เปิด 25 ตระกูลรวยที่สุดในโลก 2025 'เจียรวนนท์' ผงาดที่สองในเอเชียแปซิฟิก

ตระกูล 'เจียรวนนท์' หนึ่งเดียวในไทยที่ขึ้นแท่น 25 ตระกูลมั่งคั่งที่สุดในโลกประจำปี 2025 อันดับสองในเอเชียแปซิฟิก เป็นรองแค่ 'อัมบานี' แห่งอินเดีย ปีนี้อันดับลดลงอยู่ที่ 22 แต่ทรัพย์สิน 'เพิ่มขึ้น' จากปีที่แล้วเฉียด 3 แสนล้าน
วันนี้ (16 ธ.ค.68) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เปิดเผยผลการจัดอันดับ "25 ตระกูลมั่งคั่งที่สุดในโลกประจำปี 2025" หรือ The World’s Richest Families 2025 ซึ่งในปีนี้พบว่า 25 ตระกูลมีความมั่งคั่งรวมกัน "สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์" นับตั้งแต่เริ่มการจัดอันดับมา อยู่ที่ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 91.4 ล้านล้านบาท)
ในขณะที่ตระกูล "เจียรวนนท์" แห่งบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (CP) ยังคงเป็นเพียงตระกูลหนึ่งเดียวจาก "ประเทศไทย" ที่เข้าไปอยู่ในโผนี้ได้ และเป็นอันดับสองในเอเชียแปซิฟิก เป็นรองเพียงแค่ตระกูล "อัมบานี" จากอินเดียเท่านั้น
ในปีนี้ ตระกูลเจียรวนนท์อยู่ในอันดับที่ 22 ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แม้จะตกลงมาจากในปีก่อนซึ่งอยู่อันดับที่ 19 แต่ความมั่งคั่งของตระกูลกลับเพิ่มขึ้นมาก อยู่ที่ 53,300 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.68 ล้านล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นถึง 9,200 ล้านดอลลาร์จากในปีที่แล้ว (ราว 2.9 แสนล้านบาท)
บลูมเบิร์ก บรรยายจุดเริ่มต้นความมั่งคั่งดังของเจียรวนนท์ว่า "เจี่ย เอ็กชอ" หนีออกจากหมู่บ้านที่ถูกไต้ฝุ่นถล่มในภาคใต้ของจีน และเริ่มชีวิตใหม่ในประเทศไทย โดยขายเมล็ดพันธุ์ผักกับน้องชายในปี พ.ศ.2464 ต่อมาหนึ่งศตวรรษให้หลัง บุตรชายของเจี่ยคือ "ธนินท์ เจียรวนนท์" ได้ขึ้นเป็นประธานอาวุโสของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีทั้งธุรกิจด้านอาหาร ค้าปลีก และโทรคมนาคม”
ปัจจุบันบริษัท Ascend Money ภายใต้บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีลูกค้ามากกว่า 50 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เปิดไทม์ไลน์เจียรวนนท์
- พ.ศ.2464 : เจี่ย เอ็กชอ และน้องชายเปิดร้านขายเมล็ดพันธุ์ในกรุงเทพฯ
- พ.ศ.2513 : ธนินท์ เจียรวนนท์ บุตรชายคนสุดท้องของเจี่ย ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของบริษัท
- พ.ศ.2555 : บริษัทเข้าซื้อหุ้นบริษัท Ping An Insurance ในจีน มาจาก HSBC ในราคา 9.4 พันล้านดอลลาร์
- พ.ศ.2560 : บุตรชายของธนินท์ คือ ศุภชัย เจียรวนนท์ ขึ้นรับตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์
เปิด 25 ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ปี 2025
หากเทียบกับเมื่อปี 2024 จะพบว่า 25 ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปี 2025 แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว โดย 10 อันดับแรกยังคงเป็นตระกูลมหาเศรษฐีโลกหน้าเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ ตระกูลส่วนใหญ่ "ร่ำรวยขึ้น" ความมั่งคั่งรวมของทั้ง 25 ตระกูลเพิ่มขึ้นเป็น 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 358,700 ล้านดอลลาร์ จากแรงหนุนของ "ราคาหุ้น" ที่ปรับตัวสูงขึ้น และความต้องการสินค้าอย่างโลหะ และอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอิทธิพล และประสบการณ์ที่ตระกูลเหล่านี้สั่งสมมายาวนานหลายทศวรรษ
ตระกูล "วอลเตอร์" แห่งอาณาจักรค้าปลีก Walmart ในสหรัฐ ยังคงรั้งอันดับ 1 ตระกูลที่รวยที่สุดในโลกต่อเนื่องอีกปี และปีนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ตระกูลผู้ก่อตั้งห้างวอลมาร์ทมีทรัพย์สินทะลุหลัก 5 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีความมั่งคั่งสุทธิอยู่ที่ 513,400 ล้านดอลลาร์
สำหรับ 10 อันดับตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปี 2025 มีดังนี้
ตระกูล ประเทศ บริษัท/แบรนด์ ความมั่งคั่ง
- วอลตัน สหรัฐ Walmart 513,400
- อัล นาห์ยัน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 335,900
