โชว์รูมร้าง-คืนมัดจำช้า กระทบดีลเลอร์ ‘ปอร์เช่’ จ่อปิดเครือข่ายชาร์จ 200 แห่ง

โชว์รูมร้าง-คืนมัดจำช้า กระทบดีลเลอร์ ‘ปอร์เช่’ จ่อปิดเครือข่ายชาร์จ 200 แห่ง

โชว์รูมร้าง-จ่ายมัดจำช้าของ ‘ปอร์เช่’ สะท้อนแรงกดดันรอบด้านที่แบรนด์รถหรูยุโรปกำลังเผชิญ ทั้งยอดขายที่หดตัว การแข่งขันรุนแรงจากผู้เล่นท้องถิ่น และต้นทุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคอีวีที่สูงเกินคาด จนบีบให้ต้องปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ในตลาดจีน

จากกรณียอดส่งมอบรถยนต์ของ “ปอร์เช่” (Porsche) ในช่วงเดือนมกราคม–กันยายนที่ผ่านมา ปรับลดลง 6% ทั่วโลก และหดตัวรุนแรงถึง 26% ในตลาดจีนเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ล่าสุดตามรายงานจากสื่อ Carnewschina ระบุว่า โชว์รูมและศูนย์จำหน่ายรถของปอร์เช่ และโฟล์กสวาเกนหลายแห่งในพื้นที่ตอนกลางและตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กำลังประสบปัญหา “ความผิดปกติ” ขึ้น 

โชว์รูมบางแห่งอยู่ในสภาพ “ว่างเปล่า” และในบางกรณีมีการเคลื่อนย้ายรถออกไปในช่วงข้ามคืน ลูกค้าหลายรายระบุว่า เงินมัดจำค่ารถยนต์ รวมถึงเงินที่ชำระล่วงหน้าสำหรับแพ็กเกจบำรุงรักษา “ยังไม่ได้รับการแก้ไขหรือคืนเงิน”

ปอร์เช่ ไชน่า ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม โดยยอมรับว่ามีความผิดปกติในการดำเนินงานเกิดขึ้นที่ตัวแทนจำหน่ายในเมืองเจิ้งโจวและกุ้ยหยาง พร้อมยืนยันว่าบริษัทกำลังให้ความร่วมมือกับตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค  

ไม่เพียงเท่านั้น ปอร์เช่ยังมีแผนจะ “ยุติ” การให้บริการเครือข่ายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในจีนภายในปีหน้า 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันและความยากลำบากที่แบรนด์รถหรูใน “เครือโฟล์กสวาเกน” กำลังเผชิญ ท่ามกลางสภาพตลาดจีนที่แข่งขันดุเดือดและท้าทายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รายงานของสำนักข่าวอี้ไฉ (Yicai) ระบุว่า ปอร์เช่ ไชน่า จะทยอยปิดเครือข่ายสถานีชาร์จของตนเองจำนวนราว 200 แห่ง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมของปีหน้าเป็นต้นไป โดยอ้างอิงข้อมูลจากบริษัท

รายงานยังระบุว่า แทนที่จะดำเนินเครือข่ายชาร์จเอง ปอร์เช่ ไชน่า จะหันไปมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือเชิงลึกมากขึ้นกับผู้ให้บริการสถานีชาร์จรายใหญ่จากภายนอก (Third-party) แทน

ทั้งนี้ ปอร์เช่กำลังสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดจีน ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจากแบรนด์ท้องถิ่น โดยยอดขายของบริษัทในจีนช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงไปมากกว่าหนึ่งในสี่

บริษัทรายงานผลประกอบการ “ขาดทุน” จากการดำเนินงานในไตรมาสที่สาม 966 ล้านยูโร (ประมาณ 35,000 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 974 ล้านยูโร โดยผลประกอบการถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายเพื่อรองรับการปรับลดแผนขยายธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ ซึ่งบริษัทเพิ่งประกาศไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา

ขณะที่นักวิเคราะห์ซึ่งสำรวจโดย Visible Alpha คาดการณ์ว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน บริษัทจะขาดทุนจากการดำเนินงานที่ระดับ 611 ล้านยูโร

ผู้บริหารของปอร์เช่ได้แจ้งต่อนักลงทุนว่า บริษัทกำลังดำเนินการปรับลดเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายในจีน จากเดิมประมาณ 150 แห่ง เหลือราว 80 แห่ง

สำหรับตลาดจีน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งสร้างกำไรสำคัญของปอร์เช่ และบริษัทแม่อย่างโฟล์กสวาเกน โจเชน เบร็กเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ระบุว่า ยอดขายมีแนวโน้มจะยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากปีนี้ไปจนถึงปี 2026

“เราจำเป็นต้องตั้งสมมติฐานว่า สภาพแวดล้อมของตลาดโดยรวมจะไม่ดีขึ้นในอนาคตอันใกล้” เบร็กเนอร์กล่าว

ปัจจุบัน ปอร์เช่มีแผนจะปรับลดพนักงานจำนวน 1,900 ตำแหน่ง ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า นอกเหนือจากการเลิกจ้างพนักงานชั่วคราวไปแล้ว 2,000 ตำแหน่ง ในปีนี้ และคาดว่าจะมีมาตรการชุดที่สองตามมาอีกภายในสิ้นปี

สำหรับทั้งปี ปอร์เช่คาดว่า การปรับโครงสร้างกลยุทธ์รถยนต์ไฟฟ้า การตัดสินใจยกเลิกการผลิตแบตเตอรี่ภายในบริษัท และค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กร จะส่งผลกระทบต่อกำไรคิดเป็นมูลค่ารวมราว 3,100 ล้านยูโร

อ้างอิง: carnewreutersporschereuters