ยุคทอง EV จีน ใกล้จบ? หลังกำไรน่าผิดหวัง คาดตลาดปี 69 โตแค่ 13%

ยุคทอง EV จีน ใกล้จบ? ผลประกอบการค่ายใหญ่น่าผิดหวัง หลังรัฐบาลลดซัพพอร์ต-ต้นทุนสูงกัดกินมาร์จิน กังวลอนาคตปี 69 คาดการเติบโตวูบเหลือ 13%
บลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) “จีน” กำลังเผชิญกับคลื่นความวิตกกังวลครั้งใหม่ หลังจากการรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย และการสนับสนุนจากรัฐบาลลดลง ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของอุตสาหกรรมในปี 2569
แม้ว่าภาคส่วน EV ของจีนจะเคยเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปี โดยเฉพาะหุ้นของเสี่ยวเผิง (Xpeng) ที่เคยทะยานกว่า 130% แต่สัญญาณแรงกดดันที่กระทบแม้แต่บริษัทที่มั่นคงอย่างบีวายดี (BYD) ก็ได้ตอกย้ำถึงความเปราะบางของตลาดหลังการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
3 แรงกดดันผู้ผลิต EV จีน
ตอนนี้ตลาดกำลังตั้งคำถามว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนจะเป็นอย่างไรในปีหน้า จาก 3 ปัจจัยที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงผลประกอบการที่เคยแข็งแกร่ง
- อุปสงค์ภายในประเทศอ่อนตัว โดยมีการคาดการณ์ว่าความต้องการในประเทศจะชะลอตัวลง เนื่องจากมาตรการยกเว้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกปรับลดตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป หลังจากได้รับการยกเว้นภาษีมาหลายปี
Bloomberg Intelligence ประเมินว่า การเติบโตของยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนจะชะลอตัวลงเหลือเพียง 13% ในปีหน้า จาก 27% ในปีนี้
ผู้ผลิตต่างเริ่มตอบโต้ด้วยการเสนอมาตรการคืนเงินภาษี เช่น Geely Automobile Holdings Ltd. ที่เสนอคืนเงินภาษีสูงสุด 15,000 หยวน หรือราว 68,225 บาท เพื่อชดเชยการลดหย่อนภาษี
เดซี่ ลี ผู้จัดการกองทุนของ EFG Asset Management กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวประกอบกับราคาแบตเตอรี่ที่สูงขึ้นจะเป็น "อุปสรรคต่อกำไร"
- กำไรถูกกดดัน โดยรายได้ของผู้ผลิตอาจได้รับผลกระทบมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มสูงขึ้น ในขณะที่ส่วนลดสำหรับผู้บริโภคก็ยังคงดำเนินต่อไป ทำให้กำไรถูกบีบอัด
การแข่งขันรุนแรง นักวิเคราะห์คาดว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นอย่างมากในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออัตรากำไรของผู้ประกอบการ
ปิง หยวน ผู้จัดการกองทุนจาก Edmond de Rothschild Asset Management กล่าวว่า "เราคาดว่าสภาพแวดล้อมด้านอุปสงค์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2569 จะท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนโยบายแลกเปลี่ยน และกำจัดซากรถยนต์ทั่วประเทศมาเกือบ 2 ปี"
ผลประกอบการต่ำคาด ฉุดหุ้นร่วง
ผลประกอบการล่าสุดได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายหุ้น EV ที่เคยทำผลงานได้ดีอย่างรวดเร็ว
- หุ้น Xpeng ร่วงลง 10% ในฮ่องกง หลังรายงานผลขาดทุนต่อเนื่อง และคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอ
- Zhejiang Leapmotor Technology Co. ร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. แม้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า แต่มีกำไรต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 65%
- Li Auto Inc. และ Nio Inc. ต่างประกาศคาดการณ์รายได้ และยอดส่งมอบในไตรมาสที่ 4 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ซบเซาในช่วงเวลาสำคัญของการบรรลุเป้าหมายยอดขายประจำปี
‘อีวีจีน’ รายใหญ่ หันซบตลาดนอก
เพื่อบรรเทาแรงกดดันด้านกำไร ผู้ผลิตบางรายกำลังหันไปใช้ 2 กลยุทธ์สำคัญ คือ ขยายตลาดต่างประเทศ
เมื่อการส่งออกช่วยให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่สูงขึ้น ทำให้ BYD มีอัตราการเติบโตของยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในไตรมาสที่ 3 ขณะที่ Geely คาดการณ์ว่ายอดขายในต่างประเทศจะพุ่งสูงขึ้นถึง 80% ในปีหน้า
บริษัทอื่นๆ เริ่มมองไกลกว่ารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการเติบโตในอนาคต เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เทคโนโลยีใหม่ เช่น Xpeng ที่วางแผนผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จำนวนมากภายในสิ้นปี 2569 และ Li Auto ที่ตั้งเป้าเปลี่ยนรถยนต์ให้เป็นหุ่นยนต์ "AI"
อย่างไรก็ดี เซียว เฟิง หัวหน้าร่วมฝ่ายวิจัยอุตสาหกรรมจีนที่ CLSA ฮ่องกงมองว่า ผู้ผลิตยานยนต์ราคาถูก เช่น BYD, Geely และ Leapmotor น่าจะสามารถรับมือกับภาวะตลาดตกต่ำในปีหน้าได้เนื่องจากผู้ซื้อเริ่มหันไปซื้อรถยนต์ในราคาที่เข้าถึงได้ จากที่เคยเลือกซื้อในระดับราคากลางถึงสูง
อ้างอิง Bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







