‘หนี้ท้องถิ่นจีน’ พุ่งทำสถิติใหม่ ‘แตะ 600 ล้านล้านบาท’

‘หนี้ท้องถิ่นจีน’ พุ่งทำสถิติใหม่ ‘แตะ 600 ล้านล้านบาท’

ท่ามกลางภาวะอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ และรายได้ท้องถิ่นหดหาย ‘หนี้รัฐบาลท้องถิ่นจีน’ พุ่งสู่จุดสูงสุดใหม่แตะราว 600 ล้านล้านบาท ขณะที่บริษัทลูกระดมทุน LGFV กลายเป็นระเบิดเวลา ทำกำไรจริงน้อย แต่ต้องพึ่งเงินอุดหนุนเกิน 4.5 ล้านล้านหยวน

เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า “หนี้รัฐบาลท้องถิ่นจีน” ยังคงพุ่งไม่หยุด โดยหลังภาวะซบเซายืดเยื้อใน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้ “รายได้จากการขายที่ดิน” ลดลงอย่างมาก และทำให้รัฐบาลท้องถิ่นต้องออกพันธบัตรในปีนี้มากขึ้น จนพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ตัวยอดหนี้รวมของ รัฐบาลท้องถิ่น และของบริษัทที่รัฐบาลท้องถิ่นตั้งขึ้นเพื่อกู้เงินแทนรัฐ (LGFV) ซึ่งถูกใช้ระดมทุนทำโครงการต่างๆ อยู่ที่ราว 134 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 600 ล้านล้านบาท) ในปัจจุบัน

แม้ว่า อัตราดอกเบี้ย ที่ลดลง อาจช่วยยืดปัญหาออกไปได้ชั่วคราว แต่ก็มีความเสี่ยงว่าจะยิ่งทำให้ภาวะเงินฝืดกินเวลานานกว่าเดิม

กระทรวงการคลังจีนประกาศในเอกสารเมื่อเดือนตุลาคม ว่า “ได้กันเงินไว้ 5 แสนล้านหยวนสำหรับรัฐบาลท้องถิ่น” โดยเงินก้อนนี้จะถูกใช้เพื่อลดภาระหนี้ และชำระเงินค้างจ่าย รวมถึงลงทุนในโครงการต่างๆ

หลี่ ต้าเหว่ย ผู้อำนวยการ แผนกบริหารจัดการหนี้แห่งใหม่ของกระทรวงการคลัง ระบุว่า “ตอนนี้รัฐบาลท้องถิ่นกำลังเร่งออกพันธบัตร จัดจำหน่ายให้เร็วที่สุด และหวังเห็นผลโดยเร็ว”

ยอดออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น ณ สิ้นเดือนที่แล้วอยู่ที่กว่า 10 ล้านล้านหยวน สูงกว่าทั้งปีที่แล้ว 9.7 ล้านล้านหยวน และเป็นระดับสูงสุดตลอดกาล ส่วนยอดคงค้างรวมของพันธบัตรท้องถิ่นขณะนี้อยู่ที่ 54 ล้านล้านหยวน

สำหรับหนึ่งในปัจจัยหลักคือ รายได้ของท้องถิ่นลดลงจาก “การชะลอตัวของตลาดอสังหาฯ” มูลค่าการขายที่ดินของรัฐบาลท้องถิ่นช่วงม.ค.– ต.ค. อยู่ที่ไม่ถึง 2.5 ล้านล้านหยวน ในขณะที่ปี 2021 เคยสูงถึง 8.7 ล้านล้านหยวนตลอดปี

โหย่ว จื่อเพ่ย นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Zhongtai International Securities ระบุว่า “กว่า 10% ของที่ดินที่นำออกประมูล ไม่มีผู้ซื้อเข้าร่วมเลย” พร้อมคาดว่าปี 2025 มูลค่าการขายที่ดินจะอยู่ราว 3 ล้านล้านหยวน ต่ำกว่าจุดสูงสุดกว่า 5 ล้านล้านหยวน

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ท้องถิ่นต้องออกพันธบัตรเพิ่มคือ หนี้แฝง ซึ่งหมายถึงเงินกู้ที่ระดมผ่านบริษัทลูกหรือ LGFV เช่น การออกหุ้นกู้ของบริษัทพัฒนาโครงการที่รัฐบาลท้องถิ่นถือหุ้นอยู่

ตามข้อมูลจาก DZH ผู้ให้บริการข้อมูลของจีน ระบุว่า ณ สิ้นปีที่แล้ว หนี้มีดอกเบี้ยของ LGFV ราว 4,000 แห่ง รวมกันอยู่ที่ 87 ล้านล้านหยวน และเมื่อรวมกับพันธบัตรท้องถิ่นอีก 47 ล้านล้านหยวน จะได้ยอด 134 ล้านล้านหยวน

ด้าน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินหนี้ LGFV ปี 2024 อยู่ที่ 65 ล้านล้านหยวน แม้ตัวเลขต่างกัน แต่โดยทั่วไปประเมินว่า หนี้นอกงบประมาณของท้องถิ่นอยู่ระหว่าง 60–80 ล้านล้านหยวน

แม้บริษัทจะอยู่รอดได้หากทำกำไร แต่ LGFV ส่วนใหญ่มีผลตอบแทนต่ำมาก เกือบ 10% ขาดทุน และมีเพียง 3% ที่มีผลตอบแทนจากส่วนทุนเกิน 4%

สิ้นปี 2024 บริษัท LGFV ทั้งประเทศมีกำไรรวมประมาณ 5.5 แสนล้านหยวน แต่ถ้าดูให้ลึก จะพบว่าพวกเขาต้องพึ่ง “เงินอุดหนุนจากรัฐมากกว่า 1 ล้านล้านหยวน” เพื่อให้ตัวเลขออกมาดูดีขึ้น หมายความว่า ถ้าไม่รวมเงินช่วยเหลือ เกือบครึ่งของ LGFV จะ “ขาดทุนจริง” เพราะงานที่ทำส่วนใหญ่เป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่แทบไม่ทำกำไร ทำให้การหาเงินมาใช้หนี้เป็นเรื่องยาวนาน

ถึงแม้จะมีหนี้ล้นมือ แต่ LGFV ยังอยู่รอดได้ เพราะรัฐบาล “ค้ำประกันแบบไม่เป็นทางการ” และมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเพราะเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเงินฝืด รัฐบาลภายใต้การนำของ สี จิ้นผิง ยังตัดสินใจออกพันธบัตรท้องถิ่นเพิ่มอีก 10 ล้านล้านหยวนในปีที่ผ่านมา เพื่อย้ายภาระหนี้ของ LGFV มาอยู่ในงบของรัฐบาลท้องถิ่นแทน เป้าหมายคือป้องกันไม่ให้ปัญหาหนี้เหล่านี้บานปลายจนเกิด วิกฤติการเงิน



อ้างอิง: nikkei

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์