ญี่ปุ่นลั่นมี ‘อิสระเต็มที่’ พร้อมใช้มาตรการเด็ดขาดดูแลค่าเงิน หลังเยนอ่อนค่าหนัก

ญี่ปุ่นลั่นมี ‘อิสระเต็มที่’ พร้อมใช้มาตรการเด็ดขาดดูแลค่าเงิน หลังเยนอ่อนค่าหนัก

ขุนคลังญี่ปุ่นประกาศพร้อมใช้ ‘มาตรการเด็ดขาด’ หากค่าเงินเคลื่อนไหวสวนทางปัจจัยพื้นฐาน หลังเงินเยนอ่อนค่าหนัก แม้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ท่ามกลาง “เงินเยนอ่อนค่าลง” อย่างรุนแรง ญี่ปุ่นมี “อิสระเต็มที่” ที่จะออกมาตรการอย่างเด็ดขาด หากค่าเงินเคลื่อนไหวผิดไปจากปัจจัยพื้นฐาน รัฐมนตรีคลังซัตสุกิ คาตายามะ ระบุ พร้อมส่งสัญญาณเตือนนักเก็งกำไรอย่างแข็งกร้าวที่สุด นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง หลังเยนอ่อนค่าแรง แม้ญี่ปุ่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วก็ตาม

“ความเคลื่อนไหวดังกล่าวชัดเจนว่า ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน แต่เป็นการเก็งกำไร” คาตายามะกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กเมื่อวันจันทร์ โดยอ้างถึงการอ่อนค่าของเงินเยนอย่างรวดเร็วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา “ต่อการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ เราได้ย้ำอย่างชัดเจนว่า เราจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ตามที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น–สหรัฐ” เธอกล่าวเพิ่มเติม

หลังจากคำกล่าวของคาตายามะ ค่าเงินเยนก็ “แข็งค่าขึ้น” โดยขยับขึ้นมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 157 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลานครโตเกียว เงินเยนซื้อขายอยู่แถว 156.86 เยนต่อดอลลาร์

ถ้อยแถลงของคาตายามะมีขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์รอบใหม่ว่า กระทรวงการคลังญี่ปุ่นอาจเข้า “แทรกแซงตลาดเงิน” หลังเงินเยนอ่อนค่าลงภายหลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่ส่งสัญญาณล่วงหน้าอย่างชัดเจน และทำให้อัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี 

การอ้างถึงแถลงการณ์ร่วมกับสหรัฐของรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น บ่งชี้ว่าเธออาจได้รับ “ไฟเขียวโดยปริยาย” จากวอชิงตันแล้ว สำหรับการดำเนินการหากจำเป็น โดยไม่ต้องเจรจาเพิ่มเติม

ในปีที่แล้ว กระทรวงการคลังญี่ปุ่น ใช้เงินราว 100,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อพยุงค่าเงินเยนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยการแทรกแซงเกิดขึ้นบริเวณระดับใกล้ 160 เยนต่อดอลลาร์ สำหรับในปีนี้ เงินเยนยังคงเป็นสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนแย่ที่สุดในกลุ่มประเทศ G10 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ คาตายามะพยายามหลีกเลี่ยงการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระดับค่าเงินในปัจจุบัน พร้อมระบุว่า ไม่มีเกณฑ์ตัวเลขที่ตายตัวสำหรับการนิยามว่า การเคลื่อนไหวใดถือว่า “มากเกินไป” หรือ “ไร้ระเบียบ”

“แต่ละสถานการณ์แตกต่างกัน ดังนั้นการคาดหวังว่ารูปแบบจะเหมือนเดิมทุกครั้งย่อมไม่ถูกต้อง” เธอกล่าว โดยอ้างถึงการที่กลยุทธ์ของกระทรวงในการแทรกแซงตลาด เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ 

“เรามีความพร้อมเต็มที่อยู่เสมอ” คาตายามะกล่าว เมื่อถูกถามว่า ทางการอาจเข้าแทรกแซงตลาดหรือไม่ ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึง ซึ่งคาดว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบางลง

เมื่อกล่าวถึงวาระของรัฐบาลทาคาอิจิในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ คาตายามะ ระบุว่า ทั้งงบประมาณเพิ่มเติมของรัฐบาล และงบประมาณประจำปีฉบับใหม่ที่กำลังจะเสนอ ล้วนมีลักษณะ “เชิงรุก” อย่างมาก

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า งบประมาณสำหรับปีงบประมาณใหม่ซึ่งจะเริ่มในเดือนเมษายน มีแนวโน้มขยายตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ราว 120 ล้านล้านเยน หรือมากกว่านั้น เพิ่มขึ้นจากงบประมาณตั้งต้นของปีงบประมาณปัจจุบันที่อยู่ราว 115 ล้านล้านเยน

อ้างอิง: bloomberg