‘เวียดนาม‘ ห้ามส่งออกแร่หายากดิบ บังคับแปรรูปในประเทศ ยกระดับสู่ ‘ผู้ผลิต‘

‘เวียดนาม‘  ห้ามส่งออกแร่หายากดิบ บังคับแปรรูปในประเทศ ยกระดับสู่ ‘ผู้ผลิต‘

‘เวียดนาม‘ ออกกฎหมายใหม่ ห้ามส่งออกแร่หายากดิบราคาถูก เริ่มใช้ม.ค.นี้ บังคับแปรรูปในประเทศ ยกระดับสู่ ‘ผู้ผลิต‘

บลูมเบิร์กรายงานว่ารัฐสภาเวียดนามได้ผ่านการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยธรณีวิทยาและแร่ธาตุเพื่อห้ามการส่งออกทรัพยากรแร่หายากในรูปวัตถุดิบ และเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมแหล่งสะสมแร่ รวมถึงกำหนดกฎเกณฑ์ใหม่สำหรับอุตสาหกรรมนี้

กฎหมายใหม่ระบุว่ารัฐบาลจะควบคุมการสำรวจ จากการแปรรูปแร่หายากอย่าง "เคร่งครัด" โดยกฎหมายใหม่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.นี้ คือห้ามการส่งออกแร่หายากในรูปวัตถุดิบ รวมทั้งเฉพาะบริษัทที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเท่านั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้ทำการแสวงหาประโยชน์ แปรรูป และใช้แร่หายากได้

กฎหมายระบุว่า จะมีการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการวิจัย และการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการสกัด การแต่งแร่ การแยก และ การแปรรูปแร่หายากในเชิงลึก เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายากภายในประเทศ

กฏหมายนี้ทำให้เห็นว่า เวียดนามจะไม่ส่งออกแร่หายากที่ขุดขึ้นมาในรูปวัตถุดิบราคาถูกอีกต่อไป แต่จะบังคับให้เกิดการลงทุนและพัฒนาโรงงานภายในประเทศเพื่อแปรรูปแร่เหล่านี้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น ผงแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง หรือส่วนประกอบสำหรับแบตเตอรี่ การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจของประเทศ โดยเปลี่ยนจากการเป็นเพียงผู้ขาย "ดิน" ให้กลายเป็นผู้ผลิต "ส่วนประกอบเทคโนโลยี" 

เวียดนามมีปริมาณสำรองแร่หายากอยู่ที่ 3.5 ล้านตัน ซึ่งจัดให้อยู่ในอันดับที่ 6 ของโลก ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US Geological Survey: USGS) เมื่อเดือนมี.ค.2568 ซึ่งเป็นการปรับลดจากที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้าว่าเวียดนามมีปริมาณสำรองถึง 22 ล้านตัน เป็นรองเพียงจีนเท่านั้น

แร่หายาก หรือกลุ่มธาตุโลหะ 17 ชนิดเป็นส่วนประกอบสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนและแลปท็อป ไปจนถึงเครื่องบินรบและขีปนาวุธ โดยปัจจุบัน จีนเป็นผู้ควบคุมตลาดเกือบทั้งหมด