รัฐบาลจีนเตือนแรง! เกิด ‘ฟองสบู่’ หุ้นหุ่นยนต์

รัฐบาลจีนเตือนแรง! เกิด ‘ฟองสบู่’ หุ้นหุ่นยนต์

กระแส ‘หุ้นหุ่นยนต์จีน’ ที่เคยร้อนแรงจนดัชนีพุ่งเกือบ 60% กลับเริ่มถูกตั้งคำถาม หลังรัฐบาลปักกิ่งออกมาเตือนถึง ‘ความเสี่ยงฟองสบู่’ ท่ามกลางการประเมินมูลค่าที่สูงเกินจริงและผลประกอบการที่ยังไม่สอดคล้องกับราคา แม้บางบริษัทจะทำราคาหุ้นพุ่งกว่าเท่าตัว แต่ส่วนใหญ่ยังขาดทุน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ช่วงก่อน นักลงทุนแห่ตื่นตัวกับ “หุ้นหุ่นยนต์” ในจีนกันมาก แต่ตอนนี้กระแสเริ่มเปลี่ยนเป็นความกังวล เพราะรัฐบาลออกมาเตือนว่าอาจกำลังเกิด “ฟองสบู่” ในตลาด ทำให้หลายคนเริ่มกลับมาจับตาว่า ราคาหุ้นที่พุ่งแรงก่อนหน้านี้ อาจสูงเกินจริงหรือไม่

ดัชนี Solactive China Humanoid Robotics Index พุ่งขึ้นเกือบ 60% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงจุดสูงสุดในเดือนตุลาคม จากแรงเก็งกำไรก่อนหน้านี้ที่ได้แรงหนุนจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ และคลิปไวรัลของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่เต้น ต่อยมวย และแข่งวิ่ง 

อุตสาหกรรมนี้ ซึ่งรวมจุดแข็งด้าน AI และความสามารถในการผลิตของจีน ถือเป็นหนึ่งในตัวหมากสำคัญที่ปักกิ่งใช้ผลักดัน “อุตสาหกรรมอนาคต” ของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่พุ่งแรงอย่างรวดเร็ว ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงเช่นกัน เพราะอุตสาหกรรมนี้ยังอยู่ช่วงเริ่มต้น แต่ราคาหุ้นเติบโตเร็วจนปัจจัยพื้นฐานตามไม่ทัน ล่าสุดดัชนีได้ร่วงลงเกือบ 20% จากจุดสูงสุด นักลงทุนก็เริ่มระมัดระวังมากขึ้น คล้ายกับความกังวลของวอลล์สตรีท ที่มองว่าหุ้นกลุ่ม AI มีมูลค่าสูงเกินจริงและใช้เงินลงทุนเยอะมาก 

กระแสความกังวลยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อรัฐบาลปักกิ่งออกมาเตือนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความเสี่ยงในอุตสาหกรรมที่มีผู้เล่นแออัดมากเกินไป

ฟู่ จื้อเฟิง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของบริษัท Shanghai Chengzhou Investment Management ให้ความเห็นว่า 

“ตอนนี้ผมมีมุมมองเป็นกลางต่อหุ้นหุ่นยนต์ เพราะการประเมินมูลค่าของหุ้นอยู่ในระดับสูงมากแล้ว และมีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น ที่จะสามารถยืนระยะได้ในแต่ละห่วงโซ่อุปทาน”
เขาเสริมว่า “ในระยะยาว อาจมีเพียงหนึ่งหรือสองบริษัทเท่านั้น ที่จะสามารถเบียดผู้เล่นรายอื่นขึ้นมาเป็นผู้ชนะได้จากอุตสาหกรรมที่แออัดเช่นนี้”

ในบรรดาหุ้นที่ทำผลงานโดดเด่นนั้น หุ้นของ UBTech Robotics เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าตั้งแต่ต้นปี แม้บริษัทจะขาดทุนในช่วงครึ่งปีแรก 414 ล้านหยวน  

ขณะที่ Ningbo Zhongda Leader Intelligent Transmission พุ่งขึ้น 186% ในปีนี้ แม้กำไรสุทธิไตรมาส 3 ลดลง 19%

ข้อมูลที่จัดทำโดยบลูมเบิร์กระบุว่า อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ของกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 58 เท่า สำหรับประมาณการกำไรล่วงหน้า 12 เดือน เทียบกับ 32 เท่า ของดัชนี CSI 300 Information Technology

ราวี หว่อง รองประธานคนแรกของ Yan Yun Family Office ให้ความเห็นว่า อัตรา P/E ในปัจจุบันคือการดึงคาดการณ์ผลประกอบการในปีหน้าออกมาใช้ก่อน พร้อมอธิบายว่า

“แม้บริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนแกนหลัก จะเห็นการเติบโตกว่า 20% ในรายได้ แต่สตาร์ทอัพหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์และหุ่นยนต์บริการกว่า 70% ยังคงขาดทุน ไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังการเติบโตสูงของตลาดได้”

ด้านมอร์แกน สแตนลีย์ตั้งข้อสงสัยต่อความคึกคักของนักลงทุน โดยตั้งคำถามถึง “การใช้งานเชิงอุตสาหกรรม” ของหุ่นยนต์ เนื่องจากประสิทธิภาพตอนนี้ยังต่ำ เมื่อเทียบกับแรงงานมนุษย์ 

ถึงกระนั้น ในมุมของนักลงทุนสายมองโลกในแง่ดีชี้ว่า ความได้เปรียบของจีนในห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ไปจนถึงจำนวนวิศวกรระดับมหาศาล จะช่วยให้ อุตสาหกรรมนี้เติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว โดย Citigroup คาดว่า การผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะเติบโตในระดับ “เอ็กซ์โพเนนเชียล” ในปีหน้า 


อ้างอิง: bloombergyahoo