เชลยศึกเกาหลีเหนือในยูเครนอยากใช้ ‘ชีวิตใหม่’ ที่เกาหลีใต้

เชลยศึกเกาหลีเหนือในยูเครนอยากใช้ ‘ชีวิตใหม่’ ที่เกาหลีใต้

สองเชลยศึกชาวเกาหลีเหนือที่ถูกยูเครนจับได้ หวังเริ่มต้น “ชีวิตใหม่” ในเกาหลีใต้ รัฐบาลโซลวอนเคียฟเคารพเจตจำนง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ตามที่มีรายงานข่าวมาก่อนหน้าว่า เชลยศึกสองนายที่ถูกยูเครนจับได้ตั้งแต่เดือนม.ค. หลังบาดเจ็บในสนามรบต้องการแปรพักตร์ไปเกาหลีใต้  ล่าสุดกลุ่มสิทธิมนุษยชนในกรุงโซลเผยแพร่จดหมายจากเชลยศึกทั้งสองแก่เอเอฟพี นับเป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันความประสงค์ดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร  

 ในจดหมายลงวันที่ปลายเดือนต.ค.  ระบุ

“เนื่องจากการสนับสนุนของประชาชนเกาหลีใต้ ความฝัน และแรงบันดาลใจใหม่เริ่มเป็นจริง”

ทั้งสองคนยังขอบคุณผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ “ที่ให้กำลังใจเรา และมองสถานการณ์นี้ไม่ใช่ในฐานะโศกนาฏกรรม แต่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่”

“เราเชื่อมั่นหนักแน่นว่า เราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เราคิดว่าคนที่อยู่ในเกาหลีใต้คือ พ่อแม่พี่น้องของเรา จึงตัดสินใจเข้าสู่อ้อมกอดของพวกเขา”

จดหมายลงชื่อเชลยศึกทั้งสองคน แต่เอเอฟพีได้รับการร้องขอไม่ให้เปิดเผย

ตามรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ ชาวเกาหลีทั้งมวลรวมถึงผู้ที่อยู่ในฝั่งเหนือ ถือว่าเป็นพลเมืองทั้งหมด และรัฐบาลโซล กล่าวว่า รวมถึงทหารที่ถูกจับในยูเครนด้วย

ตามข้อมูลหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ และตะวันตก เกาหลีเหนือส่งทหารหลายพันนายไปช่วยรัสเซียรบ เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 600 นาย บาดเจ็บอีกหลายพันนาย ทหารที่ส่งไปได้รับคำแนะนำให้ฆ่าตัวตายอย่าให้ถูกจับเป็นเชลยศึก

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า เกาหลีเหนือได้ความช่วยเหลือทางการเงิน เทคโนโลยีทางทหาร อาหาร และพลังงานจากรัสเซียเป็นการตอบแทน

จดหมายฉบับนี้ถูกส่งมาในระหว่างการสัมภาษณ์เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีประสานงานโดยกลุ่มสิทธิมนุษยชน Gyeore-eol Nation United (GNU) ที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ

การสัมภาษณ์กระทำ ณ สถานที่ไม่เปิดเผยในกรุงเคียฟ ที่เชลยศึกทั้งสองถูกควบคุมตัวไว้หลังถูกจับได้

ตามข้อมูลของจัง ซียุล ประธาน GNU ซึ่งเป็นผู้แปรพักตร์หนีออกจากเกาหลีเหนือช่วงทศวรรษ 2000 กล่าวว่า ระหว่างการสัมภาษณ์เชลยทั้งคู่ร้องขอให้ส่งตัวไปฝั่งใต้ วิดีโอชิ้นนี้ยังไม่เผยแพร่ต่อสาธารณะ คาดว่าจะเผยแพร่ต้นเดือนหน้า

ด้านยู ยองเหวิน สส. ที่ได้พบกับเชลยศึกทั้งสองคนขณะมาเยือนยูเครนในเดือนก.พ. กล่าวว่า พวกเขาได้เห็นเพื่อนทหารที่บาดเจ็บฆ่าตัวตายด้วยระเบิดมือ ส่วนการส่งทหารกลับไปเกาหลีเหนือ ถือเป็น “การพิพากษาโทษประหาร”

ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้เร่งเร้ายูเครน “ไม่ส่งเชลยศึกเกาหลีเหนือกลับไปโดยขัดเจตนารมณ์” และขอให้เคารพความประสงค์ของพวกเขาที่จะมาเกาหลีใต้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์