ราหูทับจันทร์

ราหูทับจันทร์

หนึ่งในความต่างสำคัญของโหราศาสตร์ตะวันตก เช่น สากล ยูเรเนียน กับโหราศาสตร์ตะวันออก เช่น อินเดีย ไทย คือการใช้ราหู

ตะวันตกไม่นิยมใช้ราหูทำนายทั้งดวงเดิมและดวงจร แต่ตะวันออกใช้เป็นหลักในการทำนายทั้งคู่ ราหูยังถูกยกเป็นดาว “เสวย” และ “แทรก” อายุตามหลักทักษาอีกด้วย แสดงถึงการให้ความสำคัญอย่างสูงในฝั่งตะวันออก

เหตุที่ตะวันตกไม่ใช้คงเพราะ ราหูไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่มีมวลและมองไม่เห็น เมื่อไม่มีมวล ย่อมไม่มีแรงโน้มถ่วง จึงไม่สามารถส่งอิทธิพลถึงดาวหรือปัจจัยอื่น มองไม่เห็น คือ ไม่มีแสง ย่อมไม่มีพลังงานหรือผลกระทบต่อสิ่งใด อันที่จริง โหราศาสตร์สากลยุคก่อนให้ความสำคัญกับราหูมากกว่านี้ แต่หลังจากที่ปฏิวัติวิทยาศาสตร์ในยุโรป โหราจารย์ฝรั่งก็ไม่ค่อยสนใจราหูอีก

นี่ตรงข้ามกับอินเดีย โหราศาสตร์เรียกอีกชื่อว่า “โชยติษ (Jyotish)” ที่แปลว่า “ศาสตร์แห่งแสงสว่าง” ดาวที่ให้แสงสว่างมากสุดและสำคัญสุด คือ อาทิตย์และจันทร์ ราหู คือ ตัวการให้เกิดคราส คราสบดบังแสงได้ทั้งอาทิตย์และจันทร์ ราหูย่อมมีพลังมากด้วย เมื่อราหูมีพลังขนาดนี้ จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ใช้ทำนาย

แท้จริงแล้ว ราหู คือ จุดตัดระหว่างระนาบโคจรของอาทิตย์ (Ecliptic : ระวิมรรค) และของจันทร์ที่เอียงทำมุมกัน 5 องศา จุดตัดมี 2 จุด-เหนือใต้ จุดที่อยู่เหนือระวิมรรค คือ ราหู จุดที่อยู่ใต้ คือ เกตุ มันเล็งกัน 180 องศา ราหูโคจรย้อนจักรราศีในอัตราเฉลี่ย 3.2 ลิปดาต่อวัน (เกตุนี้ต่างจากเกตุไทยที่คำนวณขึ้นมาใหม่และมีนิยามความหมายแตกต่างกัน)

ราหูเป็นจุดตัด-ไม่มีแสงในตัวเอง ทั้งก่อให้เกิดคราส จึงเป็นตัวแทนของความมืดมิด หมกมุ่น มัวเมา เขลา โมหะ และบาปโทษทั้งหลาย นั่นคือทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติ ราหูเป็นมากกว่านั้น ราหูคือการเปลี่ยนแปลง เมื่อเข้าราศีใดภพใด มักนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ราศีนั้นภพนั้น

ราหูให้คุณอย่างมากด้วย แต่การให้คุณเกิดใน “ด้านมืด” ของเรื่องราวเหตุการณ์ ซึ่งมันดำรงอยู่ในโลกแห่งความจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้ ผู้ที่มีราหูเด่นในดวง มักมีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง ลูกล่อลูกชน เอาตัวรอดและเติบโตได้ดีในสถานการณ์พิเศษ ประเด็น คือ ดาวให้ทั้งคุณและโทษ โดยเฉพาะบาปเคราะห์ เมื่อให้คุณมากก็ให้โทษมาก หากใช้คุณสมบัติเหล่านี้เกินขอบเขต มันจะย้อนกลับมาทำลายตัวเองในยามที่ราหู (หรือบาปเคราะห์อื่นให้โทษ

ราหูทับจันทร์

ตั้งแต่ 9 ก.ย.2560 – 23 มี.ค.2562 ราหูจรในกรกฎ นับเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ควรใส่ใจ เพราะ (1) กรกฎเป็นจรราศีที่ให้คุณหรือโทษได้เร็วและแรง (2) กรกฎมีจันทร์เป็นดาวครองราศี (เกษตร์) ราหู คือ จุดตัดของจันทร์ ราหูจึงมีพลังมากในราศีที่จันทร์เด่น เช่น กรกฎ พฤษภ โลกเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนใหญ่อีกครั้ง

