ราคา 'กาแฟโลก' ร่วงแรง รับข่าวดีทรัมป์ยกเลิกภาษีนำเข้าบราซิล

ราคา 'กาแฟโลก' ร่วงแรง รับข่าวดีทรัมป์ยกเลิกภาษีนำเข้าบราซิล

ราคากาแฟโลกร่วงแรง อาราบิกา-โรบัสตา ดิ่งหนัก 5% หลังสหรัฐยกเลิกภาษีนำเข้า 'กาแฟและโกโก้' จากบราซิล ท่ามกลางแรงกดดันค่าครองชีพพุ่งจนฉุดความนิยมทรัมป์ลงต่ำสุด นักเทรดจับตาราคาอาจลงต่อได้อีก

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ราคากาแฟโลกปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันศุกร์ที่ 21 พ.ย. หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ตัดสินใจยกเลิกภาษีนำเข้า 40% สำหรับสินค้าเกษตรจากบราซิล ซึ่งรวมถึง "กาแฟและโกโก้" เนื่องจากมีความกังวลเพิ่มขึ้นว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องเผชิญต้นทุนอาหารในระดับสูง

สัญญาฟิวเจอร์สกาแฟ "อาราบิกา" บนตลาด ICE ซึ่งใช้เป็นราคาอ้างอิงในการซื้อขายกาแฟทั่วโลก ดิ่งลงมากกว่า 6% สู่จุดต่ำสุดในรอบสองเดือนระหว่างการซื้อขายเมื่อวานนี้ และในช่วงเวลาประมาณ 17.17 น. วานนี้ตามเวลาในไทย ราคาลดลง 4.6% มาอยู่ที่ 3.5925 ดอลลาร์ต่อปอนด์ 

ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์สกาแฟ "โรบัสตา" ซึ่งมักใช้ในกาแฟสำเร็จรูปมากกว่าในกาแฟคั่วบดที่อาราบิกาครองสัดส่วนหลัก ดิ่งลงถึง 8% ระหว่างการซื้อขาย ก่อนที่ในช่วงเย็นราคาจะลดลงประมาณ 5% มาอยู่ที่ 4,400 ดอลลาร์ต่อตัน

ทั้งนี้ในช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ราคากาแฟค้าปลีกในสหรัฐพุ่งขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบปีก่อน โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากภาษีนำเข้า ขณะที่ราคาสินค้าในกลุ่มอาหารที่แพงขึ้นกำลังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คะแนนความนิยมของทรัมป์ลดลงแตะระดับ "ต่ำที่สุด" นับตั้งแต่เขากลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อต้นปีนี้ ตามผลสำรวจของรอยเตอร์ส/อิปซอส

การประกาศยกเลิกภาษีนำเข้ากับบราซิล เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ออกคำสั่งที่คล้ายกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้ลดภาษีนำเข้ากาแฟและสินค้าเกษตรอื่นๆ จากประเทศผู้ผลิต เพื่อหวังลดแรงกดดันด้านราคาอาหารที่แพงขึ้นในประเทศ

บราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก จัดส่งเมล็ดกาแฟคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก

“เราต้องรอให้ตลาดปรับสมดุลข้อมูลตรงนี้ก่อน ซึ่งราคาอาจจะลดลงได้อีก แต่ผมไม่คิดว่าราคาจะลงไปต่ำกว่า 3 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ถ้าให้พูดจริงๆ ผมยินดีรับซื้อไม่ว่าตลาดจะตกต่ำลงแค่ไหนจากข่าวนี้” นักเทรดรายหนึ่งจากบริษัทค้ากาแฟรายใหญ่ของโลกในยุโรปกล่าว

นักเทรดรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า ผลผลิตกาแฟอาราบิกายังอยู่ในภาวะขาดแคลน ปริมาณสต็อกที่รับรองโดยตลาดซื้อขายล่วงหน้าและสต็อกในอุตสาหกรรมอยู่ในระดับต่ำ โดยฝั่งอุตสาหกรรมยังมีอุปทานไม่เพียงพอและจำเป็นต้องซื้อเพิ่ม อีกทั้งยังมีความเสี่ยงด้านสภาพอากาศจากปรากฏการณ์ลานีญาที่อาจกระทบการผลิตด้วย


ที่มา: Reuters