มองสองรัฐล้มเหลวที่ไม่มีการเฉลิมฉลอง

มองสองรัฐล้มเหลวที่ไม่มีการเฉลิมฉลอง

นอกจากซีเรียและเวเนซุเอลาแล้ว ยังมีอีกอย่างน้อย 2 ประเทศที่ตกอยู่ในภาวะรัฐล้มเหลวมานาน แต่ไม่มีการเฉลิมฉลองใด ๆ ในช่วงนี้ ได้แก่ เยเมนและโซมาเลีย  เช่นเดียวกับซีเรียและเวเนซุเอลา

สองประเทศนี้มีความแตกต่างกันมาก แต่มีปัจจัยคล้ายกันที่ผลักดันเข้าสู่ภาวะรัฐล้มเหลว โดยเฉพาะความฉ้อฉลและการมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องของผู้นำ  

เยเมนคล้ายซีเรียซึ่งผู้คนแยกเป็นหลายเผ่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีความก้าวหน้าในสมัยโบราณและอาณาเขตของประเทศในปัจจุบันเกิดจากการบงการของมหาอำนาจผู้ล่าอาณานิคม  หลังจากอาณาจักรออตโตมันและสหราชอาณาจักรออกไป เยเมนมีขอบเขตเช่นเดียวกับในปัจจุบันอยู่ไม่นานก็แยกกันออกเป็น 2 ประเทศ

ได้แก่ เยเมนเหนือกับเยเมนใต้ ซึ่งเป็นประเทศเดียวในบรรดาหลายประเทศในย่านตะวันออกกลางและรัฐอาหรับที่ใช้ระบบคอมมิวนิสต์ปกครอง  ทั้งสองประเทศกลับมารวมกันอีกครั้งเมื่อปี 2533 โดยใช้เมืองหลวงของเยเมนเหนือเดิมเป็นเมืองหลวงทางการปกครองและเมืองหลวงของเยเมนใต้เดิมซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาเมืองสำคัญของการขนส่งทางเรือของโลกเป็นเมืองเศรษฐกิจหลัก

ในด้านการปกครอง ประธานาธิบดีเป็นคนของอดีตเยเมนเหนือและรองประธานาธิบดีเป็นคนของอดีตเยเมนใต้  อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งรุนแรงระหว่าง 2 ฝ่ายกลายเป็นสงครามกลางเมืองในปี 2537  เนื่องจากฝ่ายเหนือชนะ ตัวประธานาธิบดีจึงยังคงเดิม  เขาพยายามลดบทบาทของฝ่ายใต้จนแทบไม่เหลืออำนาจ นำไปสู่ความฉ้อฉลเพื่อตนเองและพวกพ้องของประธานาธิบดีทั้งที่ประเทศตกอยู่ในภาวะยากจนมาก

เนื่องจากความยากจนพื้นฐานถูกซ้ำเติมด้วยความเสียหายจากสงครามกลางเมือง  ภาวะนั้นนำไปสู่ความกดดันจากหลายฝ่ายยังผลให้ประธานาธิบดีลาออกเมื่อปี 2554  แต่การลาออกนั้นมิได้ยุติปัญหา  หลายฝ่ายจับอาวุธขึ้นมาสู้รบกันซึ่งนำไปสู่การแทรกแซงจากภายนอกแม้เผ่าใหญ่จะยึดเมืองหลวงได้แล้วก็ตาม ณ วันนี้ เยเมนจึงไม่มีรัฐบาลกลางอย่างแท้จริง มีแต่ความอดอยากยากจนของประชาชนเกิน 80% 

ประเทศแตกออกเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ยึดครองเมืองหลวงได้รับการช่วยเหลือจากอิหร่านเป็นหลัก จึงกลายเป็นปฏิปักษ์กับค่ายมหาอำนาจตะวันตก  การเป็นปฏิปักษ์นั้นนำไปสู่การใช้อาวุธพิสัยไกลยิงไปถึงอิสราเอลและเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดงเป็นระยะ ๆ  ค่ายตะวันตกรวมทั้งสหรัฐตอบโต้ด้วยการถล่มฐานปฏิบัติการของผู้โจมตีเป็นระยะ ๆ เช่นกัน  

ภาวะต่าง ๆ ดังที่อ้างมานี้บ่งชี้ว่า เยเมนไม่น่าจะก้าวพ้นภาวะรัฐล้มเหลวได้ในเร็ววัน

ภาวะรัฐล้มเหลวไม่ใช่โรคติดต่อแม้โซมาเลียจะอยู่ห่างจากเยเมนไม่มากเนื่องจากอยู่คนละฝั่งของอ่าวเอเดน  โซมาเลียคล้ายเยเมนในด้านพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย แต่ไม่คล้ายในด้านการมีเผ่าพันธุ์ขนาดใหญ่เพียงเผ่าเดียว  เฉกเช่นประเทศส่วนใหญ่ในแอฟริกา

โซมาเลียตกเป็นอาณานิคมของฝ่ายตะวันตกและถูกแยกปกครองโดยสหราชอาณาจักรและอิตาลี  หลังจากได้รับเอกราชในปี 2503 โซมาเลียปกครองด้วยระบบสาธารณรัฐประชาธิปไตย จนกระทั่งปี 2512 ทหารจึงยึดอำนาจแล้วเริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบคอมมิวนิสต์และพยายามรวมพื้นที่นอกเขตประเทศที่ประชาชนมีเชื้อสายโซมาเลียเข้ามาไว้ด้วยกัน  

กระบวนการนั้นมีความฉ้อฉลปะปนอยู่อย่างกว้างขวางซึ่งนำไปสู่การต่อต้านอย่างหนักจากหลายฝ่ายภายในประเทศและจากนอกประเทศจนนำไปสู่สงครามระหว่างโซมาเลียกับเอธิโอเปียในช่วงปี 2520-2521  สงครามนั้นนำไปสู่การแทรกแซงโดยเฉพาะจากฝ่ายคอมมิวนิสต์นำโดยสหภาพโซเวียต  

โซมาเลียไม่บรรลุเป้าหมายทั้งที่สูญเสียทรัพยากรไปมหาศาลรวมทั้งทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์และค่าใช้จ่ายในการรบซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วประเทศ  ภาวะนั้นก่อให้เกิดกระบวนการต่อต้านภายในจนนำไปสู่ความแตกแยกร้ายแรงยิ่งขึ้นถึงกับขับไล่ประธานาธิบดีที่มาจากการยึดอำนาจออกไป ตามด้วยสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบในปี 2534  

สงครามนำไปสู่การแทรกแซงจากภายนอกรวมทั้งการส่งทหารอเมริกันเข้าไป  ภาพการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นได้รับการบันทึกไว้ในภาพยนตร์เรื่อง Black Hawk Down  ตอนนี้โซมาเลียมีรัฐบาลกลาง  แต่กลุ่มต่าง ๆ ยังไม่ยอมให้ปกครอง จึงมีปรากฏการณ์โจรสลัดปล้นเรือสินค้านอกชายฝั่งของประเทศเป็นประจำ  ปรากฏการณ์นี้นำไปสู่การสร้างภาพยนตร์เนื้อหาเข้มข้นเรื่อง Captain Phillips  

แม้จะต่างกับเยเมนในด้านการมีรัฐบาลกลาง แต่โซมาเลียน่าจะตกอยู่ในภาวะรัฐล้มเหลวต่อไปอีกนานเช่นกัน