สมองล่มด้วยข้อมูลจากพรรคพวก

สมองล่มด้วยข้อมูลจากพรรคพวก

เคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่าเวลาที่รอบตัวเต็มไปด้วยเรื่องที่ชวนเครียด ชวนให้กังวลไปหมด

รอบตัวเต็มไปด้วยเรื่องของคนแย่ๆ ยิ่งถ้าสื่อสังคมที่ติดตามอยู่เป็นประจำเต็มไปด้วยการติเตียน ด่าทอคนหน้าเดิมซ้ำๆ กัน ยิ่งถ้าโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ตามมาซ้ำในเรื่องแย่ๆ นั้นให้กับเราอีก ช่วงนั้นเราจะมองเห็นหน้าคนที่บูดบึ้งมากกว่าคนหน้ายิ้ม 

สำนักงานเต็มไปด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด เดินถนนพบเห็นคนยิ้มยากเย็นเต็มที ซึ่งที่จริงแล้วคนเดินถนนก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใสไม่ต่างไปจากเดิม คนในสำนักงานไม่ได้หน้าตาเคร่งเครียดไปจากที่เคยเป็น แต่สมองของเราถูกโปรแกรมไม่ให้มองเห็นหน้ายิ้ม 

สมองถูกโปรแกรมให้รับรู้เฉพาะหน้าบึ้ง อาการลำเอียงในการรับรู้ความเป็นจริง หรือ Cognitive Bias โปรแกรมสมองของเราไปได้สารพัด 

ถ้าลำเอียงจากการยึดพวกยึดพ้องจนเกินเลย พรรคพวกเราจะทำอะไรไม่ดี สมองก็ถูกโปรแกรมให้ละเลย ไม่มองในสิ่งที่พรรคพวกเราได้กระทำไป ผิดใหญ่กลายเป็นผิดเล็กได้เสมอ 

เมื่อมีอาการลำเอียงจากการยึดพวกพ้องมากเกินไป อาการลำเอียงในการรับรู้ความจริงนี้เกิดขึ้นได้ เพราะเรารับรู้ข้อมูลมากมายในแต่ละวันจากคนใกล้ชิด ซึ่งส่วนใหญ่นั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นพรรคพวกเรานั่นเอง เมื่อถึงเวลาที่จะวินิจฉัยว่าอะไรถูกอะไรผิดในเรื่องใหม่ๆ ก็ไม่เหลือสมองให้คิดอีกแล้ว

ในทำนองเดียวกับการโจมตีทางไซเบอร์ ที่กระทำโดยการส่งคำขอบริการที่ไร้สาระในปริมาณมากมายมหาศาลไปที่เว็บใดเว็บหนึ่ง ในเวลาใกล้เคียงกัน จนทำให้เว็บนั้นไม่เหลือความสามารถในการให้บริการกับคำขอที่มีสาระจากผู้ใช้ตัวจริง จนต้องปฏิเสธการให้บริการ หรือเว็บล่มนั้นเอง 

ถ้าสมองของบางคนอัดแน่นไปด้วยข้อมูลอะไรก็ไม่รู้จากพรรคพวกที่อยู่ใกล้ชิด คุยกันทั้งวันทั้งคืน ย่อมเป็นธรรมดาที่ความสามารถในการคิดวินิจฉัยเรื่องใดก็ตามที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ จะจางหายไป สมองล่มไปเพราะท่วมท้นด้วยข้อมูลจากพรรคพวกที่อยู่ใกล้ชิด คนเก่งระดับโลกอาจกลายเป็นผู้บริหารที่ล้มเหลวไปได้ง่ายๆ

การใส่ใจเรื่องราวที่บอกกล่าวโดยคนใกล้ชิด ที่รายล้อมอยู่รอบตัวเกิดขึ้นเป็นปกติในองค์กรที่มีลำดับการบริหารหลายชั้น ผู้บริหารระดับสูงรายล้อมไปด้วยทีมงานบริหารระดับรองๆ ลงไป ข้อมูลสาระที่ผู้บริหารระดับสูงได้รับในแต่ละวัน แทบทั้งหมดจึงมาจากทีมงานบริหารที่เป็นบริวารเหล่านั้น 

สมองอัดแน่นไปด้วยข้อมูลสาระจากบริวาร ถ้าเป็นบริวารที่ทำงานตามหน้าที่จริงๆ ท่านผู้นำระดับสูงก็จะได้ข้อมูลสาระทั้งที่สอดคล้อง และแตกต่างไปจากที่ตนเองคิดตนเองเชื่อ สมองจึงยังมีโอกาสวินิจฉัยเรื่องใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิผล ยังแยกแยะได้ว่าอะไรที่ถูก อะไรที่ผิด ไม่ว่าเรื่องนั้นจะสอดคล้องหรือแตกต่างไปจากที่ตนอยากให้เป็นหรือไม่ แยกถูกแยกผิดได้ทั้งที่เป็นพรรคพวก และไม่ใช่พรรคพวก

แต่ผู้บริหารระดับบริวารที่ทำตามหน้าที่อย่างเที่ยงตรงนั้นหาได้ยากมาก

ในกรณีที่ผู้บริหารระดับสูงมีอัตตาภิวัตร คือ คิดตามฉันนั้นถูก คิดต่างจากฉันนั้นผิด บริวารในการบริหารทั้งหลายจึงเอาตัวรอด รักษาเก้าอี้ไว้ด้วยการบอกกล่าวเฉพาะข้อมูลสาระ ที่ดูเหมือนการงานทั้งหลาย ที่พรรคพวกของผู้นำระดับสูงเต็มไปด้วยความสำเร็จ สมองของผู้บริหารจึงอัดแน่นไปด้วยเรื่องดีๆ จากพรรคพวก ผ่านการนำเข้าโดยบริวารระดับบริหาร จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้บริหารระดับสูงจะวินิจฉัยถูกผิดในเรื่องใหม่ที่ไม่ใช่งานประจำไปในทางที่คนอื่นพากันสงสัยว่าคิดอย่างนั้นไปได้อย่างไร 

สมองเก่งๆ ของผู้บริหารระดับสูงแบกภาระในการประมวลข้อมูลดีๆ จากพรรคพวกไปหมดแล้ว ไม่เหลือสมองให้ใช้คิดวินิจฉัยเรื่องใหม่ๆ ที่เข้ามาได้ อาการลำเอียงในการรับรู้ความเป็นจริงจะปรากฏให้ผู้คนเห็นชัดในสภาพการณ์นั้น 

ผู้บริหารระดับสูงกลายเป็นเว็บที่ถูกโจมตีด้วยเรื่องไร้สาระจากพรรคพวก จนกลายเป็นเว็บล่มที่ไม่สามารถให้บริการเรื่องดีที่มีสาระได้ สมองล่มเพราะอัดแน่นไปด้วยข้อมูลจากพรรคพวก

มีตัวอย่างมากมายของผู้บริหารระดับสูงที่สามารถลดอาการลำเอียงในการรับรู้ความจริง จากการถูกกระหน่ำด้วยข้อมูลสาระเกี่ยวกับความดีความเด่นของพรรคพวก และกลายเป็นผู้สร้างตำนานการบริหารมาแล้วหลายคน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ผู้บริหารจะหลุดพ้นจากการโจมตีให้สมองล่มนี้ไปได้อย่างสง่างาม 

ที่ยากจริงๆ นั้นกลับไม่ใช่การหลบหลีก แต่เป็นการสละความปลื้มปิติจากการรับรู้แต่ความสำเร็จ ความดีงามของพรรคพวกต่างหาก