'รถยนต์จีน' ราคาร่วงไม่หยุด ปักกิ่งออกกฎคุม 'สงครามราคา'เข้มขึ้น

'รถยนต์จีน' ราคาร่วงไม่หยุด  ปักกิ่งออกกฎคุม 'สงครามราคา'เข้มขึ้น

ทางการจีนเตรียมออกระเบียบใหม่เพิ่มความเข้มงวดคุม 'สงครามราคา' ห้ามตั้งราคารถยนต์ต่ำกว่าทุน และห้ามให้ส่วนลดจนราคาต่ำกว่าทุน หลังมาตรการควบคุมก่อนหน้านี้ล้มเหลว ราคารถยนต์ในประเทศยังทรุดตัวลงไม่หยุด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการจีนได้เสนอร่างมาตรการ "จำกัดส่วนลดรถยนต์ใหม่" ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ธ.ค. เพื่อควบคุม "สงครามราคา" ซึ่งบ่งชี้ว่ารัฐบาลกำลังเพิ่มการตรวจสอบการแข่งขันที่รุนแรงเกินไปในอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ หลังจากล้มเหลวในความพยายามก่อนหน้านี้ที่จะควบคุมราคารถยนต์ไม่ให้ทรุดตัวลง

สำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งรัฐได้ประกาศร่างมาตรการแนวทางต่างๆ ซึ่งรวมถึงมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ผลิต "ตั้งราคารถยนต์ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต" และห้ามตัวแทนจำหน่าย "เสนอส่วนลดหรือเงินคืนที่จะทำให้ราคารถยนต์ลดลงต่ำกว่าต้นทุน"

ภายหลังการประกาศร่างมาตรการดังกล่าวที่เข้มงวดขึ้น ราคาหุ้นของบริษัท "BYD" บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเบอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนรายอื่นๆ ต่างปรับตัวลดลงถ้วนหน้าในวันจันทร์นี้ (15 ธ.ค.) หุ้นของ BYD ลดลง 1.7% ในตลาดฮ่องกง ขณะที่ Nio ปรับลดลง 2.5%, Xiaomi ลดลง 2.2% และ Zhejiang Leapmotor ลดลง 2.8% โดยที่ผ่านมาบริษัทเหล่านี้ต่างแข่งขันเรื่องการให้ส่วนลดเพื่อพยุงอุปสงค์ที่ชะลอตัวในประเทศ 

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางการจีนจะออกโรงตำหนิบรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆ มานานกว่า 6 เดือนแล้ว เกี่ยวกับการแข่งขันอย่างบ้าคลั่งที่ตัดราคาทำลายกันเอง (rat-race competition) และเตือนถึง "สุขภาพทางการเงิน" ของอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ราคารถยนต์ก็ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี หลี่ หยานเว่ย ที่ปรึกษาสมาคมผู้จำหน่ายรถยนต์จีน มองว่ายังไม่ชัดเจนว่ากฎที่ออกมาใหม่จะสามารถพลิกแนวโน้มขาลงของราคารถยนต์ได้หรือไม่ เนื่องจากหนึ่งในสาเหตุหลักของการหั่นราคาอย่างรุนแรงมาจาก "อุปสงค์ที่อ่อนแอ" และ "กำลังการผลิตที่ล้นเกิน" ในอุตสาหกรรมยานยนต์จีน 

“บางแบรนด์ใช้ความได้เปรียบจากขนาดกำลังการผลิตเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดในช่วงนี้ ซึ่งยิ่งซ้ำเติมสงครามราคา” หลี่กล่าว

ขณะเดียวกัน "ราคาซื้อขายรถยนต์โดยเฉลี่ยยังคงปรับตัวลดลง" โดยราคาซื้อขายเฉลี่ยของรถ BYD ลดลงจาก 116,200 หยวน ในเดือนมิ.ย. เหลือ 108,100 หยวนในเดือนต.ค. ตามข้อมูลจาก China Auto Market 

ผู้ผลิตรถยนต์ยังคงต้องใช้กลยุทธ์ส่วนลดเพื่อกระตุ้นยอดขาย หลังจากมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลสำหรับโครงการนำรถเก่ามาแลกซื้อรถใหม่เริ่มทยอยหมดลง ทำให้ทั้งผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก

ยูจีน เสี่ยว หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หุ้นจีนของ Macquarie Capital กล่าวว่า นักลงทุนในหุ้นกลุ่มยานยนต์เริ่มตระหนักถึงแรงกดดันจากกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หุ้นกลุ่มยานยนต์อ่อนแรง ซึ่งในภาพรวมนั้น ร่างแนวปฏิบัติดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายต่อต้านสงครามราคาของรัฐบาลจีน ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ตลาดรถยนต์ แต่ยังรวมถึงอีกหลายตลาดที่มีการตัดราคาทำสงครามกันอย่างดุเดือดด้วย 

ในอีกด้านหนึ่งหุ้นของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บางรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความหวังว่าจะเผชิญแรงกดดันน้อยลงในการต้องเฉือนเนื้อเพื่อให้บรรลุเป้าหมายยอดขายที่ผู้ผลิตตั้งไว้ โดยราคาหุ้นของ China Yongda Automobiles Services Holdings Ltd. ปรับขึ้น 1.2% และ Zhongsheng Group Holdings Ltd. เพิ่มขึ้น 3%

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งรวมถึง เชลลีย์ หวัง ระบุในรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า แม้ตัวแทนจำหน่ายอาจลดการขาดทุนได้บ้าง แต่การบังคับใช้มาตรการนี้ก็ยังเป็นความท้าทายเช่นกัน ตัวอย่างเช่น การจะปรับขึ้นราคาขายกับผู้บริโภคนั้นเป็นเรื่องยาก ท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอและยืดเยื้อ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์หรูเครื่องยนต์สันดาป

ทั้งนี้ ร่างกฎระเบียบดังกล่าวยังอยู่ในขั้นของร่างข้อเสนอ ซึ่งเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนจนถึงวันที่ 22 ธ.ค. โดยมุ่งเป้าควบคุมไปที่ "การฮั้วราคา" พร้อมแนะนำให้ผู้ผลิตรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายจัดตั้งระบบฝึกอบรมบุคลากร ระบบติดตามราคา และการควบคุมความเสี่ยง

นอกจากนี้ ทางการยังเตรียมกำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องขอ "ใบอนุญาตส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า" ตั้งแต่ปีหน้า เพื่อสกัดปัญหาที่เรียกว่า “รถมือสองเลขไมล์ศูนย์” และป้องกันไม่ให้บริษัทบันทึกยอดขายล่วงหน้า ทั้งที่รถยังไม่ถึงมือผู้บริโภคปลายทาง

ขณะที่การประเมินของ Macquarie Capital พบว่า การตรวจสอบแนวปฏิบัติของอุตสาหกรรมที่เข้มงวดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์บางรายเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบแรงจูงใจในการขายแล้ว จากการให้ส่วนลดตรงๆ ไปสู่การ "เพิ่มความคุ้มค่าให้ผู้ซื้อ" เช่น การจำหน่ายรถ SUV รุ่นใหญ่ในราคาที่ใกล้เคียงกับรถขนาดเล็กแทน