I’m Fit สร้างธุรกิจจาก Lifestyle

 I’m Fit สร้างธุรกิจจาก Lifestyle

ปัจจุบันผู้บริโภคไม่เพียงแค่ใส่ใจในเทรนด์ของการดูแลสุขภาพเท่านั้น การมีรูปร่างที่ดีเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก

นอกจากการออกกำลังกายแบบ Cardio, Weight Training หรือการออกกำลังกายที่เน้นให้มีการเผาผลาญสูงและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อให้มีรูปร่างที่ดี ความนิยมในการเลือกรับประทานอาหารโดยเฉพาะโปรตีนก็เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคนห่วงรูปร่างเช่นกัน

"คุณณพล เสริมสกุลวัฒน์" และ "คุณปฐมา ทิพยะวัฒน์" เจ้าของธุรกิจ I’M FIT ผู้ผลิตเครื่องดื่มโปรตีนนมถั่วเหลืองพร้อมดื่ม (Soy Protein) และกรีกโยเกิร์ต (Greek Yogurt) ที่ให้ปริมาณโปรตีนสูง ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ดูแลตัวเอง เลือกรับประทานอาหาร และออกกำลังกายรักษารูปร่าง เสริมสร้างกล้ามเนื้อ

ทั้งสองท่าน เล่าให้ฟังว่า จากประสบการณ์การทำงานออฟฟิศ ทำให้รู้สึกว่า ร่างกายไม่แข็งแรง จึงเลือกหันมาออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพมากขึ้น ระหว่างนั้นก็ได้ทำ Yogurt ทานเอง และนำไปให้เพื่อนๆ ที่ออกกำลังกายด้วยกันได้ลองทานเป็นประจำ เมื่อทั้งคู่ได้เข้าไปอยู่ในสังคมของคนที่ออกกำลังกาย ทำเข้าใจ Lifestyle และความต้องการของกลุ่มคนที่ออกกำลังกายเป็นอย่างดี กลายเป็นสิ่งที่จุดประกายในการเริ่มต้นทำธุรกิจที่จะตอบสนองคนกลุ่มนี้ จึงได้ลาออกจากงานประจำเพื่อเริ่มธุรกิจอย่างจริงจัง สำหรับโมเดลธุรกิจที่สินค้ายังไม่เป็นที่รู้จักในตลาด กอปรกับกลุ่มเป้าหมายมีความต้องการเฉพาะ คุณณพล และคุณปฐมา จึงเลือกที่จะวางขายสินค้าโดยใช้ตัวช่วย คือ การหาช่วงเวลาที่

เหมาะสมและออกสินค้าให้มีความสอดคล้องกับช่วงเวลานั้น เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการดึงดูดความสนใจของลูกค้า

สินค้าตัวแรกของ I’M FIT คือ เครื่องดื่มโปรตีนนมถั่วเหลืองพร้อมดื่ม (Soy Protein) ที่ออกในช่วงเทศกาลกินเจ และหลังจากนั้นจึงค่อยออกตัวที่สองคือ กรีกโยเกิร์ต(Greek Yogurt) จุดเด่นของสินค้าทั้งสองตัว คือ ปริมาณโปรตีนสูง น้ำตาลน้อย ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน มีความสะดวกในการรับประทาน เพื่อที่จะตอบโจทย์ลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพ ดูแลตัวเอง และออกกำลังกาย ภายใต้ Concept “Honestly Made” เพราะเป็นสิ่งคนทำ ทำรับประทานเอง

