เพราะ 'ปู่' สอนไว้

เพราะ 'ปู่' สอนไว้

ถือเงินสดก้อนโตเอาไว้เสมอ เพื่อให้คว้าโอกาสและอยู่รอดได้ในทุกสถานการณ์

เป็นประจำทุกปี ที่คนในแวดวงการลงทุนโลกต่างเฝ้ารอ 'จดหมายถึงผู้ถือหุ้น' ซึ่ง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เขียนถึงนักลงทุนของเบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ สำหรับจดหมายจาก 'ปู่' ฉบับล่าสุด ผมได้อ่านแล้วรอบหนึ่ง และขอเอาไฮไลท์บางส่วนมาสรุปไว้ ณ ที่นี้นะครับ

ปู่กล่าวถึงสไตล์ของแก ที่ไม่ชอบ 'กู้เงิน' มาลงทุน ส่งผลให้พลาดโอกาสทำกำไรงามๆ ไปพอสมควร ทว่าแกยังยืนยันที่จะทำเช่นเดิมต่อไป โดยบอกว่า

'การหลีกเลี่ยงไม่ใช้เงินกู้ ทำให้ผลตอบแทนหายไปเยอะมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ชาร์ลีและผมก็นอนหลับสบายทุกคืน เราสองคนเชื่อว่า มันไร้สติมาก ที่จะเอาสิ่งที่เรามีและจำเป็นต้องมีไปเสี่ยง เพื่อให้ได้รับในสิ่งที่เราไม่มีและไม่จำเป็นต้องมี'

ปู่ยังบอกด้วยว่า แกชอบถือเงินสดก้อนโตเอาไว้เสมอ เพื่อให้คว้าโอกาสและอยู่รอดได้ในทุกสถานการณ์

'ชาร์ลีและผมไม่เคยบริหารเบิร์คเชียร์ในลักษณะที่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ แม้จะเป็นจมูกของเพื่อนที่อาจกำลังมีปัญหาสภาพคล่องของเขาเอง อย่างในช่วงวิกฤตปี 2008-2009 เรานิยมถือตั๋วเงินคลัง โดยถือตั๋วไว้เยอะมาก ซึ่งทำให้ไม่ต้องไปพึ่งเงินทุนจากแหล่งอื่นๆ เช่น ขอเครดิตธนาคาร หรือเงินกู้ระยะสั้นต่างๆ

เราสร้างเบิร์คเชียร์ขึ้นมาในรูปแบบที่จะทำให้มันทานทนต่อความชะงักงันทางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ภาวะอันรุนแรงสุดขั้ว เช่น การที่ตลาดต้องปิดตัวลงได้อย่างสบายๆ'

นอกจากนี้ ปู่ยังสอนลูกหลานเหมือนเดิมว่า การลงทุนคือการซื้อ 'ธุรกิจ' ที่ไม่ใช่แค่ 'ตัวหุ้น'

'ชาร์ลีและผมมองหุ้นสามัญในตลาดที่เบิร์คเชียร์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ไม่ใช่แค่ชื่อย่อที่เอาไว้ซื้อๆ ขายๆ โดยดู 'ชาร์ต' หรือเชื่อ 'ราคาเป้าหมาย' ของนักวิเคราะห์หรือความคิดเห็นจากสื่อ แต่เราเชื่อว่าหากธุรกิจที่เราเข้าไปลงทุนประสบความสำเร็จ เงินลงทุนของเราก็จะประสบความสำเร็จเช่นกัน ...โดยภาพรวมแล้ว ในระยะยาว เราย่อมจะได้รับผลลัพธ์ที่ดี เพราะในอเมริกา หุ้นเป็นสิ่งที่มีลมส่งท้ายเสมอ'

ข้อคิดสุดท้าย ซึ่งผมมองว่าน่าประทับใจ และเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดแก่นักลงทุนทุกผู้ทุกนามก็คือ

'แม้ว่าโดยทั่วไป ตลาดมักจะมีเหตุผล แต่ก็มีบ่อยครั้งที่มันชอบทำอะไรบ้าๆ บอๆ การคว้าโอกาสในจังหวะเช่นนั้น จึงไม่ต้องอาศัยความฉลาดเฉลียวอะไรมากมาย ไม่ต้องมีปริญญาทางเศรษฐศาสตร์ หรือไม่ต้องคุ้นเคยกับภาษาแปลกๆ ของวอลล์สตรีท เช่น ค่าอัลฟ่าหรือเบต้า

สิ่งที่นักลงทุนต้องมี คือความสามารถในการมองข้ามความหวาดกลัวหรือพลุ่งพล่านของฝูงชน และมุ่งเน้นอยู่กับพื้นฐานง่ายๆ ไม่กี่ประการ นอกจากนี้ ความพร้อมที่จะดูแปลกแยกในช่วงเวลาสั้นๆ หรือแม้แต่ดูโง่เขลา ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน'

'ปู่' อุตส่าห์สอนไว้ชัดขนาดนี้ ถ้าตลาดพังครืนลงมาจริงๆ ลูกศิษย์อย่างเราๆ ก็อย่าลืมจำไปใช้กันนะครับ