ถอดกลยุทธ์ ‘Nippon TV’ เอาชีวิตรอดในยุคดิจิทัล

ถอดกลยุทธ์ ‘Nippon TV’ เอาชีวิตรอดในยุคดิจิทัล

ถอดกลยุทธ์ ‘นิปปอนทีวี’ ต้องเอาชีวิตรอดในยุคดิจิทัล นอกจากปรับคอนเทนต์ให้ดึงดูดคนรุ่นใหม่มากขึ้นแล้ว นิปปอนยังตั้งเป้า Go Global ขยายฐานลูกค้าต่างประเทศร่วมด้วย

ในยุคที่โลกขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล ผู้คนสื่อสารทั่วถึงกันอย่างไร้พรมแดนผ่านเทคโนโลยี และอินเทอร์เน็ต พร้อมเสพข่าวสารได้อย่างรวดเร็วผ่านโลกออนไลน์ ทำให้วงการสื่อไทย ทั้งหนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์ต่างต้องปรับตัวอย่างหนัก ตั้งแต่รุกแพลตฟอร์มออนไลน์ไปจนถึงผลิตคอนเทนต์ให้น่าสนใจมากขึ้น เพื่อรักษายอดผู้อ่านหรือผู้ชมเอาไว้ให้ได้ ซึ่งสื่อญี่ปุ่นก็เผชิญกับความท้าทายนี้เช่นกัน

กรุงเทพธุรกิจ มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ JENESYS2025 Thailand-Japan Political, Economic, and Cultural Exchange for Young Media Professionals ร่วมกับตัวแทนสื่อจากประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย  จัดโดยศูนย์ความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JICE) ระหว่างวันที่ 2-8 ธ.ค.68 ที่ผ่านมา ได้เรียนรู้ถึงสถานการณ์ความท้าทายที่สื่อญี่ปุ่นกำลังเผชิญไม่แพ้สื่อไทย และต้องปรับกลยุทธ์อย่างแข็งขันเพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้ให้ได้

ถอดกลยุทธ์ ‘Nippon TV’ เอาชีวิตรอดในยุคดิจิทัล ฮารุโอะ คุราซาวา นักข่าววิทยาศาสตร์

ฮารุโอะ คุราซาวา นักข่าวผู้มากประสบการณ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักข่าวสายวิทยาศาสตร์ เผยว่า สื่อหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่นเผชิญกับยอดคนอ่านลดลง ข้อมูลล่าสุดปี 2022 พบว่า สื่อหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นรายวัน (รวมหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แต่ไม่รวมรายสัปดาห์) มีประมาณ 4,000 สำนัก โดยรวมแล้วผลิตหนังสือพิมพ์ได้ประมาณ 30 ล้านฉบับ ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มียอดผลิตหนังสือพิมพ์ราว 33 ล้านฉบับ และลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 14 ปีก่อน ซึ่งผลิตหนังสือพิมพ์ได้ราว 53 ล้านฉบับในปี 2007 ก่อให้เกิดคำถามถึงอนาคตของธุรกิจหนังสือพิมพ์ว่าอีก 10 กว่าปีข้างหน้าการผลิตหนังสือพิมพ์ในญี่ปุ่นจะลดลงถึงหลักสิบล้านหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม หากเทียบกันแล้วสื่อหนังสือพิมพ์ในไทยมีน้อยกว่าญี่ปุ่นมาก จากข้อมูลเว็บไซต์หอสมุดกลางของมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ฉะเชิงเทรา พบว่า หนังสือพิมพ์ในไทยที่ยังคงผลิตอยู่มีเพียงราว 20 สำนักเท่านั้น

ขณะที่สถานีโทรทัศน์ในญี่ปุ่น นอกจาก NHK ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลแล้ว ยังมีสื่อทีวีดิจิทัลอีก 127 สำนัก และมีทีวี 100 ล้านเครื่อง หรือหมายถึงประชากรญี่ปุ่นราว 124 ล้านคน มีกันเกือบทุกคน เมื่อเทียบกับไทย ข้อมูลจากเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ระบุว่า ไทยมีสื่อทีวีดิจิทัลน้อยกว่ามาก(ประชากรญี่ปุ่นมากกว่าไทยราว 2 เท่า) โดยมีประมาณ 30 กว่าสำนัก และแม้ยังไม่มีข้อมูลอัปเดตตั้งแต่ปี 2019 ที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ และ กสทช. เผยว่า คนไทยมีอุปกรณ์รับชมโทรทัศน์มากกว่า 21 ล้านครัวเรือน แต่ข้อมูลจากนีลเส็นเผยเมื่อปีก่อนว่า คนไทยราว 87% ของประชากร หรือประมาณ 60 ล้านคนยังคงดูทีวี แต่ก็บริโภคสื่อหลากหลายทั้งสื่อออนไลน์ และแพลตฟอร์มสตรีมมิง

อย่างไรก็ตามข้อมูลจากทั้งญี่ปุ่น และไทย ไม่ได้แบ่งแยกว่าผู้ใช้โทรทัศน์เหล่านั้นดูรายการทีวีระบบดิจิทัลหรือสตรีมมิงเป็นเท่าไร

