ฟอร์ติเน็ตเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ไซเบอร์เวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม

ฟอร์ติเน็ตเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ไซเบอร์เวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม

ฟอร์ติเน็ตก้าวเป็นพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ของ “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม”

ฟอร์ติเน็ต (NASDAQ: FTNT) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการรักษาความปลอดภัยแบบไซเบอร์แบบบูรณาการและแบบอัตโนมัติได้อ้างถึงการประชุมเศรษฐกิจโลก “เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม” (World Economic Forum: WEF)ประจำปีคศ. 2018ว่า การโจมตีทางไซเบอร์จะเพิ่มสูงขึ้นมากทั้งในด้านความซับซ้อนและปริมาณมากขึ้น ผู้โจมตีจะมีความรอบรู้ทางเทคนิคในการโจมตีมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้คนและสถาบันต่างๆ จำนวนมากขึ้น  ทั้งนี้ ในขณะที่องค์กรต่างๆ นิยมใช้อุปกรณ์ไอโอทีและเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ มากขึ้น ผู้ประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมายและอาชญากรไซเบอร์ต่างใช้เทคโนโลยีเอไอในกิจกรรมของตนมากขึ้นเช่นกัน จึงเป็นการขยายพื้นผิวของโอกาสที่จะถูกโจมตีแบบดิจิทัลมากขึ้นและขยายช่องโหว่ต่างๆ กว้างมากขึ้น อันเป็นภัยคุกคามต่อบุคคล บริษัท องค์กรและรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

 

กลุ่มเจ้าหน้าที่อาวุโสที่รับผิดชอบกำกับดูแลบังคับใช้กฎหมายในฟอรัมเห็นว่า แม้เทคโนโลยีบลอคเชนจะมีความปลอดภัยอยู่ระดับหนึ่ง แต่ยังมีภัยที่น่าเป็นห่วงอยู่ อันได้แก่ ภัยเรียกค่าไถ่แรนซัมแวร์ภัยที่ทำงานแบบโซเชียลเอ็นจิเนียริ่งตลาดของดาร์คเน็ท (Darknetmarkets)รวมถึงภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี พวกเขายังคาดการณ์อีกด้วยว่า การรวมตัวของไอโอทีและออฟเฟนซีฟเอไอ คลาวด์คอมพิวติ้งความปลอดภัยของข้อมูลและภัยคุกคามที่มาช่องทางออนไลน์นั้นจะเป็นเป้าหมายของภัยไซเบอร์ที่มีอัตราการเติบโตสูงในปีคศ. 2019  นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากธุรกิจการลงทุนได้ออกมาเตือนว่า ในขณะที่ภัยคุกคามมีมากขึ้น การสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยไซเบอร์และการวัดผลนั้นจะยากขึ้นและสำคัญยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้ ในการจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ ทางเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัมจึงได้สร้างศูนย์การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Center for Cybersecurity)ซึ่งประกอบไปด้วยผู้นำจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ นักวิชาการ ผู้บังคับใช้กฎหมาย และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยศูนย์การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จะทำหน้าที่เป็นองค์กรอิสระ ภายใต้การสนับสนุนของเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัมและมีเป้าหมายคือการสร้างแพลตฟอร์มระดับโลกครั้งแรกให้กับรัฐบาล ธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ในการประสานทำงานร่วมกันในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ การชุมนุมประจำปีครั้งแรกของกลุ่มได้สิ้นสุดลงไปเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี้โดยมีการเรียกร้องให้ดำเนินการเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นต่อไป และให้ก้าวข้ามความท้าทายสำคัญ 3ประการ อันได้แก่ การขาดความไว้วางใจ การขาดความร่วมมือ และสภาวะที่ขาดทักษะที่เพียงพอ

 

ศูนย์การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ยังได้ประกาศว่า เอคเซนเชอร์(Accenture)ฟอร์ติเน็ต(Fortinet)และสเบอร์แบงค์ (Sberbank)เป็นพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้งของศูนย์ดังกล่าว มีตำแหน่งที่นั่งถาวรในบอร์ด และจะมีสมาชิกเพิ่มเติมในวาระ 2 ปีจากองค์กร อุตสาหกรรมและประเทศต่างๆ  ทั้งนี้ นายฟิล เควด ประธานบริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล(Chief Information Security Officer: CISO)แห่งฟอร์ติเน็ตเห็นว่า “ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนมีความสำคัญมาก”

 

โดยนายเคน ซี ผู้ก่อตั้งประธานและซีอีโอของฟอร์ติเน็ตกล่าวย้ำว่า“ ฟอร์ติเน็ตเชื่อมั่นในความสำคัญของการทำงานร่วมกันและการแบ่งปันข้อมูลเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์ ทั้งนี้ การที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ใหม่ครั้งนี้ มีความสำคัญต่อความร่วมมือกันที่ดีในระดับโลก และถือเป็นก้าวสำคัญในการตอบรับภารกิจของฟอร์ติเน็ตที่มุ่งมั่นรักษาความปลอดภัยให้กับองค์กรขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการ รวมถึงองค์กรของรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกอีกด้วย”