เรื่องสมมติ ล้วนๆ...

เรื่องสมมติ ล้วนๆ...

บอกไว้ก่อนนะครับ... เป็นเรื่องสมมติล้วนๆ!

เรื่องสมมติ เรื่องแรก...

ในธุรกิจให้บริการเครือข่ายมือถือของทุกค่าย ที่ดุเดือดเลือดพล่านกันมานาน ต่างก็พยายามรักษาฐานลูกค้ากันสุดชีวิต แต่ลูกค้าจำนวนไม่น้อยของแต่ละค่าย ต่างก็ดิ้นรนสุดชีวิตเช่นกันเพื่อย้ายไปค่ายคู่แข่ง ที่ออกแคมเปญมาดึงดูดสารพัดแบบตลอดเวลา.. แต่ละค่ายเรียกว่าได้ลูกค้าใหม่แทบไม่พอกับจำนวนลูกค้าที่ไหลออก วนเวียนกันอยู่อย่างนี้แหละ!

ถ้าผมเป็นผู้บริหารระดับสูงของแต่ละค่าย...

นอกจากจะเร่งหาลูกค้าใหม่แล้ว.. ลูกค้าปัจจุบัน โดยเฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการมายาวนานห้าปีหรือสิบปีขึ้นไป(ทั้งลูกค้าบุคคลและกลุ่ม SME / ลูกค้าองค์กร)

ผมจะให้ลูกค้าที่ใช้มาหลายปี ได้ส่วนลดค่าบริการ...เช่น ใช้มา5ปีขึ้นไป ได้ส่วนลดค่าบริการเดือนละ 5% ติดต่อกัน5เดือน... ไล่ไปจนถึง 10 ปีขึ้นไป ก็ลดค่าบริการ 5% ถึง 10 เดือน เป็นต้น!

ยอม“ขาดทุนกำไรนิดหน่อย” แต่ดีกว่าไป “หมดทุนกับการหาลูกค้าใหม่แล้วลูกค้าเก่าก็ยังไหลออกต่อเนื่อง” คุ้มกว่ากันเยอะ!

และจะดึงลูกค้าที่ย้ายค่ายให้กลับมา รับสิทธิ์นี้ด้วย สามารถมาสวมสิทธิ์เชื่อมต่อกับระยะเวลาที่เคยใช้บริการกี่ปี ก็รับสิทธิ์นี้ได้เลย!

เชื่อเถอะ! ลูกค้าที่จะย้ายค่ายก็คิดหนักก่อนที่จะย้าย.. ส่วนลูกค้าที่เคยย้ายไปแล้ว เมื่อครบเงื่อนไขของคู่แข่ง ก็จะย้ายกลับมาใช้สิทธิ์จำนวนไม่น้อย..!

เรื่องสมมติเรื่องนี้... เป็นผลดีกับลูกค้า เพราะลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า (อาจไม่มากมายในแง่ตัวเงิน แต่มากไปด้วยความรู้สึกที่ดีกับค่ายที่ทำ.. และเป็นผลดีกับค่ายมือถือ เพราะลดการสูญเสียลูกค้า ลดค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าใหม่มาชดเชยลูกค้าที่สูญเสีย และยังได้ลูกค้าที่เคยย้ายค่าย กลับมาใช้บริการอีก ดีต่อใจกับทุกฝ่าย..

น่าจะลองทำดูนะ!?

เรื่องสมมติ เรื่องที่สอง..

ในธุรกิจสื่อ... ไม่ว่าจะสื่อทีวีและสื่อสิ่งพิมพ์(นิตยสาร/หนังสือพิมพ์) ไม่ต่างจากหลายๆธุรกิจที่โดนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมการดูการอ่าน ที่เปลี่ยนจากดูที่เครื่องทีวี โดยเริ่มต้นจากเปลี่ยนไปดูเนื้อหาของทีวีทางคอมพิวเตอร์ (PC & NOTEBOOK) ไปเรื่อยๆจนมาดูทางแท็ปเล็ตและทางมือถือในปัจจุบัน

สื่อทีวีหลายๆค่ายต่างก็พยายามปรับตัวกัน เชื่อมโยงเข้ากับ Social Media เช่น Facebook Live เพื่อดึงคนดูถึงจะดูคนละ Platform ก็ยังดี แต่ก็ยังช่วยดึงคนดูกลับมาดูทีวีได้อย่างเช่น Workpoint ทำสำเร็จ (อย่างว่านะ Content ของ Workpointเน้นไปที่“ความบันเทิง”และเป็นเจ้าพ่อเกมโชว์อยู่แล้ว ก็เลยถูกจริตคนไทย)

สื่อนิตยสาร ทยอยปิดตัวลง... สื่อหนังสือพิมพ์ พยายามกัดฟันสู้มาโดยตลอด... ก็เอาใจช่วยให้สู้ได้นะครับ

ถ้าสมมติว่า...

