ญี่ปุ่นนำร่อง ‘ซีแพด’ สร้างสันติภาพปาเลสไตน์

ญี่ปุ่นนำร่อง ‘ซีแพด’  สร้างสันติภาพปาเลสไตน์

ดูเหมือนว่า “ปาเลสไตน์” ดินแดนที่เผชิญความขัดแย้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนาแล้ว

เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นจับมือกับทางการไทยพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมในเขตเวสต์แบงก์ ด้วยความหวังที่จะสร้างงานให้กับคนท้องถิ่นและทำให้เกิดสันติภาพตามมา

ที่ประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเพื่อการพัฒนาปาเลสไตน์ หรือ “ซีแพด” (CEAPAD) ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันพุธ (27 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ให้คำมั่นว่า จะสนับสนุนการพัฒนาปาเลสไตน์ พร้อมกับแสดงความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดหลังสหรัฐย้ายสถานทูตไปยังนครเยรูซาเลมของอิสราเอล

ซีแพดซึ่งมีประธานร่วม 3 ฝ่าย ได้แก่ ทาโร โคโนะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย และริอัด มาลกี รัฐมนตรีต่างประเทศปาเลสไตน์ ยังมีแผนที่จะดึงดูดการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกอื่น ๆ และประชาคมโลก เพื่อเพิ่มมาตรฐานความเป็นอยู่สำหรับชาวปาเลสไตน์

“บรรดาสมาชิกซีแพดต่างแสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในปาเลสไตน์ และยอมรับว่าสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อความพยายามสร้างรัฐของปาเลสไตน์ เช่นเดียวกับสันติภาพผ่านหลักการยอมรับในความเป็นรัฐของทั้ง 2 ฝ่าย” แถลงการณ์ร่วมระบุ

แม้แถลงการณ์ไม่ได้ระบุเจาะจง แต่ตีความได้ไม่ยากว่าหมายถึงกรณีการย้ายสถานทูตสหรัฐไปยังนครเยรูซาเลมเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจุดกระแสประท้วงในฉนวนกาซา ส่งผลให้อิสราเอลออกมาปราบปรามผู้ประท้วงจนมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตหลายสิบคน

นอกจากนั้น ญี่ปุ่นยังผลักดันการสร้างนิคมอุตสาหกรรม-เกษตรเมืองเจริโค หรือ “เจอิป” (JAIP) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ ซึ่งรัฐบาลโตเกียวสนับสนุนงบพัฒนานิคมนี้ไปแล้ว 21 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2551

โนริโอะ มารุยามะ โฆษกกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับผมก่อนการประชุมซีแพดว่า ขณะนี้ เจอิปอยู่ระหว่างการพัฒนาในเฟสแรกจากทั้งหมด 3 เฟส มีบริษัทปาเลสไตน์ทำสัญญาเช่าพื้นที่แล้ว 37 รายและเริ่มดำเนินการแล้ว 12 ราย โดยเป้าหมายหลักคือสร้างงานให้กับคนหนุ่มสาวปาเลสไตน์และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น

“เจอิปเป็นโครงการนำร่องระยะกลางถึงระยะยาว เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในปาเลสไตน์ผ่านความร่วมมือระดับภูมิภาคระหว่างปาเลสไตน์ อิสราเอล จอร์แดน และญี่ปุ่น”

ข้อมูลองค์การบริหารปาเลสไตน์ (พีเอ) ระบุว่า เจอิปจ้างงานชาวปาเลสไตน์ราว 200 คนในปัจจุบัน และคาดว่าจะมีการจ้างงานคนท้องถิ่นเพิ่มเป็น 3,400 คนเมื่อสิ้นเฟสที่ 2

มารุยามะ ยอมรับว่า ความท้าทายสำคัญของโครงการนี้ รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนผู้เช่าพื้นที่ การทำให้แหล่งน้ำและพลังงานไฟฟ้ามีเสถียรภาพ และการพัฒนาเส้นทางเข้าถึงนิคมสำหรับตลาดในต่างแดน

ก่อนหน้านั้น โคโนะประกาศว่า จะให้ความสำคัญกับการปรับปรุงภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และโลจิสติกส์ในโครงการเจอิป

ญี่ปุ่นมีบทบาทนำในการประชุมซีแพดนับตั้งแต่ริเริ่มความร่วมมือในปี 2556 โดยตั้งเป้าที่จะนำทรัพยากรและประสบการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกไปช่วยสร้างความเจริญให้กับปาเลสไตน์

สมาชิกซีแพดยังรวมถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ บรูไน เกาหลีใต้ สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ) ธนาคารโลก และธนาคารเพื่อการพัฒนาอิสลาม

เมื่อเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว โคโนะประกาศระหว่างเยือนตะวันออกกลางว่า ญี่ปุ่นจะมอบเงินช่วยเหลือแก่ปาเลสไตน์กว่า 40 ล้านดอลลาร์ เพื่อเปิดศูนย์อบรมเเรงงาน ฝึกงานด้านสารสนเทศ เเละนำไปก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในสวนอุตสาหกรรมเขตเวสต์แบงก์ ด้วยความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น

“เเม้การบรรลุสันติภาพตะวันออกกลางนั้นเป็นเรื่องยาก แต่ญี่ปุ่นก็จะทำทุกอย่างที่จะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการสร้างสันติภาพ” โคโนะระบุ