ทำงานไม่รู้เบื่อ..เมื่อออฟฟิศเป็นมากกว่าที่คุณจินตนาการ

ทำงานไม่รู้เบื่อ..เมื่อออฟฟิศเป็นมากกว่าที่คุณจินตนาการ

เร็วๆ นี้เพิ่งจะมีงานวิจัยบอกว่าการนั่งทำงานในร้านกาแฟ สมองจะแล่น คิดงานออก เกิดการสร้างสรรค์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการนั่งทำงานในออฟฟิศ 

ทั้งปัจจัยเรื่องของบรรยากาศ เสียงเพลง สิ่งกระตุ้นแรงบันดาลใจต่างๆก็ดี 

จนเริ่มมีความคิดว่า ทำไมถึงไม่ทำออฟฟิศให้เป็นร้านกาแฟเสียเลยล่ะ? นี่จึงเป็นหนึ่งในที่มาของแนวคิดการแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกันหรือ‘โคเวิร์คกิ้งเสปซ(Coworking Space)’นั่นเอง

สำหรับผู้ประกอบการรายเล็กหรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็น‘สตาร์ทอัพ’ การเช่าออฟฟิศเล็กๆ สักแห่งดูเป็นภาระค่าใช้จ่ายพอสมควร ยิ่งช่วงเวลาที่ต้องตั้งตัวเมื่อเริ่มต้นนั้น การควบคุมค่าใช่จ่ายเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง 

ถ้าทำงานกันแค่สามคน มีเจ้าของบริษัท เลขานุการ และพนักงานบัญชี แต่เสียเงินไปกับค่าเช่าเป็นแสนบาทต่อเดือนก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักทีเดียว 

แนวคิดของโคเวิร์คกิ้งสเปซ จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่ซ่อนเร้น (Latent Need)นี้ ในต่างประเทศแบรนด์ “วีเวิร์ค(WeWork)”เป็นโคเวิร์คกิ้งเสปซที่ใหญ่ที่สุดของโลก ล่าสุดฟอร์บส(Forbes)ประเมินว่ามูลค่าธุรกิจของวีเวิร์คสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ และเพิ่งระดมทุนล่าสุดได้มากกว่า 700 ล้านดอลลาร์ 

ขณะที่ประเทศไทยมีหลายแบรนด์ที่ทำตลาดอย่างคึกคักในพื้นที่กรุงเทพฯและเมืองใหญ่ 

โกลว์ฟิช(Glowfish)”คืออีกหนึ่งแบรนด์ที่ยกระดับโคเวิร์คกิ้งสเปซให้เป็นมากกว่าพื้นที่นั่งทำงาน  รายการ Business101 ช่วง Biz Connect ไปเยี่ยมโกลว์ฟิชที่สาขาสยามสสแควร์ กวิน ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการ เป็นผู้พาชมสถานที่ 

กวิน ให้คำจำกัดความว่าแบรนด์ของตนคือ “ออฟฟิศสำเร็จรูป (Service Office)” ที่ให้บริการทั้งสถานที่ทำงาน สถานที่จัดกิจกรรม และชุมชน(Community)ของคนรุ่นใหม่ที่ทำธุรกิจ ซึ่งต้องตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตที่ครบวงจร อย่างพื้นที่ของสาขาล่าสุดที่สาทร มีทั้งร้านอาหาร มีฟิตเนสเซ็นเตอร์ ห้องจัดประชุม และห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ 

จุดขายสำคัญคือความสะดวก(Convenience)และความยืดหยุ่น(Flexibility) ที่สอดรับไปกับความต้องการของผู้เช่า ที่โกลว์ฟิชจะเน้นตลาดของธุรกิจที่แข็งแรง ยืนหยัดด้วยตัวเองได้แล้ว พอมีกำไร เป็นตลาดในระดับกลางและสูงขึ้นไป ผู้เช่าสามารถนั่งประชุมและสั่งอาหารมารับประทานได้เลย หรือจะจัดคอนเสิร์ตเล็กๆ หลังเลิกงานก็ย่อมได้ 

ด้วยสิ่งแวดล้อมที่คนมีไฟในธุรกิจรวมตัวกัน การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ(Networking) จึงเกิดขึ้นอยู่เสมอ และสิ่งนี้ประเมินค่าไม่ได้ 

บ่อยครั้งที่บริษัทที่เป็นเพื่อนบ้านในพื้นที่เดียวกนกลายเป็นลูกค้า เป็นซัพพลายเออร์หรือนำไปสู่เครือข่ายอื่นๆที่เป็นประโยชน์ได้อีกมากมาย เรื่องกลยุทธ์การด้านราคาเป็นสิ่งที่กวินและทีมโกลว์ฟิชคิดแล้วคิดอีก แม้ว่าจะออกแบบสถานที่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมาเป็นอย่างดีเหมือนบูทีคโฮเทล แต่ก็ต้องตั้งราคาให้แข่งขันได้ด้วย 

โดยค่าใช้จ่ายคร่าวๆจะอยู่ที่ 1หมื่านบาทต่อหัว คิดง่ายๆคือ ถ้าออฟฟิศอยู่กัน 5 คน ก็เสียค่าเช่าประมาณ 5 หมื่นบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับบรรยากาศการทำงานในสถานที่ที่มีรถไฟฟ้าอยู่หน้าตึก! 

กวิน ให้ความสำคัญเรื่องของที่ตั้งอย่างยิ่ง จะเลือกเฉพาะพื้นที่ที่เป็นใจกลางเมืองหรือซีบีดี(Central Business District)เท่านั้น ที่ผ่านมามีสาขาที่อโศก สยามแสควร์ และสาทร ซึ่งเป็นย่านของคนทำงานที่มีกำลังซื้อทั้งสิ้น

ธุรกิจโคเวิร์คกิ้งสเปซก็คือการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์(Property Management)นี่เอง ที่ต้องวางแผนการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่ามากที่สุด ความแตกต่างแต่ละจุดของแต่ละพื้นที่ หมายถึงราคาขายที่ปรับเปลี่ยนได้ทั้งสิ้น 

นอกจากนี้ยังถือเป็นธุรกิจบริการด้วย ที่ต้องบริหารจัดการความพึงพอใจของลูกค้า นำเสนอบริการที่ผู้เช่าต้องการทั้งการใช้ออฟฟิศในเวลากลางคืน บริการพื้นฐานอย่างอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การทำความสะอาด หรือการรักษาความปลอดภัยต้องพร้อมรองรับตลอด 24 ชั่วโมงด้วย แผนในวันข้างหน้า โกลว์ฟิชจะเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากแต่ละพื้นที่ที่มี 

รวมถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดกับลูกค้าที่มีอยู่ให้เป็นสังคมการทำงานที่แตกต่าง สนุก และมีประสิทธิภาพควบคู่กันไป 

เรามักจะฮือฮากับออฟฟิศของกูเกิลหรือเฟซบุ๊ค ครั้นจะลงทุนก่อสร้างเอง หรือเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ก็ดูจะเกินกำลัง ทางเลือกอย่างโคเวิร์คกิ้งเสปซจึงดูเข้าท่าสำหรับธุรกิจที่ “จิ๋วแต่แจ๋ว” แถมยังได้เพื่อนใหม่และโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย