เวียดนามเร่งเครื่อง 'ปลอดพลาสติก' ดันท่องเที่ยวยั่งยืน–เศรษฐกิจสีเขียวโตแรง

จากประเทศที่เคยติดอันดับเรื่องขยะทางทะเล 'เวียดนาม' กำลังพลิกบทบาทสู่ต้นแบบ 'การท่องเที่ยวปลอดพลาสติก' ของอาเซียน ด้วยนโยบายจริงและการมีส่วนร่วมของทั้งระบบ
โดยธรรมชาติ “ขยะ” มักถูกมองว่าเป็นของเหลือทิ้ง แต่ใน "เวียดนาม" วันนี้ ขยะพลาสติกกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปครั้งสำคัญ ทั้งในมิติของการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการบริโภคอย่างสร้างสรรค์ ประเทศที่เคยติดอันดับต้น ๆ ของเอเชียในด้านการปล่อยขยะทะเล กำลังเร่งเดินหน้าเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่ง “การท่องเที่ยวปลอดพลาสติก” ด้วยนโยบายที่ชัดเจนและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน
ผลสำรวจจาก Booking.com ในปี 2025 ระบุว่า 41% ของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม ให้ความสำคัญกับการลดขยะพลาสติกระหว่างการเดินทาง เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2024 ซึ่งในปีนั้น ประเด็นสิ่งแวดล้อมที่ได้รับความสนใจสูงสุดยังเป็นเรื่องการประหยัดพลังงาน
ขณะเดียวกัน 58% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ยังระบุว่า การรีไซเคิลและการหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกจุดหมายปลายทาง
ที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ กว่า 90% ของนักท่องเที่ยวเวียดนาม ยังแสดงความตั้งใจที่จะเดินทางอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นภายใน 12 เดือนข้างหน้า กระแสการตื่นตัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบฉาบฉวย แต่ได้รับแรงเสริมจากแคมเปญ “Plastic Free July” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ธุรกิจท่องเที่ยว และผู้ประกอบการในท้องถิ่น
หนึ่งในต้นแบบที่สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ชัดเจนที่สุดคือ "เมืองฮอยอัน" เมืองมรดกโลกที่โดดเด่นด้านวัฒนธรรม ได้ผนวกแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าไว้กับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น และกลายเป็นปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายสีเขียว
ตัวอย่างสำคัญคือ เกาะจาม ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ชีวมณฑลของยูเนสโก ได้ประกาศห้ามใช้ถุงพลาสติกโดยสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2009 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่เร็วกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แนวคิด “การท่องเที่ยวที่มีเรื่องเล่าเรื่องสิ่งแวดล้อม” ไม่เพียงช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังยกระดับมูลค่าเชิงวัฒนธรรมและสังคมของเมืองให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย
เบื้องหลังความสำเร็จของแนวทางนี้ คือการเติบโตของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเวียดนาม ปี 2024 ตลาดบรรจุภัณฑ์กระดาษมีมูลค่าราว 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะขยายตัวเป็น 4.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2029 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 9.73% นอกจากนี้กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลยังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะจากบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ตั้งเป้าใช้พลาสติกรีไซเคิล 50% ภายในปี 2030
บริษัทเวียดนามหลายแห่งได้นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้อย่างจริงจัง เช่น Duy Tan Plastic ที่ลงทุนในโรงงานรีไซเคิลระบบ Bottle-to-Bottle ซึ่งสามารถรีไซเคิลพลาสติกได้ถึง 100,000 ตันต่อปี หรือสตาร์ทอัพอย่าง Bquarius ที่ผลิตจานและชามจากใบหมาก และ Magix ที่พัฒนาอุปกรณ์สำนักงานจากวัสดุธรรมชาติอย่างแผ่นรังผึ้งกระดาษและกาวชีวภาพ
ในส่วนของภาคค้าปลีกเองก็มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค AEON Vietnam ถือเป็นรายแรก ๆ ที่เลิกใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า พร้อมนำเสนอวัสดุทางเลือก เช่น ถุงจากชานอ้อย และแป้งข้าวโพด รวมถึงเปิดโครงการ “เช่าถุง” และระบบสะสมแต้มรีไซเคิลเพื่อจูงใจลูกค้า
Lotte Mart ก็มีนวัตกรรมที่น่าสนใจ เช่น ถุงที่ทำจากใบบัวซึ่งทนทาน ใช้ซ้ำได้ยาวนานถึง 1 ปี ช่วยลดขยะพลาสติกได้มากกว่า 500 ตัน จากการผลักดันเพียง 4 สาขาในโฮจิมินห์ซิตี้ ขณะที่ MM Mega Market หยุดแจกถุงพลาสติกตั้งแต่ปี 2019 และสามารถลดปริมาณถุงได้มากถึง 10 ล้านใบต่อปี
อย่างไรก็ตาม เวียดนามยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายอยู่ไม่น้อย จากข้อมูลของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ภาคค้าปลีกของเวียดนามผลิตขยะพลาสติกกว่า 300,000–400,000 ตันต่อปี และอาจพุ่งสูงถึง 800,000 ตัน ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า หากไม่มีการแทรกแซงเชิงนโยบายที่เข้มงวด
สิ่งที่เกิดขึ้นในเวียดนาม เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการผสานนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเข้ากับเศรษฐกิจหลักและพฤติกรรมของประชาชนได้อย่างแนบเนียน แนวคิด “ปลอดพลาสติก” ในที่นี้ จึงไม่ใช่เพียงการลดขยะ แต่คือการนำการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ การเล่าเรื่องที่ทรงพลัง และการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นมาแปรเปลี่ยนเป็นมูลค่าใหม่ นี่คือการเดินทางที่ไม่เพียงลดรอยเท้าคาร์บอน แต่ยังเพิ่มศักยภาพของชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความภูมิใจร่วมของสังคมในแนวทางที่ยั่งยืน