สินค้าของ I’M FIT จะเน้นที่การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติให้โปรตีนสูง เช่น Soy Protein ที่ให้โปรตีน 22 กรัม และ Greek Yogurt ที่ให้โปรตีน 12 กรัมนอกจากนั้นยังเลือกใช้หญ้าหวาน(Stevia) แทนการใส่สารทดแทนความหวานจำพวก Aspartame คุณภาพของสินค้าเป็นสิ่งที่ I’M FIT ให้ความสำคัญมากที่สุดดังนั้น วัตถุดิบที่เลือกใช้ทั้งหมดได้คัดสรรเฉพาะ Premium grade มาใช้ในการผลิต เช่น ถั่วเหลือง Organic นอกจากด้านวัตถุดิบแล้ว คุณภาพการผลิตก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกัน คุณปฐมา เคยชะลอการผลิตแม้จะมียอดสั่งซื้อเข้ามาเยอะด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่ต้องการผลิตสินค้าได้มากแต่ขาดคุณภาพ อยากให้ทุกขวดของ I’M FIT มีคุณภาพที่ดีทุกครั้งที่ขายออกไป
นอกจากคุณภาพของสินค้าแล้ว ทั้งคุณณพล และคุณปฐมา ใช้ความรู้ด้านการออกแบบที่ทั้งคู่มี กับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ภายใต้แนวคิดที่ว่า สินค้านั้นต้องง่ายต่อการรับประทาน สะดวกพกพา (Grab and Go) โดยเน้นให้ความเรียบง่าย สะอาดตา สื่อความเป็นธรรมชาติ ใช้สีที่ไม่ดูเข้มหรืออ่อนหวานไปเพื่อให้เป็นสินค้า Unisex เลือกใช้สีขาวในการทำฉลาก โดยคุณณพล กล่าวว่า

“แม้คนอื่นจะมองสีขาวนั้นทำให้ไม่โดดเด่น ดูจืด และหายไป แต่เมื่อวางเทียบกันในขณะที่ทุกสีแข่งกันหมด สีขาวกลายเป็นสีที่โดดเด่นบนชั้นวางสินค้าขึ้นมาได้”

รูปทรงของบรรจุภัณฑ์ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่ให้ความสำคัญโดยไม่เลือกใช่ขวดทรงสูง เพรียวเหมือนที่นิยมใช้ในตลาดเครื่องดื่มในปัจจุบัน แต่เลือกใช้ขวดที่หนา แต่ยังคงถือง่าย จับถนัดมือ ให้ความรู้สึกแข็งแรง และสามารถจะพกพาได้ง่าย มีข้อมูลบนฉลากที่ครบถ้วน โดยเน้นเสนอปริมาณโปรตีนและปริมาณแคลอรี่ที่กลุ่มลูกค้าสนใจมากที่สุด

ในการประชาสัมพันธ์ I’M FIT เลือกใช้ Social Media อย่าง Facebook และ Instagram ในชื่อ imfitdrink โดยเน้นที่การนำเสนอ Content ประเภทให้ความรู้เป็นหลักตั้งแต่ประโยชน์ของโปรตีน หญ้าหวาน วิธีในการออกกำลังกาย ไปจนถึงเมนูอาหาร โดยคุณณพล มองว่า การเน้นการขายสินค้าอย่างเดียว นั้นไม่ได้ผลแล้วในยุคนี้ เพื่อให้ลูกค้าได้คิดต่อถึงสินค้าเองเมื่อเห็นข้อมูลนอกจากนั้นยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ ในการเป็นอาหารและเครื่องดื่มสำหรับคนที่ออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี จากการสร้าง Content ดังกล่าว ทำให้ลูกค้าสนใจเข้ามาติดตาม พูดคุยและสอบถามทั้งเรื่องสินค้าและการออกกำลังกายทำให้ลูกค้าเกิดความสัมพันธ์กับแบรนด์และสินค้า และมีลูกค้าบางกลุ่มจะมีการจัด Meeting เพื่อเจอและพูดคุยกัน เกิดเป็น Community ของกลุ่มคนที่มี Lifestyle แบบเดียวกัน

กรณีศึกษาของ I’M FIT สะท้อนให้เห็นว่าโมเดลธุรกิจที่ดีนั้น แม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่เพิ่งมีการเริ่มดำเนินกิจการ เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องรู้และเข้าใจว่าอะไรคือ "คุณค่าที่แท้จริง" ของสินค้าที่จะมอบให้กับลูกค้า การเริ่มต้นธุรกิจจำเป็นต้องมองถึงเป้าหมายที่สำคัญ ธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนนั้น ไม่ใช่วัดกันแค่ว่า ขายดี แต่ต้องขายของที่มีคุณภาพ พฤติกรรมของลูกค้าสมัยใหม่ ไม่ใช่แค่ถูกใจแล้วซื้อ เข้าใจ ตอบ Lifestyle ที่ใช่ ทำให้ได้ใจลูกค้าเช่นกัน

(เครดิตกรณีศึกษา: คุณอริยา อริยะวัฒน์กุล นักศึกษาสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล)