BikeTech (1) : จักรยานที่รัก

BikeTech (1) : จักรยานที่รัก

ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกำลังผลักดันประเทศไทยให้เป็นประเทศไทย 4.0 หรือ Thailand 4.0 นี้ ได้เกิดคำใหม่ๆในวงการสนทนามากขึ้น

ในทางการเงิน ตลาดเงินตลาดทุน มีคำว่า ฟินเทค (FinTech) ที่ย่อมาจากคำว่า Financial Technology คำว่า เฮ้ลท์เทค (HealthTech) ที่ย่อมาจากคำว่า Healthcare Technology คำว่า สตาร์ทอัพ (Startup) ซึ่งหมายถึงธุรกิจเกิดใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์สมัยใหม่ เกิดคำว่า บล็อกเชน (Blockchain) และอีกหลายๆคำที่ใช้พูดกันหนาหู กิจการที่อาศัยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่เกิดและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อย่างที่เรียกกันว่า ดิสรัพทีฟ (Disruptive) ภายในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) จำนวนมากก็มักล่มสลายภายในระยะเวลาไม่นาน เหลือที่อยู่รอดปลอดภัยแทบจะเรียกว่าไม่กี่เปอร์เซ็นต์ การจากไปของธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) อย่างรวดเร็วถือเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจใหม่ๆ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าอยู่รอดได้ ดูจะเป็นเรื่องอัศจรรย์มากกว่า

แต่อาจมีบางธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีแนวโน้มว่าจะอยู่ได้นาน เหตุเพราะธุรกิจเหล่านั้นมีพื้นฐานเดิมที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ปรับเปลี่ยนให้เป็นธุรกิจทันสมัย โดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่ๆเหมาะกับยุคสมัยของคนรุ่นใหม่ ก็น่าจะมีหนทางและอนาคตที่ดีได้

ธุรกิจจักรยานเป็นหนึ่งในธุรกิจแบบเก่า ที่อาจแปลงโฉมเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) ได้ และยิ่งมีการสร้างและออกแบบ Software Application ใหม่ๆ ก็จะยิ่งช่วยให้ BikeTech ก้าวไปข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น

บทบาทของจักรยานสองล้อที่ผู้คนทั่วโลกใช้กันมาช้านานนับร้อยๆปี นับวันจะได้กลับมาเป็นที่ยอมรับมากขึ้น หลังจากยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์กำลังถูกลดทอนในการใช้งาน เพราะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดมลพิษระดับโลก ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน ก่อให้เกิดการใช้เชื้อเพลิงประเภทฟอสซิลที่กำลังจะหมดไป ก่อให้เกิดสภาวะการจราจรที่แก้ไม่ตก ก่อให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายจากการใช้รถใช้ถนน และอีกมากมายหลายอย่างที่เป็นภัยต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์โดยถ้วนหน้า

จักรยานดูเหมือนจะเป็นพาหนะที่อยู่ตรงกันข้ามกับรถที่ใช้เครื่องยนต์ จักรยานทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นเพราะไม่มีมลพิษถูกปลดปล่อย ทำให้สุขภาพอนามัยของประชาชนดีขึ้นเพราะได้ออกกำลัง ทำให้ปัญหาเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนลดน้อยลงเพราะปัญหาจากจักรยานไม่รุนแรงเหมือนยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์ และอีกมากมายหลายอย่างที่ดีกับมนุษย์

ที่สำคัญคือเทคโนโลยีจักรยานก็กำลังเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เรามีรูปแบบจักรยานที่หลากหลายมากขึ้น และด้วยเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆที่มีขนาดเล็กมาก ก็ทำให้จักรยานรุ่นใหม่ๆทำอะไรได้เหมือนรถยนต์หรือจักรยานยนต์มากขึ้น จักรยานรุ่นใหม่ๆติดกล้องได้ มีเซ็นเซอร์ (Censor) เก็บข้อมูลที่สำคัญและมีประโยชน์ได้ จักรยานแบบใหม่เมื่อผู้ขี่ไปตามถนนเกิดพบเห็นหลุมบ่อที่ต้องซ่อมแซมก็รายงานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้โดยอัตโนมัติ กล้องติดจักรยานให้ข้อมูลขณะปัจจุบัน (Real Time) ไม่ว่าเรื่องคนเดินข้ามถนน มลพิษในอากาศ ณ เวลาใดๆ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ทั้งสิ้น

ในยุโรปตะวันตกเชื่อว่า ในที่สุดแล้ว จำนวนผู้ใช้จักรยานจะชนะผู้ใช้รถยนต์บนท้องถนน เทคโนโลยีจักรยานจึงอาจกลายพันธุ์เป็นdisruptive technology อีกประเภทหนึ่งได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้จริง เราคงไม่ต้องสร้างถนนให้รถยนต์วิ่งเพิ่มทุกปี และ มีความเป็นไปได้ที่การเดินทางในอนาคตในเขตเมือง ประชาชนจะหันมาใช้จักรยานมากขึ้น และอาจกลับมาเป็นเจ้าถนนแทนรถยนต์และจักรยานยนต์ได้ในหลายประเทศ