มือปืนสองพ่อลูกกราดยิงงานฉลองชาวยิวชายหาดซิดนีย์ดับ 15 ราย

มือปืนสองพ่อลูกกราดยิงงานฉลองชาวยิวชายหาดซิดนีย์ดับ 15 ราย

ตำรวจออสเตรเลียแถลง มือปืนสองพ่อลูกปลิดชีพประชาชน 15 คนในงานเฉลิมฉลองของชาวยิวที่หาดบอนไดของซิดนีย์ ถือเป็นเหตุรุนแรงจากอาวุธปืนครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีของออสเตรเลีย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ตำรวจออสเตรเลียแถลงว่า เมื่อเย็นวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ประชาชนราว 1,000 คนมารวมตัวกันที่บอนได หาดดังของซิดนีย์ เพื่อเฉลิมฉลองงานฮานุกกาห์ ที่สวนเล็กๆ นอกชายหาด จากนั้นเกิดเหตุกราดยิงขึ้นราว 10 นาทีตามคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ 

มือปืนเป็นสองพ่อลูก โดยพ่อ วัย 50 ปี ถูกสังหารในที่เกิดเหตุ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมที่ 16 คน ส่วนลูกชายวัย 24 ปี อาการสาหัสขณะนี้อยู่ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เรียกการกราดยิงเมื่อวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ว่าเป็นการโจมตีแบบมีเป้าหมายต่อต้านชาวยิว

ผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 40 คนยังอยู่ในโรงพยาบาล รวมถึงตำรวจสองนายที่อาการสาหัสแต่ทรงตัวแล้ว เหยื่อมีอายุระหว่าง 10-87 ปี  

ระหว่างเกิดเหตุมีพลเมืองดีเข้าแย่งอาวุธมือปืนคนหนึ่งกล้องวีดีโอจับภาพไว้ได้ ภายหลังสถานีโทรทัศน์ช่องเจ็ดรายงานข้อมูลจากญาติว่า ชื่อนายอาเหม็ด อัล อาเหม็ด เป็นเจ้าของร้านขายผลไม้ วัย 43 ปี เจ้าตัวถูกยิงสองนัด ต้องเข้ารับการผ่าตัด

ตำรวจไม่ได้กล่าวว่า คนร้ายใช้อาวุธชนิดใดก่อเหตุ แต่จากภาพวีดีโอดูเหมือนสองพ่อลูกใช้ปืนไรเฟิลแบบลูกเลื่อนหนึ่งกระบอกและปืนลูกซองหนึ่งกระบอก

มอร์แกน กาเบรียล ชาวบ้านที่หาดบอนได วัย 27 ปี เล่าว่า เธอจะไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ใกล้ๆ แล้วได้ยินเสียงดังคิดว่าเสียงพลุ จากนั้นผู้คนก็เริ่มวิ่งหนีมาที่ถนนของเธอ

“ฉันให้คนราวหกหรือเจ็ดคนเข้ามาหลบ บังเอิญว่าสองคนเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ที่เหลือเป็นคนบนท้องถนน แต่ทุกคนล้วนกำลังหลบหนี โทรศัพท์ของพวกเขาตกอยู่ที่ชายหาด” กาเบรียลเล่า

“เช้านี้เป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้ามากปกติแล้ว เช้าวันจันทร์หรือเช้าวันอื่นๆ ที่นี่จะคึกคักไปด้วยผู้คน มาว่ายน้ำ เล่นกระดานโต้คลื่น วิ่งออกกำลังกาย แต่เช้านี้เงียบมากๆ และให้ความรู้สึกซึมเซาอย่างเห็นได้ชัด”

ทางการมั่นใจว่า ผู้ก่อเหตุมีเพียงสองคน หลังจากกล่าวไปก่อนหน้านั้นว่ากำลังตรวจสอบว่ามีบุคคลที่ 3 เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนเหตุอย่างต่อเนื่องและเพิ่มกำลังพลดูแลชุมชนชาวยิว

ด้านนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี มาที่หาดบอนไดในเช้าวันนี้ (15 ธ.ค.) พร้อมวางดอกไม้ใกล้จุดเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ไว้อาลัยคนอื่นๆ ผู้ชายสวมหมวกคิปปาห์แบบชาวยิว มาจุดเทียนและตั้งจุดรำลึกขึ้นหลายจุด

“สิ่งที่เราเห็นเมื่อวานนี้เป็นการกระทำของปีศาจล้วนๆ การกระทำด้วยความรู้สึกต่อต้านยิว การกระทำแห่งลัทธิก่อการร้ายบนชายฝั่งของเราในทำเลสัญลักษณ์ของออสเตรเลีย”

"วันนี้ชุมชนชาวยิวกำลังเจ็บปวด วันนี้ ชาวออสเตรเลียทุกคนใช้อ้อมแขนของเราโอบกอดพวกเขา เรายืนเคียงข้างคุณ เราจะทำทุกอย่างที่จำเป็นขจัดความรู้สึกต่อต้านชาวยิวมันเป็นภัยร้าย และเราจะร่วมกันกำจัดมันให้หมดไป” นายกฯ ออสเตรเลียกล่าวและว่า ผู้นำโลกหลายคน เช่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้ติดต่อมา ซึ่งตนได้ขอบคุณพวกเขาสำหรับความเห็นอกเห็นใจ

“ในออสเตรเลีย เกิดเหตุโจมตีที่น่าสยดสยองและนั่นเป็นการโจมตีที่เกิดจากความเกลียดชังชาวยิวอย่างชัดเจน” ทรัมป์กล่าวระหว่างงานเลี้ยงรับรองวันคริสต์มาสที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์ เขาได้รำลึกเหยื่อการโจมตีที่บอนไดและเหตุกราดยิงอีกเหตุการณ์หนึ่งที่มหาวิทยาลัยบราวน์ในโรดไอส์แลนด์

เหตุการณ์กราดยิงเมื่อวันอาทิตย์ถือเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในบรรดาการโจมตีต่อต้านชาวยิวหลายครั้งที่เกิดขึ้นกับโบสถ์ยิว อาคาร และรถยนต์ในออสเตรเลีย นับตั้งแต่เริ่มสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาเมื่อเดือนตุลาคม 2023

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า ตนได้เตือนนายอัลบาเนซีแล้วว่า การที่ออสเตรเลียสนับสนุนรัฐปาเลสไตน์จะยิ่งเพิ่มความรู้สึกต่อต้านยิว

ในเดือนสิงหาคม ออสเตรเลียกล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีต่อต้านชาวยิวอย่างน้อยสองครั้ง และให้เอกอัครราชทูตของเตหะรานเดินทางออกจากประเทศภายในหนึ่งสัปดาห์

ชุมชนชาวยิวในออสเตรเลียมีจำนวนไม่มาก แต่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมโดยรวม ออสเตรเลียมีประชากร 27 ล้านคน มีชาวยิวราว 150,000 คนประมาณหนึ่งในสามคาดว่าอาศัยอยู่ในย่านชานเมืองทางตะวันออกของซิดนีย์ รวมถึงบอนได

ขณะเดียวกันเมืองใหญ่อื่นๆ เช่น เบอร์ลิน ลอนดอน และนิวยอร์ก ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของงานฮานุกกาห์ในวันอาทิตย์หลังเกิดเหตุที่บอนได