รถจีน ‘ขายแซงเกาหลี’ ครั้งแรก ในตลาดยุโรปตะวันตก

รถจีน ‘ขายแซงเกาหลี’ ครั้งแรก ในตลาดยุโรปตะวันตก

ยอดขายรถยนต์จากจีนเริ่ม ‘ท้าทายอำนาจเดิม’ ในยุโรปตะวันตกอย่างจริงจัง หลังแซงค่ายเกาหลีใต้ ‘เป็นครั้งแรก’ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แม้ส่วนแบ่งในเดือนถัดมาจะปรับลดลงเล็กน้อย แต่นักวิเคราะห์มองว่า นี่คือสัญญาณของคลื่นผู้ผลิตจากจีนที่กำลังรุกคืบ

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า บริษัทผลิตรถยนต์จากจีนสามารถทำยอดขาย “แซงหน้า” คู่แข่งจากเกาหลีใต้ในยุโรปตะวันตก รวมทั้งสหราชอาณาจักรได้ “เป็นครั้งแรก” ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา 

ตามข้อมูลจาก Schmidt Automotive Research ซึ่งตั้งอยู่ในเยอรมนีระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดของค่ายจีนในภูมิภาคแตะระดับ 8% ในเดือนกันยายน แซงหน้าแบรนด์เกาหลีใต้ที่มีส่วนแบ่ง 7.8% 

แม้ส่วนแบ่งของจีนจะปรับลดลงเหลือ 6.8% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกับ 7.2% ของเกาหลีใต้ แต่บรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า ตัวเลขในเดือนกันยายนสะท้อนสัญญาณของ “แนวโน้มใหม่” ที่เพิ่งเริ่มต้น

เฟอร์ดินันด์ ดูเดนโฮเฟอร์ ผู้อำนวยการ Center for Automotive Research ในเมืองโบชุม เยอรมนี กล่าวว่า “ขณะที่ค่ายเกาหลีมีเพียง Hyundai และ Kia ซึ่งถือเป็นบริษัทเดียวกัน ฝั่งจีนกลับมีบริษัทจำนวนมากดุจฝูงผึ้ง และ Changan, Xiaomi รวมถึงค่ายอื่น ๆ ก็กำลังทยอยเข้าร่วมตลาดยุโรป”

“ความเป็น ‘ฝูง’ ทำให้การแข่งขันสูง โดยเฉพาะในจีน ที่ผู้ผลิตแต่ละรายเร่งเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง อีก 10 ปีข้างหน้า กลุ่มผู้ผลิตจากจีนจะยิ่งแข็งแกร่ง และอาจทำให้ค่ายญี่ปุ่นและเกาหลีตกไปอยู่แถวหลังของตลาดโลก”

ในช่วงเดือนมกราคม–กันยายน ยอดขายรถยนต์จากจีนในภูมิภาคยุโรปตะวันตกอยู่ที่ 503,321 คัน เพิ่มขึ้น 77.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงกว่าการเติบโตของตลาดโดยรวมที่มีเพียง 1.1% เท่านั้น ตามข้อมูลของ Schmidt

สิ่งที่โดดเด่นคือ ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นท่ามกลางมาตรการตอบโต้ของสหภาพยุโรป ที่เริ่มเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลปักกิ่งมีการอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรม

สำหรับจำนวนรุ่นรถจีนที่ขายได้ในยุโรป เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงไตรมาส 3 (ก.ค.–ก.ย.) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 ซึ่งขณะนั้นมาตรการภาษียังไม่เริ่มใช้

แม้ตัวเลขจะสะท้อนว่า Hyundai และ Kia เริ่มเสียความสามารถในการแข่งขันในยุโรป แต่นักวิเคราะห์ย้ำว่า ไม่ได้ถือเป็น “ความเสียหายใหญ่” ของค่ายเกาหลีใต้ โดยส่วนแบ่งตลาดของเกาหลีในช่วงไตรมาส 3 ลดลงเพียง 0.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ค่ายญี่ปุ่นลดลงหนักกว่าอยู่ที่ 1.8% ทำให้ส่วนแบ่งของญี่ปุ่นเหลือเพียง 12.5%

แมทเทียส ชมิดท์ ผู้ก่อตั้ง Schmidt Automotive Research ให้สัมภาษณ์นิกเกอิ เอเชียว่า สาเหตุหลักของความอ่อนแรงของแบรนด์ญี่ปุ่นคือ “ขาดไลน์รถยนต์ไฟฟ้า (BEV)” ทั้งที่ยอดขาย BEV จะกินสัดส่วนถึง 20% ของตลาดยุโรปตะวันตกเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยยอดจดทะเบียน BEV ของญี่ปุ่นมีเพียง 4.3% เทียบกับ 20% ของเกาหลีใต้ และ 37% ของจีน ในช่วงเดือนมกราคม–ตุลาคม

อย่างไรก็ตาม โฆษกบริษัท Hyundai Motor แสดงความเชื่อมั่นต่อสถานะของแบรนด์ในยุโรป โดยระบุว่า เครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการที่ครอบคลุม เป็น “จุดแข็งสำคัญ” ของค่ายเกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมในเยอรมนีมานาน ขณะที่ของจีนยังมีน้อยมาก

นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่า เมื่อมีค่ายจีนเข้ามามากขึ้น พร้อมตั้งราคาต่ำลง จะยิ่งทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น

อ้างอิง: nikkei