กรกฎเป็นราศีแห่งธรรมชาติ ตั้งแต่ราหูยก ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไป จันทร์ คือ ธาตุน้ำ การเปลี่ยนนั้นสัมพันธ์กับความชื้นในอากาศ ผล คือ ลมฟ้าอากาศแปรปรวนหนัก คลื่นความเย็นและพายุทอร์นาโดที่รุนแรงในอเมริกา คลื่นความหนาวเย็นจากขั้วโลกเหนือพัดถล่มยุโรป อากาศหนาวจัดในจีนรัสเซีย แต่ร้อนแล้งจัดในนิวซีแลนด์ ฯลฯ เพราะราหูเข้ารูป T-square กับพฤหัสตุลย์และมฤตยูเมษ ความแปรปรวนนี้จึงรุนแรงมาก

ผลที่ตามมา คือ ผลิตผลการเกษตรทั่วโลกเสียหาย กรกฎ คือ ภพ 4 ของโลก บอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหาร ราหูเป็นบาปเคราะห์ เมื่อให้โทษในกรกฎ ย่อมทำให้ราคา Soft Commodity เพิ่มสูงขึ้นและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสของประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรด้วย

ในดวงเมืองไทย ราศีกรกฎมีจันทร์ครองอยู่ จันทร์เป็นเกษตร์เข้มแข็งในภพ ซึ่งก็คือ ผลผลิตที่เกิดจากดิน กรกฎเป็นแม่ธาตุน้ำ แปลรวมได้ว่า “ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ” ผู้วางฤกษ์คงมีเจตนาให้จันทร์เป็นหลักประกันความมั่นคงของบ้านเมือง เพราะเมื่ออาหารการกินอุดมสมบูรณ์ โอกาสล่มสลายก็น้อย จันทร์ คือ ประชาชน ถ้าประชาชนอยู่ดีกินดี บ้านเมืองก็มั่นคงถาวร

ภพ 4 หมายถึงถิ่นกำเนิด ต้นตระกูล บรรพบุรุษ ฯลฯ ราหู คือ ความหมกมุ่นมัวเมา ราหูเข้ากรกฎ ขณะที่พฤหัสเข้าตุลย์-ภพ 4 ของจันทร์ซ้ำอีก พฤหัสราหูเป็นเกณฑ์กัน เกิดกระแสนิยมอย่างมากในการระลึกอดีตและตระหนักถึงคุณค่าของรากเหง้าต้นกำเนิด ทำให้ละครย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา “บุพเพสันนิวาส” โด่งดังมาก จันทร์ คือ สตรีเพศ แม่หญิงการะเกดคือตัวดำเนินเรื่อง กรกฎเป็นราศีแห่งครอบครัว ความรักหนุ่มสาวและการครองคู่กันเป็นธีมหลักของละคร

จันทร์ในทางธุรกิจหมายถึง การเกษตร การบริโภค (Consumption) อสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว และงานบริการทุกประเภท เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ ราหูเดิมอยู่ภพ 12 (วินาศ) หมายถึง การสูญเสียชดใช้ ราหูทับจันทร์ ภาคธุรกิจเหล่านี้ไม่ค่อยดี ที่เห็นชัดคือ การบริโภค เกษตร ร้านอาหาร ส่วนการท่องเที่ยวและอสังหาฯแม้ดีมาก แต่ก็ซ่อนปัญหาใหญ่ไว้ภายใน (ภพ 12 คือ ปกปิดซุกซ่อน)

จันทร์ยังหมายถึง กลุ่ม SME กลุ่มนี้ถ้าทำธุรกิจตามความหมายของจันทร์ ก็พอเอาตัวรอดได้ แต่ถ้าไม่ คงต้องเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส หลัง 11 ต.ค.2561 พฤหัสยกเข้าพิจิก-ตรีโกณจันทร์ เอสเอ็มอีที่ปรับตัวได้ (จากผลของพฤหัสเล็งมฤตยูในภพ 4 และ 10) จะฟื้นตัวเข้มแข็ง รอจนราหูยกออกจากกรกฎ เรื่องร้าย ๆ ผ่านไป ย่อมเติบโตรุ่งเรืองได้อีกครั้ง

ช่วงเวลาสำคัญของจันทร์กรกฎ คือ 2 .. – 11 ..2561 ที่ตกอยู่ใต้อิทธิพล Grand Cross ของอังคาร-พฤหัส-ราหู-มฤตยู จะเกิดการเปลี่ยนแปลง(ทั้งดีและร้ายอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ที่น่าห่วงสุด คือ กลาง ก.. – สิ้น ส..ที่เกิดคราสร่วมด้วย จันทรคราส (เต็มดวง) 28 .ที่ 10:38 องศามังกร เล็งจันทร์เดิมสนิท อารมณ์ความรู้สึกและกระแสตื่นตัวของประชาชนจะพุ่งแรงสุดช่วงนั้น

จะเป็นเรื่องอะไร ถึงเวลานั้น คงได้รู้กัน