9 บิ๊กบริษัทยาตกลงดีลกับทรัมป์ ‘ลดราคายา’ แลกผ่อนผันภาษี 3 ปี

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทยา 9 แห่ง ซึ่งนับเป็นข้อตกลงล่าสุดในบรรดาความตกลงที่ออกแบบมาเพื่อ "ลดราคายา" สำหรับชาวอเมริกันบางกลุ่ม แลกกับการได้รับ “ระยะเวลาผ่อนผัน” 3 ปี จากภาษีนำเข้าที่รัฐบาลทรัมป์ขู่ว่าจะบังคับใช้

บริษัท 9 แห่งที่บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลในรอบนี้ได้แก่

1. บริษัท Genentech ในเครือของ Roche Holding

2. Novartis

3. Bristol Myers Squibb

4. Gilead Sciences

5. Boehringer Ingelheim

6. Amgen

7. GSK

8. Sanofi

9. Merck & Co.

โดยข้อตกลงเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกับที่ Pfizer และ AstraZeneca ทำไว้เมื่อช่วงต้นปี

คำมั่นล่าสุดนี้ทำให้บริษัทยารวม 14 จากทั้งหมด 17 แห่งที่ทรัมป์เล็งเป้าไว้เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ตกลง ลดราคายาสำหรับ โครงการ Medicaid ซึ่งดูแลผู้มีรายได้น้อยและผู้พิการ รวมถึงขาย ยาลดราคา โดยตรงให้ผู้บริโภค และเปิดตัวยาใหม่ในสหรัฐด้วยราคาเดียวกับที่จำหน่ายในต่างประเทศ

“ราคายาในอเมริกาจะลดลงเร็วและมาก และในไม่ช้าจะอยู่ในระดับต่ำที่สุดกลุ่มหนึ่งของประเทศพัฒนาแล้ว” ทรัมป์แถลงที่ทำเนียบขาว

สำหรับอีก 3 บริษัทที่ยังไม่ได้ประกาศข้อตกลงกับรัฐบาล ได้แก่ AbbVie, Johnson & Johnson และ Regeneron Pharmaceuticals ทั้งสามบริษัทยืนยันว่าอยู่ระหว่างการเจรจากับทำเนียบขาว ขณะที่ทรัมป์ระบุว่าบริษัทเหล่านี้ยังต้องเสนอลดราคาเพิ่มเติม หากต้องการหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษี

ฮาวเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐระบุว่า บริษัทเหล่านี้น่าจะประกาศข้อตกลงในลักษณะเดียวกันหลังช่วงวันหยุดเทศกาล ขณะที่ปธน.ทรัมป์เตรียมเปิดตัวเว็บไซต์ "TrumpRx" ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายยาลดราคาในปีหน้า

ชาวอเมริกันได้ประโยชน์อย่างไร

ด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ประกาศว่า Merck ยังได้รับการพิจารณาแบบเร่งด่วนสำหรับยา 2 รายการในสายการพัฒนาของบริษัทที่อาจทำรายได้สูง ได้แก่ ยาลดคอเลสเตอรอล และ ยารักษามะเร็ง โดยโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายลดระยะเวลาพิจารณาจากเดิม 10 - 12 เดือน เหลือเพียง 1- 2 เดือน

บรรดาผู้บริหารบริษัทยาต่างให้คำมั่นว่าจะลงทุนด้านการผลิตและการลดราคายา เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ระบบสาธารณสุขของสหรัฐ แม้ว่าการใช้จ่าย/ลงทุนจำนวนมากจะเป็นเรื่องที่เคยประกาศไว้แล้วก่อนหน้านี้ และยาหลายรายการที่ลดราคาให้ก็กำลังเผชิญการแข่งขันจากยาที่ราคาถูกกว่า

Bristol ระบุว่าจะเสนอให้ยา Eliquis ซึ่งเป็นยาละลายลิ่มเลือดขายดีที่สุดของบริษัทแก่โครงการ Medicaid โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ขณะที่ Gilead กล่าวว่าจะลดราคายารักษาไวรัสตับอักเสบซี Epclusa เหลือต่ำกว่า 2,500 ดอลลาร์ จากเดิมที่มีราคาสูงเกือบ 10 เท่า เมื่อจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม TrumpRx ที่รัฐบาลกำลังจะเปิดตัว

อย่างไรก็ดี ยาหลายรายการที่รัฐบาลยกมาเป็นตัวอย่างความสำเร็จในการเจรจา แท้จริงแล้วมีการจำหน่ายให้ประชาชนในราคาที่ลดอยู่แล้ว เช่น อินซูลินของ Sanofi ที่ขายผ่านโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยในราคาเดียวกับที่เสนอผ่านแพลตฟอร์มของทรัมป์ ขณะที่ยาบางตัวก็มียาชื่อสามัญราคาถูกกว่าจำหน่ายในตลาดอยู่แล้ว