สรุปมุมมอง 'โบรกต่างชาติ' ต่อ 'หุ้นไทย-เงินบาท' หลังยุบสภาฯ

โบรกเกอร์ต่างชาติส่วนใหญ่มองว่าการเลือกตั้งก่อนกำหนดจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย คาดว่าจะเกิดภาวะตลาดขาขึ้น (Pre-election rally) เนื่องจากจะช่วยเร่งความชัดเจนของนโยบาย สำหรับค่าเงินบาทคาดว่าจะได้รับผลกระทบจำกัด
KEY
POINTS
- โบรกเกอร์ต่างชาติส่วนใหญ่มองว่าการเลือกตั้งก่อนกำหนดจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย
- คาดว่าจะเกิดภาวะตลาดขาขึ้น (Pre-election rally) เนื่องจากจะช่วยเร่งความชัดเจนของนโยบาย
- สำหรับค่าเงินบาทคาดว่าจะได้รับผลกระทบจำกัด
นักวิเคราะห์มองว่าการเลือกตั้งก่อนกำหนดจะช่วย "หนุนตลาดหุ้น" ให้ปรับตัวขึ้นได้ ส่วนเงินบาทคาดได้รับผลกระทบอย่างจำกัด หลังทำผลงานแข็งแกร่งมาตลอดปีนี้ โดยมีปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย ประกาศยุบสภาอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ธ.ค. 2568 เพื่อเตรียมจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้นสองเดือน หลังพรรคการเมืองสำคัญที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยชุดปัจจุบันขู่จะถอนตัวจากการสนับสนุน
หลังจากการประกาศ "ตลาดหุ้นไทย" ตอบรับข่าวดังกล่าวด้วยการปรับตัวขึ้น 0.8% ช่วงเปิดตลาด แม้ดัชนีจะลดลง 10% ในปีนี้ แต่ยังสูงกว่าระดับต่ำสุดเมื่อเดือนมิ.ย. ประมาณ 19%
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าขายออกไปแล้วเกือบ 3.3 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้
ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากกว่า 8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตามแนวโน้มเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยเงินบาทถือเป็นสกุลเงินที่ทำผลงานได้ดีเป็นอันดับสองของเอเชีย
นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่เกินดุลหรือรายได้ของประเทศจากการส่งออกสูงกว่าการนำเข้า รวมถึงอานิสงส์จากราคาทองที่ขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มุมมองจากนักวิเคราะห์และนักกลยุทธ์:
บริษัทหลักทรัพร์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)
• กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือ "เข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ 3 เดือนก่อนวันเลือกตั้ง และขายทำกำไร 1 เดือนหลังการเลือกตั้ง"
• "คาดว่าจะเกิดภาวะตลาดหุ้นขาขึ้นก่อนการเลือกตั้ง (Pre-election rally) หากไม่มีการทำรัฐประหารหรือการประท้วงเกิดขึ้น"
• หากพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสม จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย "เนื่องจากนโยบายหลักของทั้งสองพรรคโดยทั่วไปให้การสนับสนุนต่อเศรษฐกิจและตลาดทุน"
ซิตี้กรุ๊ป
• การยุบสภาและการเลือกตั้งก่อนกำหนดควรจะ "ช่วยเร่งความชัดเจนของนโยบาย" โดยคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสามารถจัดตั้งได้ประมาณเดือนมี.ค.
• คาดหวังความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์มากขึ้นระหว่างพรรคภูมิใจไทยของนายอนุทิน และพรรคประชาชน
• ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้นเด่น ได้แก่ CPALL, MINOR, BDMS,TRUE, KTB, GULF และ CPN
เมย์แบงก์
• "ยังไม่เห็นความสัมพันธ์ของเงินบาทกับการเลือกตั้ง เนื่องจากเงินบาทได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยไม่ใช่แค่การเมืองอย่างเดียว"
• "อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ เมย์แบงก์ให้ความสนใจกับการเลือกตั้งเป็นพิเศษ เนื่องจากมีหลายประเด็นที่เข้ามากระทบการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น ความยั่งยืนทางการคลัง 'เงินทุนสีเทา' และนโยบายการเงิน"
• "ช่วงที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นตามสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่เมย์แบงก์ก็สังเกตว่าเงินบาทมีผลงานที่โดดเด่น และไม่ตัดความเป็นไปได้ที่การไหลเข้าของนักท่องเที่ยวตามฤดูกาลจะช่วยหนุน (แม้ว่าอาจจะต่ำกว่าปีก่อนๆ) ขณะนี้โมเมนตัมของเงินบาทดูแข็งแกร่งมาก"
แบงก์ ออฟ สิงคโปร์
• แม้เป็นไปได้ว่าการเลือกตั้งก่อนกำหนดจะช่วยลดความไม่แน่นอนทางการเมือง "แต่คำถามคือการเลือกตั้งเร็วขึ้นจะนำมาซึ่งความชัดเจนทางการเมืองและนโยบายที่ดีขึ้นได้มากน้อยเพียงใด"
• มีมุมมอง "เป็นกลาง" ต่อค่าเงินบาท เนื่องจากความแข็งแกร่งของเงินบาทในปีนี้ "เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ แม้ว่าส่วนหนึ่งสามารถอธิบายได้ด้วยแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำ"
โอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิ้ง คอร์ป (OCBC)
• ค่าเงินบาท "ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกมากกว่า" โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ หลังการประชุม FOMC และราคาทองคำที่แข็งแกร่งขึ้น
• "เมื่อเข้าใกล้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ปัจจัยภายในประเทศอาจเริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการขับเคลื่อนค่าเงินบาท ขึ้นต้องจับตาพัฒนาการของสถานการณ์ ซึ่งยังคงมีความผันผวนสูง"
• "ในระยะสั้น เราเห็นระดับแนวรับของ USD/THB อยู่ที่ 31.60"







