2025 ปีทองท่องเที่ยว 'เวียดนาม' รับนักเที่ยวต่างชาติสูงสุดทุบสถิติใหม่

เวียดนามรายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2025 สูงสุดทุบสถิติใหม่กว่า 21 ล้านคน แซงหน้าสถิติเดิมก่อนการระบาดของโควิด แต่หน่วยงานรับยังต้องดำเนินการอีกมากให้โตอย่างยั่งยืนและดึงนักท่องเที่ยวจาก 'จีน'
เว็บไซต์สื่อท้องถิ่นวีเอ็นเอ็กซ์เพรสรายงานว่า "เวียดนาม" มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2025 มากกว่า 21 ล้านคน นับเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ แซงหน้าสถิติเดิมในช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 มากกว่า 10% ในขณะที่การท่องเที่ยวทั่วโลกโดยรวมยังฟื้นตัวกลับมาได้เพียงราว 90% ของระดับก่อนโควิด นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนาม
ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุมด้านการท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และเร่งพัฒนาการท่องเที่ยวให้กลายเป็นภาคเศรษฐกิจหลักอย่างแท้จริง
เพื่อบรรลุเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคนในปีหน้า 2026 นายกฯ กล่าวว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเวียดนามต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษโดยเฉพาะในบริบทของเศรษฐกิจดิจิทัลโลก กับเสาหลักเชิงยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ สถาบัน โครงสร้างพื้นฐาน และทรัพยากรมนุษย์
ขณะที่เหวียน จุง คัน ผู้อำนวยการองค์การบริหารการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม ระบุว่า นโยบายยกเว้นวีซ่า คือ “กุญแจสำคัญ” ของความสำเร็จในปีนี้
เมื่อเดือนมี.ค. รัฐบาลฮานอยตัดสินใจขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่าจนถึงปี 2028 สำหรับพลเมืองจาก 12 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น นอร์เวย์ รัสเซีย เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน และสหราชอาณาจักร และในเดือนส.ค. ได้เพิ่มอีก 12 ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม บัลแกเรีย โครเอเชีย เช็ก ฮังการี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โรมาเนีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย และสวิตเซอร์แลนด์
เมื่อรวมกับข้อตกลงยกเว้นวีซ่าแบบทวิภาคี รวมถึงกับประเทศสมาชิกอาเซียน ทำให้จำนวนประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่ารวมเพิ่มเป็น 39 ประเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เพิ่มจุดผ่านแดนสำหรับชาวต่างชาติอีก 41 แห่ง ส่งผลให้จำนวนจุดผ่านแดนทั้งหมดเพิ่มเป็น 83 แห่ง
ฝ่าม ไฮ กวินห์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเอเชีย กล่าวว่า ความสำเร็จในปีนี้ไม่ได้มีเพียงแค่จำนวนนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการ กระจายตลาดต้นทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาตลาดไม่กี่แห่ง ขณะที่การได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องจากแพลตฟอร์มระดับนานาชาติชั้นนำ รวมถึง World Travel Awards ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเวียดนามบนแผนที่การท่องเที่ยวโลก
ปีนี้ เวียดนามมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการเปิดใช้งานหรือขยายสนามบิน ทางด่วน และท่าเรือท่องเที่ยวหลายแห่ง ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างแหล่งท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม เวียดนามก็ยอมรับว่ายังคงเผชิญความท้าทายด้าน "ความยั่งยืน" อย่างมีนัยสำคัญ
ฮา วัน สิว รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการท่องเที่ยว ระบุว่า ปัญหาเรื้อรังของอุตสาหกรรมคือ การขาดหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับชาติที่เป็นมืออาชีพ โดย "จีน" ถือเป็นหนึ่งในตลาดต้นทางที่สำคัญที่สุด แต่เวียดนามก็ยังขาดการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพในเมืองหลักของจีน
ส่วนในด้านโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งนั้น แม้ว่าทางหลวงและท่าเรือจะมีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด แต่การพึ่งพาการเดินทางทางอากาศมากเกินไปยังคงเป็นข้อจำกัดสำคัญ
ด้านเฮอร์เบิร์ต เลาบิชเลอร์-พิคเลอร์ ซีอีโอของ Alma Resort กล่าวว่า เวียดนามยังตามหลังคู่แข่งในภูมิภาคอย่าง "ไทย" และ "อินโดนีเซีย" ในด้านความเปิดกว้างของนโยบายวีซ่า และยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ
ตามดัชนี Henley Passport Index เวียดนามอยู่ในอันดับ 80 จาก 227 ประเทศและเขตแดน ในด้านความเปิดกว้างในการเดินทาง ขณะที่ไทยอยู่อันดับ 35 อินโดนีเซียอันดับ 48 และสิงคโปร์อันดับ 15







