ไม่รอด! แบงค์ใหญ่อันดับ 3 ของดัตช์ 'เลิกจ้างกว่า 5,000 ตำแหน่ง'

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคาร ABN Amro Bank NV ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเนเธอร์แลนด์ เตรียมลดจำนวนพนักงานลง “5,200 ตำแหน่ง” หรือเกือบ 20% ของบริษัท เพื่อดันความสามารถในการทำกำไรบริษัทให้สูงขึ้น

มาร์เกอริต แบราร์ด ซีอีโอของธนาคาร ABN ระบุในแถลงการณ์ว่า “เราตระหนักว่า จำเป็นต้องทำมากกว่านี้ เพื่อเสริมผลตอบแทน และความสามารถในการแข่งขันของเรา”

ทั้งนี้ ซีอีโอแบราร์ดได้ให้คำมั่นว่า จะลดต้นทุนและปรับการจัดสรรเงินทุนให้มีประสิทธิภาพเพื่อผลักดันกำไร เธอได้เริ่มกระบวนการปรับโครงสร้างองค์กรที่สำนักงานใหญ่ในอัมสเตอร์ดัมแล้ว ส่งผลให้มีการลดพนักงานเต็มเวลาราว 1,000 คนในปีนี้ และเมื่อต้นเดือนนี้ ยังได้ประกาศเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่กลับมาเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อสิบปีก่อนอีกด้วย

ธนาคารดัตช์แห่งนี้ ตั้งเป้าเพิ่มอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Return on Equity) ให้ไม่น้อยกว่า 12% ภายในปี 2028 พร้อมกับตั้งเป้าให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost-Income Ratio) ลดลงต่ำกว่า 55%

ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทมีแผนที่จะยกเลิก “สินทรัพย์หรือธุรกิจที่ไม่ทำกำไร” ออกจากพอร์ต โดยระบุว่า ได้บรรลุข้อตกลงในการขายธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล Alfam ให้แก่ Rabobank แล้ว

ABN Amro ระบุว่า จะลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงลง 10,000 ล้านยูโร ให้เหลือประมาณ 50% ของทั้งธนาคาร 

นอกจากนี้ ธนาคารตั้งเป้าจ่ายเงินปันผลสูงสุดถึง 100% ของเงินทุนที่สร้างขึ้น ในช่วงปี 2026–2028 พร้อมต้องการรักษาอัตราส่วนเงินกองทุน CET1 ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งทางการเงิน ให้อยู่สูงกว่า 13.75%

สำหรับการปลดพนักงาน จะมาจากจำนวนพนักงานทั้งหมด 27,500 คน ซึ่งรวมถึงพนักงานจากบริษัทที่เคยเข้าซื้อกิจการด้วย ธนาคารระบุว่า จะให้การสนับสนุนพนักงานที่ต้องออกจากงานด้วย “แผนดูแลสวัสดิการทางสังคมที่รัดกุม” ซึ่งรวมถึงการช่วยเหลือด้านการเงินและการหางานใหม่

ตามแถลงการณ์ ธนาคารอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างให้เรียบง่ายขึ้น ผ่านการลดจำนวนนิติบุคคลในเครือ ปรับกระบวนการให้เป็นดิจิทัล เลิกใช้ระบบเก่า และนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ

ABN Amro ตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้เป็นกว่า 10,000 ล้านยูโรภายในปี 2028 และตั้งเป้าใหม่ที่จะ เสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจธนาคารรายย่อยในเนเธอร์แลนด์ รวมถึงการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน “5 อันดับแรก” ธนาคารเอกชนในยุโรป

อ้างอิง: bloomberg