‘สี จิ้นผิง’ วิจารณ์ตัวเลขเศรษฐกิจสูงเกินจริง สั่งหยุดโครงการ ‘สร้างภาพ’

‘สี จิ้นผิง’ วิจารณ์ตัวเลขเศรษฐกิจสูงเกินจริง
เร่งปราบโครงการ ‘สร้างภาพ’ จ่อลงโทษเจ้าหน้าที่ทำนโยบายประมาท หันเน้นคุณภาพ-ความยั่งยืน
บลูมเบิร์ก รายงานคำวิจารของประธานาธิบดี "สี จิ้นผิง" ผู้นำสูงสุดของจีน เกี่ยวกับการรายงานตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดู "สูงเกินจริง" ในประเทศ และได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการปราบปรามโครงการต่าง ๆ ที่ดำเนินการไปอย่าง "ไร้ความรับผิดชอบ"
จ่อลงโทษเจ้าหน้าที่ทำตัวเลขเศรษฐกิจเกินจริง
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ พีเพิลส์เดลี่ (People's Daily) ซึ่งเป็นสื่อทางการของพรรคคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดีสี ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า "แผนงานทั้งหมดต้องตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง" เนื่องจากโครงการเหล่านี้ไม่ได้มีเป้าหมายที่แท้จริง แต่มีไว้เพื่อ แสดงผลลัพธ์ที่ฉาบฉวย หรือ "สร้างภาพ" ให้ดูดีเท่านั้น
“แผนงานทั้งหมดต้องตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง มุ่งเน้นการเติบโตที่มั่นคงและแท้จริงโดยปราศจากการกล่าวเกินจริง และส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงและยั่งยืน” สี จิ้นผิง กล่าว
ในการประชุมด้านเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดย “ สี จิ้นผิง” ได้กล่าวเตือนอย่างตรงไปตรงมาและเข้มงวด โดยประกาศว่าจะลงโทษอย่างหนักต่อเจ้าหน้าที่ที่กระทำการอย่างประมาท ไม่สนใจความเป็นจริง เรียกร้องมากเกินไป หรือใช้ทรัพยากรอย่างไม่รอบคอบ
คำกล่าวที่ตรงไปตรงมาและไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักมีขึ้นเพื่อเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายหันมามุ่งเน้นที่ “คุณภาพ” ในการสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นหลักไม่ใช่เพียง “ปริมาณ” โดยได้ยกตัวอย่างการกระทำที่ผิดพลาดและไร้ประโยชน์ซึ่งจะถูกปราบปราม เช่น การสร้างนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เกินความจำเป็น, การจัดงานแสดงสินค้าและเวทีเสวนาในท้องถิ่นที่ฟุ่มเฟือยเกินไป, การรายงานสถิติที่เกินจริง, และการดำเนินการ "เริ่มต้นก่อสร้างปลอม" เพื่อหลอกให้ตัวเลขดูดี
ไม่ควรดูแค่ ‘ตัวเลขเศรษฐกิจ’
เรื่องนี้เน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายเงินทุนของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ภาระหนี้ภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลจำกัดความสามารถของรัฐบาลในการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ การเข้าถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แท้จริงในจีนยังคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและถูกควบคุมอย่างเข้มงวด ทำให้ผู้สังเกตการณ์ภายนอกประเมินสถานะและสุขภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจจีนได้ยากลำบาก
“การประเมินผลงานของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรพิจารณาจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ควรให้น้ำหนักกับผลงานด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น การสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนและการรักษาเสถียรภาพของประเทศ โดยกล่าวเสริมว่า สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำเพื่อ วางรากฐานที่มั่นคงให้กับเศรษฐกิจในระยะยาว นั้น มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการกระตุ้นการเติบโตในปัจจุบัน”
สี จิ้นผิง ยังได้กล่าวเตือนถึงความจำเป็นในการ ป้องกันการลงทุนที่ "ไม่มีประสิทธิภาพ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ถูกทิ้งร้างทันทีที่สร้างเสร็จ
นอกจากนี้ สียังกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ควรให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับภาวะการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed-Asset Investment) ที่ลดลง เมื่อเร็ว ๆ นี้ และเน้นว่าควรจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใจเย็น
ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรลดลงถึง 2.6% ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าจะเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปีนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 เป็นอย่างน้อย ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีการเก็บข้อมูลที่เปรียบเทียบได้
คำกล่าวที่เข้มงวดเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับคำกล่าวของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อต้นปีนี้ที่ได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ต่างพากันแห่ลงทุนในอุตสาหกรรมเกิดใหม่กลุ่มเดียวกันทั้งหมด ซึ่งอาจบ่งชี้ถึง ความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับวิธีการนำนโยบายเศรษฐกิจไปปฏิบัติใช้จริง
ในเดือนก.ค. สี จิ้นผิง เคยกล่าวผ่านบทความของ People's Daily ว่า "เมื่อพูดถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ มักจะเป็นเรื่องเดิม ๆ ไม่กี่อย่าง ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), พลังการประมวลผล (Computing Power), และยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV)" พร้อมตั้งคำถามว่า "ทุกมณฑลในประเทศควรพัฒนาอุตสาหกรรมในด้านเหล่านี้หรือไม่?"







