หนทางสู่ความสำเร็จ (จบ)

เพราะดูจากหนังสือขายดีในบ้านเราวันนี้จะเห็นแต่ตัวอย่างจากผู้เขียนที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือริเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ได้สำเร็จงดงามตั้งแต่อายุยังน้อย แต่คนส่วนใหญ่มักจะหลงลืมไปว่าเหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ คนที่ขาดทุนในตลาดหุ้นมากมายที่ไม่ได้เปิดประสบการณ์ให้ได้รับรู้ผ่านสื่อต่างๆ

การหันมายืนด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ดีและน่าสนับสนุน แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของการบริหารความเสี่ยงด้วย ผู้ที่มีงานประจำและเริ่มคิดจะเดินไปตามความฝันของตัวเองแต่รับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นไม่ได้จึงอาจจำเป็นต้องทบทวนเสียใหม่

หลายๆ คนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน โดดเด่นเป็นที่ยอมรับทั้งเพื่อนร่วมงานและลูกค้า จึงคิดที่จะก้าวออกมาลงทุนทำธุรกิจด้วยตัวเอง แต่การจะติดปีกให้ตัวเองต้องอาศัยองค์ประกอบหลายๆ อย่าง

เริ่มจากข้อแรก คือ ถ้าเราไม่มีความขยัน ไม่มีความอดทน ไม่มีความพยายาม โอกาสสู่ความสำเร็จก็คงไม่สดใสนัก

ข้อสอง ต้องมีความรู้ในเรื่องที่ทำอยู่ ต้องเป็นหนึ่งในผู้นำความคิด หรือเป็นผู้เพิ่มมูลค่าให้กับงานชิ้นนั้นๆ คือมีความเหนือกว่าคนอื่น และเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างว่าเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ อย่างถ่องแท้

ข้อสาม มีโอกาสและมีจังหวะที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ คู่แข่ง ฯลฯ ซึ่งหลายๆ คนอาจคิดว่าเป็นเรื่องของโชค แต่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องของจังหวะเวลา ถ้าจังหวะไม่ถูกต้อง สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยก็มีโอกาสล้มเหลวสูง

ดังนั้น ถ้าเราอยากจะลงทุน และคิดว่าพร้อมที่จะลงทุน ก็ต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบอีก 3 ข้อว่าเรามีเพียงพอหรือไม่นั่นคือ

1. เงินทุน ถ้าไม่มีออมทรัพย์เพียงพอ และไม่มีคนออกทุนให้ และรายได้ 90% ยังหมดไปกับภาระของครอบครัว เช่นต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ ก็ต้องคิดว่าหากล้มเหลวแล้วจะทำให้ครอบครัวเกิดปัญหารุนแรงได้ หากเป็นเช่นนั้นก็ถือว่ายังไม่ควรเสี่ยง

2. มีความรู้ในสายงานที่มีอยู่ หรือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

3. มีเครือข่ายที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ซึ่งไม่ใช่เพียงรู้จักคนมาก แต่ต้องรู้จักที่จะแปรความสัมพันธ์ที่มีนั้นให้เป็นโอกาสในการทำธุรกิจได้ด้วย ไม่ใช่เพียงการรู้จักอย่างฉาบฉวย

ผมเชื่อว่าความสำเร็จไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เราจึงไม่อาจเลียนแบบความสำเร็จของใครๆ ได้ ไม่มีมาตรฐานว่าจะต้องทำตามขั้นตอน 1, 2, 3 แต่เป็นโอกาสและขั้นตอนที่เกิดขึ้นตามจังหวะชีวิตของเราซึ่งไม่เหมือนใครเลย

ความสำเร็จของตัวเราจึงขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสที่เป็นของตัวเราจริงๆ การจะก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการหรือนักลงทุนจึงไม่ควรหลงตามกระแสที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งๆ เพราะความสำเร็จของผู้อื่นที่เรามองเห็นมันเป็นเพียงด้านหนึ่งของเหรียญเท่านั้น

ความเหมาะสมและจังหวะเวลาจึงขึ้นอยู่กับตัวเราเท่านั้น และต้องตระหนักว่าทุกอาชีพทำให้เราประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจก็ หรือเป็นมืออาชีพในหน่วยงานก็ดี ที่สำคัญที่สุดคือ ตัวเองมีเวที และมีความสุขกับสิ่งที่ทำต่างหากที่ถือเป็นคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต