญญาโท

จึงถือว่าสอบผ่านในเรื่อง "ชั่วโมงบินการทำงาน"

เขาเล่าถึงสไตล์การทำงานของผู้พ่อว่า แม้จะเป็นลูกเจ้าของบริษัท แต่ก็ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นๆ ยิ่งเป็นลูกเจ้าของ ยิ่งต้องเรียนรู้และเริ่มจากตำแหน่งเล็กๆ ก่อน !

เรียกว่า ต้องเรียนรู้งานทุกแผนก จนกระทั่งเข้าใจโครงสร้างการทำงานทั้งหมด กว่าจะมีวันนี้ วันที่พ่อวางใจให้ดูแลโปรเจกยักษ์

“พ่อให้ทำงานเต็มที่ ใส่ไอเดียต่างๆได้แบบจัดเต็ม คุณพ่อผมจะคอยดูอยู่ห่างๆ ถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับผม เพราะเป็นครั้งแรกที่บริษัทกระจายการลงทุนออกมายังต่างประเทศ”

ดูสุ่มเสียงจากการให้พูดคุย เหมือนจะเก็งกับการทำงานโปรเจกนี้อยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่ทำให้เขาใจชื้นขึ้นมาได้ น่าจะเป็นเพราะ ความเชื่อมั่นในการทำงานเป็นทีมเวริ์ค ว่าจะช่วยทำให้ปัญหาทุกอย่างแก้ไขไปได้อย่างลุล่วง

“ผมเองพยายามเน้นเรื่องการทำงานเป็นทีมเวิร์คมากที่สุด ที่นี่จะไม่มีใครฉายเดี่ยว ทุกคนจะร่วมมือกันหมด ซึ่งเป็นแนวทางการทำงานที่ผมยึดถือ และได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อ หรือคนรุ่นก่อนๆ แม้การบริหารที่คิโรโระ รีสอร์ทจะเป็น โจทย์ใหญ่สำหรับผม แต่ผมไม่ค่อยกดดัน ก็เพราะมีทีมงานคอยช่วยเหลือกัน"

บวกกับคำชี้แนะของผู้เก๋าเกม อาบน้ำร้อนมาก่อน

"โชคดีที่มีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำในทุกๆ เรื่องที่มีปัญหาในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้บริหารจากเมืองไทย หรือที่ญี่ปุ่น ผมเองก็ชื่นชอบที่ยังมีผู้ใหญ่คอยให้คำแนะนำอยู่เสมอเวลาที่มีปัญหา” เขาสะท้อนบุคลิกภาพส่วนตัว

ก่อนจะเล่าถึงการทำงาน ที่สกีรีสอร์ตว่า เป็นเหมือนการผสมผสานการทำงานระหว่างคนสองวัฒนธรรม "ไทย และ ญี่ปุ่น" เข้าไว้ด้วยกัน


ทำให้เขาได้เรียนรู้หลักการทำงาน และวิธีคิดในแบบคนญี่ปุ่น รวมถึงระบบการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากล ที่สามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานภายในบริษัทได้ ทุกอย่างถือเป็น "ประสบการณ์ใหม่" ที่น่าตื่นเต้น

ศรัณยู ยังบอกถึงความแตกต่างของสองวัฒนธรรมว่า ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงาน เพราะพร้อมที่จะปรับตัวที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ไม่เฉพาะตัวเขา แต่รวมถึงบุคลากรทุกคน เขาย้ำ

โดยการทำงานในปัจจุบัน จะแบ่งออกเป็นสองวัฒนธรรม และสองเจนเนอเรชั่น คือ ระดับจูเนียร์ (อายุ 30 ปีขึ้นไป) ที่ ศรัณยู เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง และระดับซีเนียร์ (อายุระดับ 40 ปีขึ้นไป) ไปจนถึงระดับ Executive (อายุตั้งแต่ 50-60 ปีขึ้นไป) ซึ่งถือเป็นรุ่นที่เป็นบุกเบิก (Pioneer) ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เข้ามาซื้อกิจการ “คิโรโระ รีสอร์ท" ได้สักระยะหนึ่งแล้ว เขาบอกว่า จะต้องปรับโครงการการทำงานใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของฝ่ายการตลาด และฝ่ายขายที่จะต้องปรับรูปแบบการทำงานให้เป็นอินเตอร์มากขึ้น เพราะต้องติดต่อกับลูกค้าต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา

“สมัยก่อนเราอาจจะเป็นธุรกิจครอบครัว แต่ต้องนี้เราปรับให้เป็นคอร์ปอเรทมากขึ้น แทบจะไม่เหลือร่องรอยความเป็นธุรกิจครอบครัวอยู่เลย เราพยายามทำให้อินเตอร์ และมีความเป็นมืออาชีพให้มากที่สุด"