ทรัมป์ดึงอำนาจคุม AI กลับส่วนกลาง ตั้งมาตรฐานเดียว ใช้ทั่วประเทศ

ปธน.ทรัมป์ลงนามคำสั่งบริหาร วาง ‘มาตรฐาน AI ระดับชาติ’ แบบเดียวเท่านั้น เพื่อดึงอำนาจควบคุม AI กลับสู่ส่วนกลาง ลดบทบาทมลรัฐ และส่งสัญญาณชัดว่า สหรัฐเลือก ‘เร่งเครื่องการแข่งขัน AI บนเวทีโลก’ มากกว่าการปล่อยให้กฎระเบียบท้องถิ่นมาเตะถ่วงนวัตกรรม
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำหนด “มาตรฐานการกำกับดูแล AI ระดับชาติแบบเดียว” ซึ่งเท่ากับเป็นการ “ลดทอนอำนาจของแต่ละมลรัฐ” ในการออกกฎควบคุม AI ของตนเอง
ในคำสั่งดังกล่าวระบุว่า “หากสหรัฐต้องการเป็นผู้ชนะ บริษัท AI ของสหรัฐต้องมีอิสระในการสร้างนวัตกรรม โดยไม่ถูกเตะถ่วงด้วยกฎระเบียบที่ยุ่งยาก ซึ่งการกำกับดูแลจากมลรัฐที่มากเกินไป กำลังบั่นทอนเป้าหมายนี้”
รัฐบาลทรัมป์ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเดวิด แซ็กส์ ผู้รับหน้าที่เป็น “ซาร์แห่ง AI และคริปโต” ได้ผลักดันแนวทางที่เปิดทางให้กฎของรัฐบาลกลาง มีอำนาจเหนือกฎของมลรัฐในด้าน AI โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้มลรัฐใหญ่ที่นำโดยพรรคเดโมแครต เช่น แคลิฟอร์เนีย และนิวยอร์ก ใช้อำนาจกำกับอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้
แซ็กส์ และชามาธ ปาลิฮาปิติยา นักลงทุนเทคโนโลยีและผู้จัดพอดแคสต์ชื่อดัง ยืนอยู่เคียงข้างทรัมป์ระหว่างพิธีลงนามในห้องทำงานรูปไข่ โดยมีวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ (รีพับลิกัน–เท็กซัส) และโฮเวิร์ด ลัตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ เข้าร่วมด้วย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง OpenAI และ Google รวมถึงบริษัทเงินร่วมลงทุน Andreessen Horowitz ซึ่งได้วิ่งล็อบบี้เพื่อลดกฎระเบียบ ที่พวกเขามองว่าเป็นภาระเกินความจำเป็น โดยบริษัท AI หลายแห่งได้เปิดสำนักงานใกล้อาคารรัฐสภา และเปิดตัวแคมเปญผ่านซูเปอร์แพ็ก (Super PAC) ที่มีงบอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2026
ผู้สนับสนุนกฎระดับรัฐบาลกลางให้เหตุผลว่า การมีกฎที่แตกต่างกันในแต่ละมลรัฐ จะเป็น “อุปสรรค” ต่อความสามารถของสหรัฐในการแข่งขันในสมรภูมิ AI ระดับโลก โดยร่างคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับหนึ่งที่หลุดออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว ระบุชัดถึงเป้าหมายการมี “มาตรฐาน AI ระดับรัฐบาลกลางเพียงชุดเดียว” แทนที่จะเป็นกฎระเบียบที่กระจัดกระจายจากมลรัฐทั้ง 50 แห่ง
เดิมที ข้อเสนอห้ามมลรัฐออกกฎควบคุม AI เป็นเวลา 10 ปี เคยถูกรวมไว้ในร่างกฎหมายงบประมาณของพรรครีพับลิกัน แต่ถูกตัดออกไปก่อนที่ทรัมป์จะลงนามในกฎหมายดังกล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคม
คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ยังสั่งให้รัฐมนตรียุติธรรมตั้ง “คณะทำงานฟ้องร้องด้าน AI” ขึ้นมาโดยเฉพาะ มีหน้าที่อย่างเดียวคือ คอยท้าทายหรือฟ้องร้องกฎหมาย AI ของมลรัฐต่าง ๆ
มลรัฐใดฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามกรอบดังกล่าวจากส่วนกลาง อาจเผชิญกับการจำกัดงบประมาณสนับสนุน คำสั่งระบุว่า ภายใน 90 วันหลังการลงนาม รัฐมนตรีพาณิชย์ต้องกำหนดเงื่อนไขว่ามลรัฐใดจะมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนที่เหลืออยู่จากโครงการ Broadband Equity Access and Deployment (BEAD) หรือโครงการมูลค่า 42,500 ล้านดอลลาร์ ที่มีเป้าหมายขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชนบทของสหรัฐ
อ้างอิง: cnbc







