อดีต รมว.ต่างประเทศ‘กันตธีร์’แนะทรัมป์ควรโน้มน้าวกัมพูชาหยุดละเมิดไทย

อดีต รมว.ต่างประเทศ‘กันตธีร์’แนะทรัมป์ควรโน้มน้าวกัมพูชาหยุดละเมิดไทย

ศ.ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยไทยถูกกระทำ กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด ประธานาธิบดีทรัมป์ควรโน้มน้าวให้กัมพูชากลับไปปฏิบัติตามข้อตกลง

ศ.ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับ กรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันเสาร์ (13 ธ.ค.) ถึง สถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา และบทบาทของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐว่า เราเป็นผู้ถูกกระทำ ฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงที่ได้ทำกันไว้ ถือว่าเป็นผู้เริ่มก่อน ส่วนการต่อสู้ในขณะนี้ของไทยอยู่ในกรอบที่เหมาะสมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และมาตรา 51 แห่งกฎบัตรสหประชาชาติ  

สิ่งที่ตนอยากเห็นจาก ประธานาธิบดีทรัมป์ คือจะต้องอธิบายแล้วโน้มน้าวให้ฝ่ายกัมพูชา  กลับไปปฏิบัติตามข้อตกลง  

"นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดถ้าท่านอยากจะเห็นสันติภาพ  ท่านก็น่าจะโน้มน้าวให้ผู้ที่ละเมิดข้อตกลงกลับไปอยู่ในกรอบที่สมควร แล้วก็หยุดบุกรุกประเทศไทย" 

ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ช่วงที่ผ่านมาการรายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศระบุว่า ไทยเป็นฝ่ายระงับ Joint Declaration ที่ลงนามกันไว้ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ซึ่งดูเหมือนไทยเป็นฝ่ายผิดในสายตาต่างชาติ อดีต รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า ตามข้อมูลที่ตนได้รับกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง ไทยจึงมีปฏิกริยาออกไปตามหลักปฏิบัติสากล  

"มันเป็นจารีตประเพณีนะครับ ถ้าเผื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาละเมิดข้อตกลงนั้นก็ไม่มีผลตามที่ได้ตกลงกัน" ศ.ดร.กันตธีร์กล่าวและว่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือกลับไปปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เลิกใช้ความรุนแรง "เพราะเราเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ที่ใกล้ชิดกันมาตลอดกาล" 

ส่วนการที่ไทยตอบโต้ด้วย F-16 ถือว่าได้สัดส่วนหรือไม่ อดีต รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดฝ่ายทหารซึ่งตนไม่มีข้อมูล แต่ในการสู้รบเมื่อฝ่ายหนึ่งบุกรุกเข้ามาก็สามารถตอบโต้ได้ในทางทหาร มีเป้าหมายทางทหารไม่ใช่พลเรือน ในกฎหมายระหว่างประเทศมีหลักการให้ประเทศที่ถูกรุกรานสามารถป้องกันตนเองได้ 

"ถ้าเผื่อเราเห็นว่ามีการเตรียมการที่จะดำเนินการต่อเราก็สามารถมีปฏิกิริยาก่อนได้ เพื่อป้องกันความสูญเสีย" 

สำหรับบทบาทของอาเซียน ดร.กันตธีร์มองว่า ควรโน้มน้าวกัมพูชา เพราะหัวใจของอาเซียนคือสันติภาพระหว่างสมาชิกอาเซียนด้วยกัน 

“การบุกรุกประเทศใดประเทศหนึ่งอย่างที่กัมพูชาทำ การใช้กับระเบิด ควรเป็นสิ่งที่อาเซียนรับไม่ได้ แล้วควรช่วยกันโน้มน้าวให้กัมพูชายุติการกระทำในลักษณะนี้” ดร.กันตธีร์แนะนำด้วยว่า ทางออกที่ดีที่สุดคือยุติการสู้รบในลักษณะที่ไม่เป็นภัยอันตรายต่อประเทศไทยหรือประชาชนชาวไทย บทบาทของประธานาธิบดีทรัมป์คือควรโน้มน้าวกัมพูชาให้หยุดละเมิดข้อตกลง หยุดละเมิดอธิปไตยคนไทย แล้วก็จะพูดคุยกันได้สามารถเจรจากันทำให้การสู้รบจบลง 

"เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ  ผู้ที่ละเมิดจะต้องยุติการกระทำ แล้วการทูตจะเข้ามาได้"