อินเดีย 'หั่นดอกเบี้ย' 0.25% รับเศรษฐกิจมีสัญญาณอ่อนแอ

แบงก์ชาติอินเดียหั่นดอกเบี้ยลงแตะ 5.25% วันนี้ รับมีสัญญาณอ่อนแอในตัวชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญบางรายการ ภาษีทรัมป์ทำพิษหนักครึ่งปีหลัง
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ประชุมธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ประกาศลดอตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ตามความคาดหมาย สู่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นการลงมติอย่างเป็นเอกฉันทน์ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน โดยให้เหตุผลว่ามีสัญญาณอ่อนแอในตัวชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญบางรายการ
ราชา ซันเจย์ มัลโฮตรา ผู้ว่าการ RBI ระบุว่า แม้อัตราเงินเฟ้อจะชะลอลงอย่างมากในไตรมาสแรก แต่การเติบโตอาจชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ เนื่องจากความไม่แน่นอนของการค้าโลก
แม้จีดีพีของอินเดียจะขยายตัวได้ 8.2% ในไตรมาสดือนก.ค. - ก.ย. สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมภาคอุตสาหกรรมในเดือนต.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน และตัวชี้วัดอย่างดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของ HSBC ก็ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนในเดือนพ.ย. บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว
การส่งออกไป "สหรัฐ" ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่ค้าหลักของอินเดีย ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนต.ค. โดยลดลง 8.5% จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 6.3 พันล้านดอลลาร์ ฉุดให้การส่งออกโดยรวมในเดือนเดียวกันลดลง 11.8% สู่ระดับ 3.438 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ สหรัฐได้เก็บภาษีศุลกากรสูงถึง 50% ต่อสินค้าจากอินเดียตั้งแต่เดือนส.ค. ทำให้อินเดียต้องปรับลดภาษีสินค้าและบริการ หรือ GST ในเดือนก.ย. ก่อนเทศกาลยาวหนึ่งเดือน เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศและลดผลกระทบจากมาตรการภาษี
รายได้จากภาษี GST ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในเดือนต.ค. อยู่ที่ 1.95 ล้านล้านรูปี (ราว 2.17 หมื่นล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 4.6% จากปีก่อนหน้า แต่กลับชะลอตัวลงในเดือนพ.ย. โดยการจัดเก็บขั้นต้นอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านรูปี เพิ่มขึ้นเพียง 0.7%
ด้านค่าเงินรูปีของอินเดียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลุดระดับสำคัญที่ 90 รูปีต่อดอลลาร์เมื่อวันพุธ ก่อนจะฟื้นตัวบางส่วน







