มวลชนแค้นเพลิงมรณะฮ่องกง ปักกิ่งเตือนอย่า‘ปั่น’กระแส‘ป่วน’

แหล่งข่าววงในสองรายเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เมื่อวันเสาร์ (29 พ.ย.) ตำรวจจับกุมประชาชนหนึ่งคนที่ร่วมขบวนเข้าชื่อเรียกร้องความรับผิดชอบจากรัฐบาลฮ่องกง ขอให้เปิดการสอบสวนอิสระว่ามีการทุจริตหรือไม่ ขอให้ชาวบ้านมีที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม และให้ทบทวนการตรวจสอบการก่อสร้าง

เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า นายมายส์ ควาน นักศึกษาวัย 24 ปี ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยพยายามใช้เหตุเพลิงไหม้หว่องฟุกคอร์ต เขตไท่โปทางตอนเหนือ มายุยงปลุกปั่น รอยเตอร์สอบถามเพิ่มเติมแต่ตำรวจฮ่องกงไม่ให้ความเห็น

การเข้าชื่อออนไลน์มีผู้ลงนามกว่า 10,000 คนภายในบ่ายวันเสาร์ก่อนปิดรับการลงชื่อ

ต่อมาชาวไท่โปคนหนึ่งที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในต่างประเทศ เปิดการเข้าชื่ออีกหนึ่งรายการเรียกร้องแบบเดียวกัน

“ชาวฮ่องกงต้องการความจริงและความยุติธรรม” ผู้ใช้นามว่า เควาย เข้าไปแสดงความเห็นต่อแคมเปญดังกล่าว

เพลิงไหม้ที่ลุกลามอาคารที่พักอาศัยสูง 7 แห่งใกล้ชายแดนจีนแผ่นดินใหญ่สร้างความตกตะลึงให้กับฮ่องกง ทางการเริ่มการสอบสวนคดีอาญาและทุจริต ขณะที่ความโกรธและความหวาดกลัวเพิ่มมากขึ้น

สาเหตุของเพลิงที่คร่าชีวิตประชาชน 128 คน สูญหายอีก 150 คนยังไม่สรุป

ขณะนี้ทางการกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบโต้จากสาธารณชนในวงกว้าง หลังฮ่องกงเคยระอุจากการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ในปี 2019 จนรัฐบาลปักกิ่งต้องออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่

ในวันเสาร์ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนเตือนประชาชนไม่ให้ใช้ภัยพิบัติครั้งนี้สร้างความวุ่นวาย

“เราขอเตือนอย่างเด็ดขาดถึงผู้สร้างความวุ่นวายต่อต้านจีน ที่กำลังพยายาม ‘ใช้ภัยพิบัติปั่นป่วนฮ่องกง’ ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีการใด คุณต้องรับผิดชอบและถูกลงโทษรุนแรงภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกงและกฎหมายคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติ”

สัญญาณเตือนไฟทำงานไม่เหมาะสม

ทางการจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุเพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบเกือบ 80 ปีของฮ่องกง จำนวน 11 คน และเปิดสอบทุจริตและการใช้วัสดุไม่เหมาะสมในการปรับปรุงหว่องฟุกคอร์ต

ปฏิบัติการกู้ภัยสิ้นสุดลงเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ย.) แม้ตำรวจกล่าวว่าอาจพบศพเพิ่มเติมอีกระหว่างการค้นหาในซากอาคารซึ่งเต็มไปด้วยอันตราย เจ้าหน้าที่หลายร้อยนายถูกส่งไปค้นหาศพ ไม่พบร่างเพิ่มเติมแต่ช่วยชีวิตแมวสามตัวและเต่าหนึ่งตัวไว้ได้

เหตุเพลิงไหม้เริ่มต้นขึ้นเมื่อบ่ายวันพุธ (26 พ.ย) และลุกลามอย่างรวดเร็วเผาไหม้อาคาร 32 ชั้น จำนวนเจ็ดอาคารจากแปดอาคารในพื้นที่ อาคารที่ถูกลุกไหม้อยู่ระหว่างการปรับปรุงจึงเต็มไปด้วยนั่งร้านไม้ไผ่ แผ่นคลุมสีเขียว และบุด้วยฉนวนโฟม

ทางการเผยว่า ระบบเตือนเพลิงไหม้ของหว่องฟุกคอร์ทซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 4,600 คน ทำงานไม่เหมาะสม

เพลิงไหม้ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังในปี 1948 คร่าชีวิตประชาชน 176 คน

กระทรวงแรงงานฮ่องกงเผยว่า เดือน ก.ย.ปี 2024 ผู้อาศัยร้องเรียนเรื่องความเสี่ยงเกิดเพลิงไหม้จากการปรับปรุงอาคาร เนื่องจากผู้รับเหมาใช้ตาข่ายสีเขียวคลุมนั่งร้านไม้ไผ่ ทางการแจ้งผู้อาศัยของหว่องฟุกคอร์ทว่า “ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ”