ยอดขาย EV ทั่วโลกชะลอตัวหนัก โตแค่ 6% หลังตลาด ‘จีน-สหรัฐ’ แผ่ว

ยอดขาย EV ทั่วโลกชะลอตัวหนัก โตแค่ 6% หลังตลาด ‘จีน-สหรัฐ’ แผ่ว

ยอดขายรถ EV ทั่วโลกชะลอตัวหนัก โตแค่ 6% ช้าสุดในรอบ 21 เดือนผลกระทบจากตลาดจีนทรงตัว-สหรัฐถอนมาตรการจูงใจ ผู้ผลิตรถยนต์-รัฐบาลเริ่ม 'ทบทวน' นโยบายสิ่งแวดล้อม

รอยเตอร์รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ในเดือนพ.ย. มีการเติบโตที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2567 ซึ่งการชะลอตัวนี้เป็นผลมาจากตลาดสำคัญอย่างจีนเริ่มทรงตัว และนโยบายในสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

ข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา Benchmark Mineral Intelligence (BMI) ระบุว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นเพียง 6% เป็นเกือบ 2 ล้านคัน ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2567

ตลาดจีน

จำนวนการจดทะเบียนในจีนเพิ่มขึ้นเพียง 3% เป็นมากกว่า 1.3 ล้านคัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี จากการลดเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในช่วงปลายปีคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม

สหรัฐ

ยอดจดทะเบียนลดลงอย่างมากถึง 42% เหลือเพียงกว่า 100,000 คัน หลังการสิ้นสุดมาตรการลดหย่อนภาษีของสหรัฐ  นับเป็นการลดลงครั้งแรกของตลาดอเมริกาเหนือในรอบปีนับตั้งแต่ปี 2562

ในทางตรงกันข้าม ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 36% เป็นมากกว่า 400,000 คัน โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการจูงใจของแต่ละประเทศ

ชาร์ลส์ เลสเตอร์ ผู้จัดการข้อมูลของ BMI กล่าวว่า "สำหรับปีหน้า เรายังคงคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐ จะลดลง... มาตรการลดหย่อนภาษีมีอิทธิพลอย่างมากต่อตลาด"

บริบทของการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ ได้ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ และรัฐบาลทบทวนพันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมบางประการ รวมถึงข้อเสนอที่จะลดมาตรฐานการประหยัดเชื้อเพลิงในสหรัฐ และความเป็นไปได้ที่สหภาพยุโรปจะเลื่อนหรือผ่อนปรนข้อห้ามการผลิตรถยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใหม่ในปี 2035

 

อ้างอิง Reuters

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์