อนาคต(ใคร)ใหม่

อนาคต(ใคร)ใหม่

ท่ามกลางกระแสดราม่าเรื่องตีความ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. จะนำไปสู่การ “เลื่อน” วันเลือกตั้งหรือไม่?

ขณะเดียวกันก็นับเวลาถอยหลัง 1 เม.ย. ปลดล็อกคำสั่งคสช. พรรคการเมือง จะได้เชิดปี่เชิดกลองทำกิจกรรมการเมืองปูทางไปสู่การเลือกตั้ง ก.พ.2562

และจากผลสำรวจความเห็นล่าสุด ประชาชน อยากได้ “พรรคใหม่” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มากกว่า “พรรคเก่า”

พรรคใหม่ ที่โดดเด่นในเพลานี้คงหนีไม่พ้นชื่อ “พรรคอนาคตใหม่” ไม่พ้นชื่อ “เอก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”

ผมตามอ่านบทสัมภาษณ์ของ “เอก” ในหลายบริบท ในแต่ละห้วงเวลาแล้ววิเคราะห์ในเชิง “จิตวิทยาพฤติกรรมศาสตร์” พบอัตลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ คือใคร่ที่จะโอ้อวดสรรพคุณ มองและคิดไม่เหมือนและเหนือคนอื่น กล้าเผชิญ และบ้าบิ่น

ดังที่ “ธนาธร” ให้สัมภาษณ์ ; “เจาะใจธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไพร่หมื่นล้าน ประกาศหนุน ‘เสื้อแดง’ ทุนนิยมไทยพัฒนาไม่ได้ ถ้ามีอำมาตย์”, หนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์, ฉบับประจำวันที่ 16-22 เมษายน พ.ศ.2553 ปีที่ 30 ฉบับที่ 1548

ดังที่ “ธนาธร” ให้สัมภาษณ์ วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ และวิรพา อังกูรทัศนียรัตน์ ; “ผมถูกบังคับให้เป็นนายทุน”, นิตยสารสารคดี วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ผมได้เห็น “เอก” ให้มุมมองนักธุรกิจหนุ่มผู้สั่งปิดโรงงานและคน 700 คนต้องตกงานในทันที มุมมองของการเลือกจ้างคน 8 ใน 10 คนและ 2 คนต้องตกงานเพียงเพราะ 8 คนก็ทำงานได้ตามเป้าบริษัท มุมมองการเมืองบนท้องถนน มุมมองการตั้งพรรคการเมือง มุมมองเรื่องประชาธิปไตย และท้ายที่สุดมุมมองเรื่อง”เศรษฐกิจพอเพียง เป็นวาทกรรมแบบหนึ่งเท่านั้นเอง”

นับจากนี้ไป “เอก” กำลังก้าวเดินไปแตะขอบของการผจญภัย ครั้งใหม่นี้ของเขา