ขอความมั่นใจ

ขอความมั่นใจ

บอร์ดสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมเดินหน้ามาตรการแก้ปัญหาขายสลาก “เกินราคา” ระยะที่ 2 ด้วยการพิมพ์สลากเพิ่ม

 จัดสรรให้ผู้จำหน่ายรายย่อยโดยตรง ผ่านการจองกับธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ ในราคาฉบับละ 70.40 บาท และจะพิมพ์เพิ่มตามความต้องการของผู้จองได้ไม่จำกัดจำนวน ตามความสามารถในการผลิตที่ 100 ล้านฉบับ จากที่พิมพ์อยู่ 74 ล้าน หมายความว่าสามารถพิมพ์เพิ่มอีก 24 ล้านฉบับได้ทันทีที่มีความต้องการ

000 ข้อทักท้วงทุกครั้งที่มีการเพิ่มจำนวนผลิตหรือเพิ่มรูปแบบการขายสลาก ก็คือเพิ่มการมอมเมา ซึ่งสำนักงานสลากกินแบ่งฯ และรัฐบาลเองก็ปฏิเสธยากว่ารูปแบบของ“หวยรัฐ”แท้จริงแล้วก็ไม่ต่างไปจาก“เล่นพนัน” ที่ผู้เล่นลงทุนไปโดยมีโอกาส“ได้”เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ และยิ่งเล่นก็ยิ่งเมามัน ยิ่งเสียก็ยิ่งตามไม่รู้จบ เป็นการพนันที่เล่นกันได้ข้างถนน โดยไม่จำกัดเพศและอายุ

000 ในทางการตลาด...การเอา“อุปสงค์-อุปทาน”มาเป็นตัวกำหนดราคาเป็นกลไกปกติสำหรับสินค้าทั่วไป แต่ไม่น่าจะ“ใช่”ทางออกของการขายสลากฯ เพราะปัญหาแท้จริงไม่ได้เกิดจากการมีสินค้าน้อยกว่าความต้องการของตลาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัญหา“โควตา”ที่เรื้อรังมายาวนาน และเป็นเหตุผลเดียวกับข้ออ้างในการผุดไอเดีย“สลากออนไลน์”เมื่อ 20 ปีก่อน

000 การแก้ปัญหาในระยะที่ 1 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยอมรับว่าประสบความสำเร็จพอสมควร โดยเฉพาะการแก้ปัญหาสลาก เกินราคา” ที่แก้ไปได้อย่างน้อย 98% แต่ก็ยังไม่ได้หมายความว่าแก้ไขได้ถูกจุดเสียทีเดียว เพราะ“ทุกข์”กลับไปตกหนักกับคนหาเช้ากินค่ำที่เป็นผู้ค้ารายย่อย ที่ยังรับสลากมาด้วยราคาเท่าเดิมแต่ต้องขายในราคา“ต่ำลง” 

000 ในขณะที่พ่อค้า“คนกลาง”คนที่ได้รับโควตา หรือ“มาเฟียสลาก”ที่ต้องยอมรับว่ายังหลงเหลืออยู่มาก...บรรดา “ยี่ปั๊วะ-ซาปั๊วะ” เหล่านี้ก็ยังคงร่ำรวยกันต่อไป ส่วนนัก“เสี่ยงโชค”ที่ได้ประโยชน์ชัดที่สุด ก็ไม่ถึงกับเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในฐานะลำบาก การซื้อสลากถูกลงฉบับละ 20 บาท จากการซื้องวดละ 2-3 ฉบับ อาจจะไม่มีผลกระทบกับ“เงินในกระเป๋า” 

000 วันนี้คนที่น่าเป็นห่วงและควรได้รับการดูแลที่สุดในเส้นทางการขายสลากฯ คือ ผู้ค้ารายย่อย” ที่ก่อนหน้านี้มีหลายคนถูกจับเพราะขายเกินราคา ทั้งที่ต้นทุนที่รับมาจาก“คนกลาง”ก็เฉียด 80 บาทเข้าไปแล้ว แม้ว่าวันนี้จะมีการสะสางระบบโควตาไปบ้าง และกำลังจะให้ “โอกาส” เข้าไปจองซื้อโดยตรงกับธนาคารกรุงไทย แต่สำนักงานสลากฯ ก็ต้องสร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิดการ“ฉ้อฉล”ซ้ำรอยขึ้นมาอีก

000 ฝากพล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานบอร์ดสลากฯ ช่วยทำให้สังคมมั่นใจว่าสลากที่จะมีการจัดสรรเพิ่ม จะไม่เข้าไปสู่กลไก-กลโกงแบบเดิม ที่พ่อค้าคนกลางไป“ซื้อ”ชื่อชาวบ้านมาใช้สิทธิ์ แบบเดียวกับบางองค์กรเคยถูกครหาว่ามีการ“ยืมชื่อ”สวมโควตากันในสนนราคาค่าจ้างงวดละ 3 พันบาท

000 รวมทั้งต้องให้หลักประกันด้วยว่า “ชาวบ้าน” ที่ประสงค์จะเป็นผู้ค้า “ตัวจริง” จะเข้าถึงสิทธิ์ในการซื้อ... อย่าให้เหมือนอย่างในอดีตที่ “คนขายสลาก” ต้องมานั่งรอกันตั้งแต่ดึกเต็มบันไดหน้ากองสลากฯถนนราชดำเนิน เพื่อแย่งกันซื้อสลากที่จะเปิดขายในตอนเช้าและสุดท้ายบางคนก็ต้องกลับไปมือเปล่า...รวมทั้งส่วนแบ่ง 12% ที่คนขายจะได้รับฉบับละ 9.60 บาท ก็อาจจะจะต้องมีการพิจารณาให้เหมาะด้วยเช่นเดียวกัน

000 วันอาทิตย์ที่ 6 ก.ย.นี้ สภาปฏิรูปแห่งชาติ จะโหวต“ร่างรัฐธรรมนูญ” ใครรับหรือไม่รับอย่างไรติดตามดูกันได้ เพราะจะเป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผย เริ่มกันในเวลา 10.00 น. ไม่น่าจะเกินเที่ยงวันก็น่าจะเสร็จเรียบร้อย !!!

 .................................

นฤพีร์ เพชรดล [email protected]