สื่อหนังสือพิมพ์... กลายเป็นสื่อเดียว ที่ใช้กลยุทธ์ร่วมและแยกเพื่อดึงคนให้กลับมาอ่านหนังสือพิมพ์กันอีกครั้ง ไม่ใช่อ่าน เนื้อหาของหนังสือพิมพ์(ฟรี)ทางมือถือหรือหน้าจอที่ไม่ใช่กระดาษอย่างเช่นปัจจุบัน.. คงจะเป็นทางรอดที่น่าสนใจและน่าเอาใจช่วยให้ทำได้เป็นอย่างยิ่ง!

กลยุทธ์“ร่วมและแยก”ของหนังสือพิมพ์ในที่นี้ก็คือ...

“ร่วม” หมายถึง ยังคงอยู่ในโลกของ Social Media ที่มีให้อ่านกัน (ฟรี) อย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้มานานแล้ว...

“แยก” หมายถึง...มีContent ที่เด่นๆ โดนๆ (ทั้งคอลัมน์ ไปจนถึงรายละเอียดบางข่าว!) จะมีเฉพาะใน หนังสือพิมพ์ที่เป็นกระดาษเท่านั้น!

หรือ ทุกสัปดาห์ จะต้องมีอย่างน้อย1วัน ที่ไม่มีเนื้อหาให้อ่าน(ฟรี)ทางหน้าจอ... ต้องซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านเท่านั้น! นี่คือ แยกแบบที่1.

แยก..แบบที่ 2.คือ แยกแยะให้ขัดว่าใครคือคู่แข่งที่แท้จริง!

หนังสือพิมพ์แต่ละค่าย จะต้องเลิกมองว่า ต่างฝ่ายต่างเป็นคู่แข่ง เพราะทุกวันนี้ คู่แข่งที่แท้จริงไม่ใช่แต่ละค่ายเหมือนในอดีต แต่คู่แข่งที่แท้จริง คือ Social Media และ ทุกจอ..ที่มีเนื้อหาให้อ่านฟรี!

ถ้าเข้าใจตรงกัน... ก็ถึงเวลาที่แต่ละค่าย ก็จำเป็นจะต้อง“ร่วม” คือร่วมมือกันคิด ร่วมมือกันทำ ให้ลูกค้า “เริ่มกลับมาซื้อ มาอ่านหนังสือพิมพ์ที่เป็น หนังสือพิมพ์จริงๆ”อีกครั้ง!

ร่วมกันสร้าง “Story” และสร้าง “เสน่ห์” ไปจนถึงสร้าง “ประสบการณ์ ในการ อ่านหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระดาษ...

จะเริ่มกับลูกค้าบางกลุ่มอายุ ที่เคยคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือพิมพ์แล้วเปลี่ยนไปอ่านหน้าจอ (เช่น กลุ่มคนอายุ 40 Up)

เพื่อให้กลับมาอ่านหนังสือพิมพ์จริงๆอีกครั้ง...

หรือจะเริ่มสร้างกระแส กับคนรุ่นใหม่ เด็กรุ่นใหม่ก็น่าลอง ให้สัมผัสประสบการณ์ การอ่านหนังสือพิมพ์จริงๆ ที่ไม่ได้ถูกมองว่าไม่ทันสมัย ให้กลายเป็น ร่วมหรือล้ำสมัย ให้ได้! (แน่นอน “เนื้อหาและรูปแบบ” ของหนังสือพิมพ์ยุคใหม่ต้องตอบโจทย์เด็กรุ่นนี้ด้วยนะ!)

อย่างที่จั่วหัวเรื่องไว้ไงครับ.... ว่า เป็นเรื่องสมมติล้วนๆ...(ทั้งเรื่องธุรกิจเครือข่ายมือถือ และสื่อหนังสือพิมพ์)...

แต่บ่อยครั้งที่เรา สมมติ.. หรือจินตนาการ... แล้วลองคิด ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ไม่เคยคิดจะทำหรือไม่น่าจะทำได้

แต่เมื่อ กล้าๆ คิด กล้าๆ แหกกฎแหกกรอบ”....

ก็ไม่แน่ว่า เรื่องสมมติล้วนๆนี้...อาจเป็นทางรอด หรือเป็นตัวพลิกโฉมให้กับธุรกิจของเราก็ได้!

หวังว่าเรื่องสมมตินี้... จะช่วยจุดประกายให้กับหลายๆธุรกิจ 

ไม่ใช่แค่ธุรกิจเครือข่ายมือถือ หรือสื่อสิ่งพิมพ์เท่านั้นนะครับ!