นิปปอนทีวีเน้นปรับคอนเทนต์

นิปปอนทีวี” สื่อโทรทัศน์เอกชนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นก็เผชิญกับยอดผู้ชมที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงต้องงัดกลยุทธ์ออกมาใช้มากมาย เพื่อรักษาฐานผู้ชม และดึงดูดกลุ่มผู้ชมใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากการผลิตข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และครบทุกประเด็นแล้ว ยังมีรายการหลากหลายที่ตอบโจทย์ผู้ชมหลายกลุ่ม อาทิ ละคร รายการกีฬา และรายการวาไรตี้

ถอดกลยุทธ์ ‘Nippon TV’ เอาชีวิตรอดในยุคดิจิทัล

โคบายาชิ หัวหน้าแผนกข่าวสารและทีม กล่าวว่า สิ่งสำคัญของนิปปอนทีวีคือ “การผลิตคอนเทนต์ที่ไม่เสียผู้ชม" พร้อมกับปรึกษาหารือกับสปอนเซอร์อยู่เสมอ ขณะนี้บริษัทกำลังทำคอนเทนต์ที่ดึงดูดเด็ก และกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น โดยหวังว่าหากพวกเขาโตขึ้นจะยังคงเป็นฐานผู้ชมของช่องต่อไปได้ 

“หากทีวีไม่สามารถดึงดูดคนวัยนี้ได้ ในอนาคตอาจไม่มีฐานคนดูเหลืออยู่เลย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายมาก” โคบายาชิ กล่าว

แม้นิปปอนทีวีไม่ได้เจาะจงว่าคอนเทนต์ใดที่กลุ่มเด็กหรือวัยรุ่นชอบดู แต่โคบายาชิเผยว่านิปปอนเน้นผลิตรายการที่เหมาะสำหรับครอบครัว ขณะที่การรุกสื่อออนไลน์ก็ต้องรุกอย่างสมดุล และรักษาจุดแข็งของสื่อทีวี

นิปปอนยอมรับว่าการแข่งขันกับอินฟลูเอนเซอร์ด้านสื่อในโซเชียลมีเดียนั้นเข้มข้นขึ้นมาก จนบางคนไม่เชื่อสื่อทีวี และเชื่อข่าวสารในโซเชียลมากกว่า รวมถึงหลงเชื่อข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์

“ทีวีต้องทำในสิ่งที่ทำได้ ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบสื่อในโซเชียลมีเดีย” โคบายาชิย้ำ พร้อมยกตัวอย่างว่า สื่ออินฟลูฯ อาจไม่สามารถเจาะลึกข่าวสารภัยพิบัติได้ต่อเนื่อง หรือละเอียดเท่าสื่อทีวีที่มีทรัพยากรมากกว่า ขณะที่รายการเชิงสำรวจที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากยังคงเป็นจุดแข็งของสื่อทีวี

ถอดกลยุทธ์ ‘Nippon TV’ เอาชีวิตรอดในยุคดิจิทัล

ต้อง Go Global

นอกจากพยายามรักษาฐานคนดูในประเทศแล้ว นิปปอนทีวียังพยายามหาลูกค้าเพิ่มด้วยการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งนอกเหนือจากการตั้งสำนักงานข่าวสารในต่างประเทศ อาทิ ในไทย จีน เกาหลีใต้ ยุโรป และสหรัฐ บริษัทยังมีแผนระยะกลางที่จะ “Go Global” ด้วยการผลิตคอนเทนต์ที่หลากหลายเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ชมชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น ปัจจุบันนิปปอนทีวีมีรายการยูทูบที่นำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาจีนแล้ว และร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์มากขึ้นในสื่อออนไลน์

อนึ่ง นิปปอนทีวี เป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัทนิปปอนกรุ๊ป ซึ่งมีธุรกิจในเครือมากกว่า 60 บริษัท อาทิ สถานีโทรทัศน์ โปรดักชัน อีเวนต์ ธุรกิจดิจิทัล และอื่นๆ

สำหรับเอไอที่เข้ามามีบทบาทในหลายอุตสาหกรรมรวมทั้งสื่อ นิปปอนทีวีก็นำเอไอมาใช้ในการทำงานเช่นกัน เช่น ช่วยเขียนสคริปต์ ตรวจสอบข้อมูลที่เขียนด้วยเอไอ และกำลังทำโปรเจกต์เกี่ยวกับการใช้เอไอเพิ่มเติม แม้ยังไม่มีผู้ประกาศข่าวเอไอ แต่นิปปอนทีวีมีผู้ประกาศข่าวแอนดรอยด์ “โออิ เอริกา” ซึ่งนำเทรนด์มาตั้งแต่ปี 2020

อย่างไรก็ตาม แม้ญี่ปุ่นนำเอไอมาปรับใช้ในการทำงานบ้างแล้ว แต่ด้วยเฟกนิวส์ในอินเทอร์เน็ตที่แพร่หลายอย่างรวดเร็ว และบางสื่อเคยเผยแพร่ภาพ/คลิปที่สร้างจากเอไอจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้สื่อญี่ปุ่นมีความระมัดระวังในการใช้เอไอสูงมาก นิปปอนทีวีเน้นย้ำว่า บริษัทยังคงระวังการใช้เอไอเพื่อป้องกันไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิด และเน้นใช้เอไอที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานจริงๆ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์