สัญญาณอันตรายในอเมริกาและฝรั่งเศส

สัญญาณอันตรายในอเมริกาและฝรั่งเศส

เดือนหน้าฝรั่งเศสอาจได้ประธานาธิบดีสตรี ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ไม่ต่างกับอเมริกา ซึ่งแทบไม่เคยคาดคิด ว่าจะได้นายโดนัลด์ ทรัมป์

 ทั้งสองต่อต้านโลกาภิวัตน์ รังเกียจชนชาติอื่นและไม่เชื่อว่าโลกนี้มีปัญหาด้านระบบนิเวศ เนื่องจากประชาชนของสองประเทศนั้นมิใช่คนโง่โดยพื้นฐาน ฉะนั้น การเทคะแนนให้คนทั้งสอง จึงมีแรงจูงใจที่ไม่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง บ่อยครั้ง บทความในคอลัมน์นี้ชี้ไปที่การแย่งชิงทรัพยากรโลก ซึ่งร่อยหรอลงในขณะที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ซ้ำร้ายแต่ละคนยังต้องการใช้ทรัพยากรเพิ่มขึ้น จึงผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ชาวฝรั่งเศสและชาวอเมริกันจำนวนมากเชื่อว่า นักการเมืองทั้งสองคนจะทำให้ตนได้ส่วนแบ่งจากการแย่งชิงเพิ่มขึ้นจนถึงกับมองข้ามความบกพร่องของเขา

ในอดีต สภาพการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งยังผลให้สังคมหลายแห่งล่มสลาย ตอนนี้ โลกมีสังคมเดียวเพราะเทคโนโลยีใหม่ส่งผลให้โลกไร้พรมแดน การแย่งชิงกันที่จะทำให้ประวัติศาสตร์เกิดซ้ำรอยจึงเป็นการล่มสลายของโลกทั้งหมด ความเป็นไปได้นี้ยังแทบไม่มีการยอมรับ ส่งผลให้ไม่เกิดการปรับเปลี่ยนนโยบายในระดับประเทศ และพฤติกรรมในระดับบุคคลจนทำให้โลกมีโอกาสล่มสลายเร็วขึ้น

ก่อนการเลือกตั้งในฝรั่งเศส 4 วัน บีบีซีออนไลน์เผยแพร่บทความของราเคล นูเวอร์เรื่อง How Western Civilization Could Collapse แรงจูงใจในการเขียนบทความในช่วงนี้และมีจำนวนผู้อ่านเท่าไรไม่เป็นที่ประจักษ์ ชื่อของบทความบ่งว่าเป็นเรื่องของอารยธรรมตะวันตก แต่เนื้อหาครอบคลุมโลกทั้งหมด ฉะนั้น เนื้อหาน่าจะได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางทั้งในระดับรัฐบาลและในระดับบุคคลมากพอจนก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนนโยบายและพฤติกรรมเพื่อจะทำให้ประวัติศาสตร์ไม่เกิดซ้ำรอย

บทความนำผลการวิจัยจากหลายแหล่งมาสรุปว่า นอกจากปัจจัยจำพวกภัยธรรมชาติที่เราคาดล่วงหน้าไม่ได้แล้ว ปัจจัยที่จะทำให้อารยธรรมตะวันตกล่มสลายมี 2 ด้าน แต่ชาวโลกมักมองเห็นและยอมรับอย่างกว้างขวางเพียงด้านเดียว นั่นคือ ความเสื่อมของระบบนิเวศซึ่งแสดงอาการออกมาทางปัญหาต่าง ๆ รวมทั้งภาวะโลกร้อน ส่วนด้านที่สองซึ่งยังมองกันไม่ค่อยเห็นได้แก่คนรวยกลุ่มเล็ก ๆ กวาดทรัพยากรไปครอบครองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สภาพการณ์นี้ในที่สุดจะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงจนคนรวยเองก็หนีไม่พ้นผลพวงของความล่มสลาย

โลกจะหวังให้ผู้นำเช่นนายทรัมป์ทำอะไรที่จะพาไปสู่ความเปลี่ยนแปลงเพื่อป้องกันมิให้ประวัติศาสตร์เกิดซ้ำรอยย่อมเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้เพราะนายทรัมป์ไม่เชื่อเรื่องความเสื่อมของระบบนิเวศ จึงเริ่มปรับเปลี่ยนนโยบายไปในทางทำลายสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้น เขายังมองไม่เห็นว่าการเพิ่มความมั่งคั่งให้กลุ่มคนรวยจะนำไปสู่ความหายนะได้อย่างไร จึงเริ่มปรับเปลี่ยนนโยบายที่สนับสนุนให้กลุ่มคนรวยเพิ่มความร่ำรวยได้ง่ายขึ้น

ทางด้านฝรั่งเศส การเลือกตั้งยังไม่สิ้นสุด หลังการลงคะแนนรอบสองในเดือนหน้าจึงจะรู้ว่านักการเมืองสตรีที่มีแนวคิดคล้ายนายทรัมป์จะชนะหรือไม่ ถ้าเขาชนะ ฝรั่งเศสก็จะเดินตามอเมริกา นั่นหมายความว่า โลกจะมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงขึ้นอีก ทั้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติและระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกัน

บทความดังกล่าวสรุปว่า มนุษย์เรายังมีโอกาสป้องกันมิให้ความล่มสลายเกิดขึ้นโดยการปรับเปลี่ยนนโยบายและพฤติกรรม แต่ก็นำความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมาเสนอว่า ปัจจัยทางการเมืองและทางจิตวิทยาเป็นอุปสรรคใหญ่ที่จะทำให้ไม่เกิดการปรับเปลี่ยน ฉะนั้น โลกใบนี้คงไม่มีทางรอดจากความล่มสลาย

เท่าที่พออนุมานได้ โลกมีคนสามกลุ่มคือ กลุ่มแรกไม่ใส่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นจึงไม่คิดจะทำอะไรต่างไปจากเดิม กลุ่มสองเชื่อว่าความล่มสลายไม่มีทางหลีกเลี่ยง จึงเร่งใช้ทรัพยากรอย่างเต็มที่ กลุ่มสามพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในกลุ่มนี้มีทั้งมหาเศรษฐีวอร์เรน บัฟเฟตต์กับพรรคพวกและชาวโลกที่ลดการบริโภคลง ข้อมูลชี้บ่งว่า กลุ่มมหาเศรษฐีและชาวโลกที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างมีความสุขกายสบายใจไม่ต่ำกว่าเดิม 

คนไทยจะอยู่ในกลุ่มสามเท่าไรยากแก่การคาดเดา หวังว่าจะเป็นกลุ่มใหญ่ซึ่งไม่รอเศรษฐีและรัฐบาลไทยให้ออกนำหน้าเพราะทั้งคู่ไม่มีทีท่าว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและนโยบายอันเนื่องมาจากการมองเห็นสัญญานอันตรายที่เกิดขึ้นในอเมริกาและฝรั่งเศส