Berkshire Hathaway ในมือ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ 55 ปี แห่งความสำเร็จ

Berkshire Hathaway ในมือ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ 55 ปี แห่งความสำเร็จ พลิกโฮมโรงงานทอผ้าสู่อาณาจักรโฮลดิ้ง ดัยหุ้นบริษัททะยาน 5,502,284%
ความมหัศจรรย์ของ ‘การลงทุนเน้นคุณค่า’
“วอร์เรน บัฟเฟตต์” (Warren Buffett) ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เทพแห่งโอมาฮา” นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 และ 21 จากการสร้างบริษัทโฮลดิ้งที่ยากจะหาใครเทียบได้อย่างบริษัท “เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์” (Berkshire Hathaway)
Berkshire ภายใต้การนำของบัฟเฟตต์ตลอดระยะเวลากว่า 55 ปี ทำให้บริษัทได้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของ "การลงทุนเน้นคุณค่า" และพลังของการเติบโตระยะยาว จนกลายเป็นอาณาจักรระดับโลกที่สร้างผลตอบแทนมหาศาล
จากบริษัทสิ่งทอสู่อาณาจักร 1 ล้านล้านดอลลาร์
ย้อนกลับไปในปี 1965 บริษัท Berkshire เป็นเพียงบริษัทสิ่งทอขนาดเล็กที่มีมูลค่าไม่ถึง 20 ล้านดอลลาร์ แต่ด้วยวิสัยทัศน์และการลงทุนที่เฉียบคมของบัฟเฟตต์ ได้แปลงโฉมบริษัทเป็นอาณาจักรโฮลดิ้งที่ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายแขนงทั้งประกันภัย, การรถไฟ, พลังงาน, การผลิต, การค้าปลีก และการเงิน
ปัจจุบัน Berkshire มีมูลค่าตลาดเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 40,000 เท่า ในช่วงเวลา 55 ปี และหุ้นของบริษัทพุ่งทะยานขึ้นถึง 5,502,284% นับตั้งแต่ที่บัฟเฟตต์เข้ามารับช่วงต่อบริษัทสิ่งทอจนถึงสิ้นปี 2024
ราคาหุ้น Class A ของ Berkshire Hathaway คือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดของการเติบโตที่ไม่ธรรมดา จากระดับราคาที่ต่ำกว่า 20 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงแรก ปัจจุบันราคาได้ทะยานขึ้นสู่ระดับกว่า 742,550 ดอลลาร์ต่อหุ้น กลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีราคาสูงที่สุดในโลก และเป็นสัญลักษณ์ของปรัชญาการลงทุน "ซื้อแล้วถือตลอดไป" ของบัฟเฟตต์
สิ่งที่ทำให้บัฟเฟตต์และ Berkshire Hathaway เป็น “ตำนาน” คือความสามารถในการเอาชนะตลาดได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
ตลอดระยะเวลากว่า 55 ปี มูลค่าหุ้นของ Berkshire เติบโตเฉลี่ยเกือบ 20% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของดัชนี S&P 500 ที่เติบโตราว 10% ต่อปี
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่หล่อเลี้ยงการเติบโตของ Berkshire คือ ความแข็งแกร่งทาง “การเงิน” ของบริษัทโดดเด่นอย่างมากเมื่อบริษัทมีงบดุลที่มั่นคงด้วยสินทรัพย์สภาพคล่องสูง ทั้งเงินสด พันธบัตรรัฐบาล และสินทรัพย์อื่น ๆ โดยเฉพาะเงินสดที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3.81 แสนล้านดอลลาร์ ณ ไตรมาส 3 ของปีนี้
นอกจากนี้ยังมีการถือครองหุ้นในบริษัทชั้นนำของโลก ซึ่งมีมูลค่าสูงอีกกว่า 2.7 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2024 โดยการเติบโตนี้มาจากการที่บัฟเฟตต์เข้าซื้อกิจการสำคัญ ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น See's Candies, Precision Castparts และ BNSF Railway รวมถึงการสร้างสัดส่วนการถือหุ้นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในหุ้นที่เป็นที่รู้จัก เช่น Apple, Coca-Cola และ American Express
สุดท้ายแล้วความสำเร็จของบัฟเฟตต์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวเลขทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปรัชญาที่ถ่ายทอดผ่านจดหมายประจำปีถึงผู้ถือหุ้นในแจต่ละปี ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเป็นผู้นำและจริยธรรม
แม้จะเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินส่วนตัวมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ แต่บัฟเฟตต์กลับดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่โอมาฮา และวิพากษ์วิจารณ์นโยบายภาษีที่เอื้อประโยชน์ต่อคนรวย







