กวาดล้างทุจริตพ่นพิษ บริษัทอาวุธจีนรายได้วูบสวนทางเทรนด์โลก

กวาดล้างทุจริตพ่นพิษ บริษัทอาวุธจีนรายได้วูบสวนทางเทรนด์โลก

รายงานล่าสุดจากกลุ่มคลังสมองดังเผย รายได้จากบริษัทการทหารรายใหญ่ของจีนลดลงในปีที่ผ่านมา เนื่องจากการกวาดล้างทุจริตชลอการจัดซื้อและการทำสัญญาซื้อขายอาวุธ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการศึกษาล่าสุดจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสต็อกโฮล์ม ( SIPRI) เผยแพร่วันจันทร์ (1 ธ.ค.) พบว่า สงครามในยูเครนและกาซา รวมถึงความตึงเครียดระดับโลกและภูมิภาค หนุนให้รายได้ของบริษัทอาวุธทั่วโลกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่บริษัทจีนกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม

“ข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตจำนวนมากในการจัดหาอาวุธของจีนส่งผลให้สัญญาอาวุธสำคัญหลายรายการถูกเลื่อนออกไปหรือยกเลิกในปี 2024” หนาน เทียน ผู้อำนวยการโครงการค่าใช้จ่ายทางทหารและการผลิตอาวุธของ SIPRI กล่าว

“เรื่องนี้ทำให้ความพยายามปรับปรุงกองทัพจีนให้ทันสมัยยิ่งเกิดความไม่แน่นอน ไม่ทราบด้วยว่าเมื่อใดขีดความสามารถใหม่ๆ ของจีนจะเป็นรูปธรรม”

  • รายได้จีนลด 10% ญี่ปุ่นเพิ่ม 40%

ตอนที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงออกคำสั่งกวาดล้างทุจริตแบบหว่านแหในปี 2012 กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (พีแอลเอ) เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ โดยมาถึงระดับสูงของกองทัพในปี 2023 เมื่อกองกำลังจรวดตกเป็นเป้าถูกเล่นงาน

ในเดือน ต.ค. นายพลระดับสูงสุดแปดนายถูกขับออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ รวมถึงเหอเว่ยตง นายพลหมายเลขสองของจีน ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมาธิการทหารกลางภายใต้ประธานาธิบดีสี คณะกรรมการชุดนี้เป็นองค์กรบังคับบัญชาทหารสูงสุดของจีน

นักการทูตทั้งเอเชียและตะวันตกเผยว่า พวกเขายังพยายามวัดผลกระทบจากการปราบปรามในกองทัพจีนที่เพิ่มมากขึ้น และระดับสายการบังคับบัญชาที่สาวไปถึง

เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศ ข้อมูลจาก SIPRI ชี้ว่า ในปีที่ผ่านมารายได้ของบริษัทอาวุธรายใหญ่ของจีนลดลง 10% ขณะที่บริษัทในญี่ปุ่นรายได้เพิ่มขึ้น 40% เยอรมนีเพิ่ม 36% สหรัฐขยับขึ้น 3.8%

รายได้ 100บริษัทอาวุธใหญ่สุดของโลก เพิ่มขึ้น 5.9% ทุบสถิติที่ 6.79 แสนล้านดอลลาร์ ความตกต่ำของจีนมากถึงขนาดทำให้เอเชีย-โอเชียเนียเป็นภูมิภาคเดียวที่รายได้บริษัทค้าอาวุธชั้นนำลดลง

ข้อน่าสังเกตคือรายได้จากอาวุธของจีนลดลงทั้งๆ ที่งบประมาณกลาโหมเพิ่มขึ้นตลอดสามทศวรรษ เมื่อรัฐบาลปักกิ่งแข่งขันทางยุทธศาสตร์กับวอชิงตัน มหาอำนาจทางทหารเจ้าเก่าของเอเชียมากขึ้น อีกทั้งยังมีความตึงเครียดเรื่องไต้หวันและข้อพิพาทในทะเลจีนใต้

  • ลงทุนระยะกลาง-ระยะยาว

การเสริมสร้างกำลังทหารกำลังออกผล เห็นได้จากจีนมีกองเรือรบและหน่วยเรือตรวจการณ์ฝั่งใหญ่ที่สุดในโลกเข้าประจำการ ซึ่งรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินทันสมัยลำใหม่ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงใหม่ อาวุธนิวเคลียร์ และโดรนทางอากาศและทางทะเล

ทว่า  เมื่อพิจารณารายได้ของบริษัทอาวุธรายใหญ่ AVIC ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่สุดของประเทศ, Norinco ผู้ผลิตระบบอาวุธทางบก และ CASC ผู้ผลิตอากาศยานและขีปนาวุธ รัฐเป็นเจ้าของทุกบริษัทNorinco รายได้ทรุดหนักสุด 31% มาอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์

การเปลี่ยนแปลงบุคลากรระดับสูงที่พัวพันทุจริตของ Norinco และ CASC ทำให้รัฐบาลต้องทบทวนและชลอโครงการ ขณะเดียวกันการส่งมอบเครื่องบินทหารของ AVIC ก็ช้าลง

เสี่ยวเหลียง นักวิจัยของ SIPRI กล่าวว่า ไทม์ไลน์ของระบบอาวุธทันสมัยสำหรับกองกำลังจรวด กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ซึ่งจัดการคลังแสงขีปนาวุธทิ้งตัว, ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธร่อนที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้น อาจได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับโครงการด้านอวกาศและไซเบอร์ นี่ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนต่อเป้าหมายของพีแอลเอที่ต้องมีขีดความสามารถหลักๆ และพร้อมทำสงครามในวาระครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งกองทัพแดงโดยเหมา เจ๋อตง เมื่อปี 1927

“อย่างไรก็ตาม ในระยะกลางและระยะยาวกว่านั้นการลงทุนอย่างต่อเนื่องในงบประมาณกลาโหมและความมุ่งมั่นทางการเมืองเบื้องหลังการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยจะดำเนินต่อไป แม้ว่าบางโครงการจะล่าช้าต้นทุนสูงขึ้น และควบคุมการจัดซื้อจัดจ้างที่เข้มงวดขึ้น” เหลียงย้ำ