- อัล ซะอูด ซาอุดีอาระเบีย 213,600
- อัล ธานี กาตาร์ 199,500
- แอร์เมส ฝรั่งเศส Hemes 184,500
- โคค สหรัฐ Koch Inc. 150,500
- มาร์ส สหรัฐ Mars Inc. 143,400
- อัมบานี อินเดีย Reliance Industries 105,600
- เวิร์ธไฮเมอร์ ฝรั่งเศส Chanel 85,600
- ธอมสัน แคนาดา Thomson Reuters 82,100
หน่วย: ล้านดอลลาร์
ราชวงศ์ ตอ.กลาง ยึดหัวหาดความมั่งคั่ง
เชค โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยัน ปธน.ยูเออี (ซ้าย)
สำหรับอันดับ 2 - 4 ตกเป็นของราชวงศ์หรือตระกูลจาก "ตะวันออกกลาง" ทั้งหมด นำโดย "ตระกูลอัล นาห์ยัน" จากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) ซึ่งครองความมั่งคั่ง 335,900 ล้านดอลลาร์ โดยตระกูลอัล นาห์ยัน เป็นเจ้าผู้ครองแคว้นอาบูดาบี หนึ่งในเจ็ดรัฐเอมิเรตส์ และผู้ปกครองอาบูดาบี เชค โมฮัมเหม็ด บิน ซายิด อัล นาห์ยัน ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศด้วย
อันดับ 3 เป็นของ "ตระกูลอัล ซะอูด" แห่งซาอุดีอาระเบีย โดยขยับขึ้นมาจากอันดับ 6 ในปีที่แล้ว ด้วยความมั่งคั่ง 213,600 ล้านดอลลาร์ บลูมเบิร์ก ระบุว่าแหล่งน้ำมันสำรองขนาดมหาศาลของประเทศเป็นรากฐานสำคัญของความมั่งคั่งโดยรวม และความมั่งคั่งสุทธิในปีนี้ที่สูงขึ้นมาจากการปรับประมาณการกระแสเงินไหลเข้าในอดีต และการนำปัจจัยการใช้จ่ายที่ลดลงของสมาชิกในราชวงศ์มาคำนวณเพิ่มเติม ทั้งนี้ ความมั่งคั่งทั้งหมดภายใต้สมาชิกในตระกูลขยายราว 15,000 คน มีแนวโน้มว่าจะสูงกว่าตัวเลขที่เคยประเมินไว้
อันดับ 4 เป็นของ "ตระกูลอัล ธานี" แห่งประเทศกาตาร์ ด้วยความมั่งคั่ง 199,500 ล้านดอลลาร์ แม้น้ำมันจะถูกค้นพบราวปี 1940 แต่สิ่งที่เปลี่ยนโฉมประเทศอย่างแท้จริงคือ การตัดสินใจพัฒนา "แหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง" ขนาดมหาศาล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ยกระดับผู้ปกครองกาตาร์ขึ้นสู่กลุ่มมหาเศรษฐีระดับสูงสุดของโลก สมาชิกในตระกูลอัล ธานี ครองตำแหน่งทางการเมืองจำนวนมาก และมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศ โดยเป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่โรงแรม บริษัทประกัน ไปจนถึงบริษัทรับเหมาก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังถือครองสินทรัพย์ต่างประเทศมูลค่าสูง เช่น บ้านพักในย่านเมย์แฟร์ของกรุงลอนดอน ฟาร์มเพาะพันธุ์ม้า ธนาคารเอกชน และแบรนด์แฟชั่นอย่างวาเลนติโน
เปิดโฉม 4 ตระกูลมหาเศรษฐีหน้าใหม่
ในปี 2025 นี้ มีตระกูลใหม่ 4 ตระกูลจากแต่ละทวีปเข้าสู่รายชื่อเป็นครั้งแรก ได้แก่ "ตระกูลลาร์เรีย โมตา เวลาสโก" จากเม็กซิโก ในอันดับที่ 17 เป็นเจ้าของอาณาจักร Grupo Mexico ดำเนินธุรกิจเหมือง และได้ฉายาว่า "ราชาเหมืองทองแดง" มีทรัพย์สิน 58,500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ "ตระกูลลุกซิกส์" จากชิลี อยู่ในอันดับที่ 25 โดยเป็นเจ้าของบริษัท Antofagasta ซึ่งดำเนินธุรกิจหลายประเภทรวมถึงเหมืองทองแดงรายใหญ่ด้วย
ด้าน "ตระกูลเดล เวคคิโอ" จากอิตาลี สร้างความมั่งคั่ง 56,200 ล้านดอลลาร์ จากธุรกิจแว่นตาภายใต้บริษัท EssilorLuxottica และล่าสุดได้รุกเข้าสู่แว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นแรงหนุนให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น โดยเข้ามาอยู่ทำเนียบตระกูลมหาเศรษฐีโลกครั้งแรกในอันดับที่ 18
ส่วน "ตระกูลโอลายัน" จากซาอุดีอาระเบีย แห่ง Olayan Group เข้ามาในอันดับที่ 23 ด้วยความมั่งคั่งราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับท่อส่งน้ำมัน และกลายเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่มีการกระจายธุรกิจหลากหลายครอบคลุม 6 ภาคอุตสาหกรรมในซาอุดีอาระเบีย และตะวันออกกลาง ตั้งแต่ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม การดูแลสุขภาพ ไปจนถึงพลังงาน ถือครองอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกมากกว่า 40 ล้านตารางฟุต และยังมีการสร้างคอนเน็กชันเชื่อมโยงกับวอลล์สตรีทในสหรัฐ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







