ถ้า ศก.แย่ รายใหญ่ก็ต้องเข้ามาช่วย 'แชโบลเกาหลีใต้' อัด 17 ล้านล้าน ฟื้นประเทศ

ถ้า ศก.แย่ รายใหญ่ก็ต้องเข้ามาช่วย 'แชโบลเกาหลีใต้' อัด 17 ล้านล้าน ฟื้นประเทศ

เศรษฐกิจซบเซาหนัก รัฐบาลเกาหลีดึงกลุ่มทุนใหญ่ “แชโบล” ทุ่มเม็ดเงินลงทุนในประเทศกว่า 17 ล้านล้านบาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในบ้าน ท่ามกลางแรงกดดันจากดีลการค้ากับสหรัฐ และความกังวลว่าการลงทุนต่างแดนจะดูดกำลังผลิตในประเทศออกไป

"กลุ่มแชโบล" หรือกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ให้คำมั่น "จะลงทุนในประเทศ" มากกว่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์ (กว่า 17.8 ล้านล้านบาท)  เพื่อแสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์อุตสาหกรรมของชาติยังคงยึดโยงอยู่ในประเทศอย่างมั่นคง แม้ว่าเกาหลีใต้จะเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับ "สหรัฐ" ด้วยการออกไปลงทุนนอกบ้านมากขึ้นก็ตาม

บลูมเบิร์กรายงานว่า กลุ่มแชโบลได้ประกาศแผนลงทุนขนาดใหญ่ในสาขาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เซมิคอนดักเตอร์ และพลังงานสะอาด หลังการประชุมกับประธานาธิบดี อี แจ มยอง เมื่อวันอาทิตย์ โดยในช่วง 5 ปีข้างหน้า บริษัทในเครือ "ซัมซุง" (Samsung) วางแผนทุ่มเงินลงทุน 450 ล้านล้านวอน (ราว 10 ล้านล้านบาท) ขณะที่ "ฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป" (Hyundai) ประกาศแผนลงทุน 125.2 ล้านล้านวอน (ราว 2.78 ล้านล้านบาท)

การประกาศครั้งนี้มีขึ้นตามมาเพียงไม่กี่วัน หลังจากเกาหลีใต้ลงนามข้อตกลงการค้าและการลงทุนฉบับประวัติศาสตร์กับสหรัฐ

ขนาดการลงทุน และช่วงเวลาที่ประกาศไปมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความกังวลว่า ข้อตกลงการลงทุนในสหรัฐอาจส่งผลกระทบฉุดการเติบโตในประเทศของตัวเอง รัฐบาลพยายามสร้างความมั่นใจต่อตลาดทุน และประชาชนว่า การไหลออกของทุนเกาหลีใต้สู่โรงงานในสหรัฐ เป็น “ราคาที่ต้องจ่าย” เพื่อแลกกับข้อตกลงการค้าที่เป็นประโยชน์ แต่จะไม่ทำให้กำลังการผลิตในประเทศถูกดูดกลืนหายไป

“นี่คือ การประกาศเพื่อสร้างความมั่นใจ” จุนยอง เฮอร์ รองศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยโซกัง กล่าวทางโทรศัพท์ “มันเป็นการแสดงความภักดีของบริษัทต่างๆ ต่อรัฐบาลใหม่ และพยายามสยบความกังวลว่าพวกเขาจะมุ่งลงทุนในสหรัฐเพียงอย่างเดียว”

คำมั่นนี้มีขึ้นท่ามกลางความกังวลของสาธารณชนว่า ฐานการผลิตของเกาหลีใต้อาจไหลออกไปต่างประเทศ จากคำมั่นการลงทุนในสหรัฐที่มีมูลค่าสูงถึง 3.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขหลักของข้อตกลงเพื่อให้สหรัฐลดภาษีนำเข้าต่อเกาหลีใต้ลงมา รวมถึงลดภาษีรถยนต์ลงมาที่อัตรา 15% โดยทั้งสองประเทศลงนามข้อตกลงกันไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ "ค่าเงินวอน" อ่อนค่าร่วงลงแรงถึง 6% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดในเอเชีย เนื่องมาจากการไหลออกของเม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง และการที่นักลงทุนแห่ขนเงินออกไปลงทุนต่างประเทศกันมากขึ้น โดยต่างชาติได้ขายสุทธิหุ้นเกาหลีใต้ไปแล้วถึง 5.2 พันล้านดอลลาร์ในเดือนนี้

แนวโน้มที่ย่ำแย่ของเงินวอนยิ่งทำให้ความพยายามของ "ธนาคารกลาง" ที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งซับซ้อนมากขึ้น โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าจีดีพีของเกาหลีใต้จะเติบโตราว 0.9% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในระดับที่ต่ำที่สุดในเอเชีย

สำหรับรัฐบาลอี แจ มยอง การประกาศลงทุนของภาคเอกชนครั้งใหญ่นี้ ถือเป็น “ชัยชนะเชิงสัญลักษณ์” สะท้อนความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างภาครัฐ และเอกชน ในช่วงที่ข้อตกลงกับสหรัฐกำลังปรับโฉมความสัมพันธ์ด้านการค้า และความมั่นคง อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังขาอยู่มากเช่นกันว่าการลงทุนกว่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์ จะเกิดขึ้นได้จริงมากน้อยเพียงใด และเกาหลีใต้จะสามารถรักษาการเติบโตได้หรือไม่ ในขณะที่ต้องทุ่มเงินจำนวนมหาศาลทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์