‘เอลลิสัน’ ตกอันดับคนรวยโลก ความมั่งคั่ง ‘หายเกือบ 8 แสนล้าน’

‘เอลลิสัน’ ตกอันดับคนรวยโลก ความมั่งคั่ง ‘หายเกือบ 8 แสนล้าน’

จากจุดสูงสุดของมหาเศรษฐีโลก สู่แรงสั่นสะเทือนจากการทุ่มลงทุน AI และศึกชิงอาณาจักรสื่อ หุ้น ‘Oracle’ ร่วงหนัก ฉุดความมั่งคั่งขอ แลร์รี เอลลิสัน ‘หายไปเกือบ 8 แสนล้านบาท’ ในจังหวะเดียวกับที่ตระกูลเอลลิสันเปิดเกมใหญ่ หนุนหลังดีลซื้อ Warner Bros. Discovery แสนล้านดอลลาร์

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สามเดือนหลังจากที่ “แลร์รี เอลลิสัน” เคยก้าวขึ้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้เพียงชั่วครู่ การดิ่งลงครั้งประวัติศาสตร์ของหุ้น Oracle ได้ฉุดมูลค่าทรัพย์สินของเขาให้ดิ่งลงถึง 24,900 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.8 แสนล้านบาท)

หุ้น Oracle ร่วงลง 11% ในการซื้อขายวันพฤหัสบดี หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สะท้อนว่า ต้องทุ่มเงินจำนวนมากไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูล AI จนนักลงทุนกังวลใจว่า เงินลงทุนเหล่านี้ยังไม่สามารถสร้างรายได้กลับมาได้เร็วอย่างที่คาดไว้

แรงขายดังกล่าวส่งผลให้แลร์รี เอลลิสัน วัย 81 ปี ผู้ก่อตั้ง Oracle หลุดจากอันดับสอง มาอยู่ “อันดับสาม” ของทำเนียบมหาเศรษฐีโลกของ Bloomberg

นอกจากนี้ การขาดทุนทางบัญชีของเอลลิสัน เกิดขึ้นในจังหวะเดียวกับที่เขาประกาศจะสนับสนุนทางการเงินให้ “เดวิด เอลลิสัน” บุตรชาย เดินหน้าข้อเสนอเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 108,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นดีลแบบไม่เป็นมิตร

ก่อนหน้านี้ Paramount Skydance ของเอลลิสันแพ้ให้กับ Netflix ในการแย่งซื้อบริษัทสื่อเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Warner Bros., HBO และ CNN ทำให้บริษัทตัดสินใจยื่นข้อเสนอใหม่โดยตรงถึงผู้ถือหุ้นในสัปดาห์นี้ เสนอซื้อหุ้นในราคา 30 ดอลลาร์ต่อหุ้น เป็นเงินสดทั้งหมด โดยใช้เงินทุนใหม่มูลค่า 41,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากตระกูลเอลลิสันและ RedBird Capital Partners

ทั้งนี้ Paramount ส่งสัญญาณว่า ราคา 30 ดอลลาร์ต่อหุ้น ยังไม่ใช่ข้อเสนอที่ดีที่สุดหรือข้อเสนอสุดท้าย ซึ่งอาจปูทางไปสู่การต่อสู้ที่ยืดเยื้อกับ Netflix ต่อไป

ตามดัชนีความมั่งคั่งของ Bloomberg เอลลิสันถือครองเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดราว 34,800 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขายหุ้น Oracle ในอดีต 

อย่างไรก็ดี เงินส่วนหนึ่งถูกผูกอยู่กับสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ เช่น อสังหาริมทรัพย์และงานศิลปะ ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่าเขาจะสามารถนำเงินจำนวนเท่าใดออกมาใช้ได้ทันที

นอกจากนี้ เอลลิสันยังได้นำหุ้น Oracle ของตนประมาณ 30% ไปวางเป็นหลักประกันเพื่อค้ำประกันหนี้สินส่วนบุคคล ณ วันที่ 19 กันยายน ตามเอกสาร Proxy statement ปี 2025 ของ Oracle ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นราว 25% เมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นที่นำไปค้ำประกันไว้เมื่อปีก่อน

แม้หลังจากหุ้นร่วงลงในวันพฤหัสบดี สัดส่วนการถือหุ้น Oracle ของเอลลิสัน ซึ่งเป็นแหล่งความมั่งคั่งที่ใหญ่ที่สุดของเขา ก็ยังมีมูลค่าสูงถึงราว 202,800 ล้านดอลลาร์ เอลลิสันขายหุ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายทศวรรษ แต่ในปริมาณที่ค่อนข้างจำกัด โดยนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา เขาไม่เคยขายหุ้นมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ในปีใดปีหนึ่ง ตามการวิเคราะห์ของ Bloomberg

แม้มีการปรับลงของมูลค่าหุ้นในวันนี้ แต่เอลลิสันยังคงมีความมั่งคั่ง “มากกว่าปีก่อน” สูงถึง 94,900 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3 ล้านล้านบาท

อ้างอิง: bloomberg