Step 5 : Channel Towards Usefulness

Step 5 : Channel Towards Usefulness

Step 5 of Leadership Energy Journey : Channel Towards Usefulness “I was angry!” ชายบนเวทีกล่าวกับผู้ฟังร่วมร้อยคนในงาน TED Talk และกับผู้ชม

เขาคือ Kailash Satyarthi ผู้ได้รับรางวัล Nobel Peace Prize ในปี 2014 ปีเดียวกันกับ Malala Yousafzai

“Today, I am going to talk about anger” วันนี้ผมจะเล่าเรื่องความโกรธ

“ตอนผมอายุ 11 ผมโกรธที่เพื่อนหลายคนต้องเลิกเรียนหนังสือ เพราะไม่มีเงิน ตอนอายุ 27 ผมฟังเรื่องของเพื่อนบ้าน ที่ต้องขายลูกเข้าซ่องเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ ผมโกรธ...” น้ำเสียงสะดุดอยู่ในลำคอ ดวงตาคู่นั้นวาวโรจน์

“ตอนอายุ 35 ผมนั่งรอรถไฟอยู่ที่สถานี ผมเห็นเด็กๆ อายุไม่ถึงสิบขวบถูกนายหน้าหลอกมาใช้งานเยี่ยงทาส ผมโกรธ และที่โกรธยิ่งกว่า คือผมพยายามไปแจ้งตำรวจให้ช่วยเด็ก พวกเขากลับจับผมเข้าห้องขัง” ประโยคที่เปล่งนั้นดังเกือบเป็นตะโกน ต่อให้ไม่มีไมโครโฟนผมเชื่อว่าคงได้ยินกันทั่วห้องประชุม

“แต่ผมเปลี่ยนพลังแห่งความโกรธนั้นให้เป็นพลังแห่งความดี ใช้มันเพื่อเปลี่ยนโลกไปสู่อนาคตที่ดีกว่าปัจจุบัน” I harnessed that anger for the larger good of the society.

Satyarthi กับผมเราเป็นนักวิทยาศาสตร์ทั้งคู่ ผมสนใจเรื่องสมอง ส่วนเขาจบด้าน Electrical Engineering ด้วยจุดนี้เรามองเห็นความสัมพันธ์บางอย่างระหว่าง Energy กับ Leadership มันมีความลับซึ่งธรรมชาติซ่อนไว้ ความลับที่จะทำให้คนสามารถดึงศักยภาพของตัวเราออกมาสร้างประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

“When I was studying engineering, I learned how the energy of burning fire, the nuclear blast inside the chamber… could be harnessed for goods.” เจ้าของรางวัลโนเบลกล่าว

“The law of nature is that energy cannot be created or destroyed; it can only be translated” กฎของธรรมชาติคือพลังงานไม่เกิดขึ้น และไม่หายไป มันเพียงแปรสภาพจากรูปหนึ่งสู่รูปหนึ่ง

“เมื่อเราอยู่ในโลกอันโหดร้าย สังคมที่ปราศจากความหวังดีต่อกัน พลังงานก็จะออกมาในรูปแห่งความเกลียดชัง แต่หากเราเรียนรู้ที่จะแปรพลังนั้นไปสู่สิ่งที่ดีมีประโยชน์ พลังงานนั้นก็จะสร้างอนาคตอันงดงาม”

นั่นคือหัวใจของ Step 5 of Leadership Energy Journey : Channel Towards Usefulness ผู้นำต้องเรียนรู้การส่งพลังของตนเองไปในทางที่สร้างประโยชน์

1. Everyone has energy กติกาข้อแรกของ Leadership Energy คือ ทุกคนมีพลังงานอยู่ภายในตัวเอง คนที่สร้างปัญหาให้กับองค์กรมากที่สุดไม่ใช่คนที่ขาดไฟ หากเป็นผู้ที่มีพลังมหาศาลแต่ใช้พลังนั้นไปในทางที่ผิด
การปล่อยให้พลังของตนเองสะเปะสะปะนำไปสู่ Abuse of power คอร์รัปชัน การหลงตนเอง ประมาท โลภ หรือกระทั่งทุจริต ปัญหาส่วนมากในโลก เช่นสงครามและความไม่สงบ ล้วนเกิดจาก Misdirected energy

2. Energy is neutral กติกาข้อสองคือ พลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมาไม่ใช่บวกหรือลบ ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ของเรา These are your managerial skills.

วิธีง่ายๆที่ผู้นำสามารถฝึกทักษะนี้ได้คือการแยกแยะระหว่าง Interesting vs. Useful เรื่องต่างๆที่เข้ามาสามารถจัดได้ในสองหมวดนี้ การรู้ว่าเพื่อนร่วมงานหนุ่มโสดไปกินข้าวกับสาวไม่ซ้ำหน้านั้นน่าสนใจแต่ไม่มีประโยชน์ การ

ถามว่าใครเป็นคนทำให้เกิดปัญหานี้น่าสนใจแต่ไม่มีประโยชน์ การโยนความรับผิดชอบให้แผนกอื่นก็น่าสนใจแต่ไม่มีประโยชน์ Try to focus less on what is interesting and more on what is useful.

3. Master the front brain สมองส่วนที่ใช้ในการควบคุมพลังงานคือสมองส่วนหน้า

Chip and Dan Heath สองพี่น้องผู้เขียนหนังสือเรื่อง Switch: How to change things when change is hard เปรียบสมองส่วนหลังแห่งอารมณ์ว่า ทรงพลังเหมือนช้างพลายที่พร้อมออกศึก แต่สมองส่วนหน้าแห่งเหตุผลนั้นเหมือนควาญช้างที่คอยควบคุมทิศทาง Leadership Energy ต้องใช้ได้ทั้งคู่

Satyarthi บอกว่าจงใช้ความโกรธสร้างไอเดีย และนำไอเดียนั้นไปเปลี่ยนแปลงโลก เขาไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ทำเช่นนั้น
โทรศัพท์ไอโฟนซึ่ง ‘เปลี่ยนโลก’ ก็ถือกำเนิดมาจากวิถีเดียวกัน Scott Forstall อดีตผู้บริหารบริษัทแอปเปิ้ลเล่าว่า Steve Jobs เคยฉุนเพื่อนของภรรยาคนหนึ่ง ซึ่งคอยโอ้อวดว่า Microsoft จะเปลี่ยนโลกด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่

สตีฟน่ะบ้าไปแล้วที่จะคิดแข่งขันกับอัจฉริยะอย่าง Bill Gates ฯลฯ จนกระทั่งถึงจุดที่เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป “F___ this, let’s show him what a tablet can really be.”

สตีฟสามารถเลือกระบายความโกรธด้วยการต่อยหน้าคู่กรณีสักที... แต่เขาไม่ทำ

สิ่งที่เขาเลือกทำคือใช้พลังจากจุดนั้นสร้างเครื่องมือสื่อสารซึ่ง... เปลี่ยนโลก

นี่คือ Step 5 of Leadership Energy Journey : Channel Towards Usefulness ครับ