หุ้นค้าปลีก-ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ร่วงแรง 'ชิเซโด้-มูจิ' ดิ่ง 11% หวั่นนักท่องเที่ยวจีนหาย

หุ้นค้าปลีก-ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ร่วงแรง 'ชิเซโด้-มูจิ' ดิ่ง 11% หวั่นนักท่องเที่ยวจีนหาย

คำเตือนเดินทางจากปักกิ่งจุดแรงสั่นสะเทือนเศรษฐกิจญี่ปุ่น 'หุ้นค้าปลีก–ท่องเที่ยว' ร่วงระนาวหวั่นนักท่องเที่ยวจีนหาย ขณะที่โนมูระเตือนอาจเสี่ยงถึงขึ้น GDP ไตรมาส 4 ติดลบ กลายเป็นเศรษฐกิจติดลบสองไตรมาสติดต่อกัน

เว็บไซต์นิกเคอิเอเชียรายงานว่า หุ้นกลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยวญี่ปุ่น ดิ่งลงหนักทันทีในการเปิดตลาดซื้อขายช่วงเช้าวันจันทร์นี้ (17 พ.ย.68) หลังเกิด "วิวาทะ" ระหว่างผู้นำญี่ปุ่น และจีนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์จนกลายเป็นประเด็นร้อน รัฐบาลจีน ถึงกับออกคำเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปศึกษาต่อหรือท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูตที่รุนแรงขึ้นระหว่างสองประเทศ

หุ้นของ Isetan Mitsukoshi Holdings เจ้าของห้างสรรพสินค้า Mitsukoshi และ Isetan ร่วงนำในการซื้อขายเช้านี้ โดยดิ่งลงมากกว่า 12% ในช่วงหนึ่งของการซื้อขาย ตามด้วยหุ้นบริษัทเครื่องสำอางรายใหญ่ Shiseido ที่ลดลง 11% และ Ryohin Keikaku ผู้บริหารแบรนด์ Muji ลดลงมากกว่า 11%

ส่วนหุ้นของ Oriental Land ผู้ดำเนินงาน Tokyo Disney Resort ร่วงลงกว่า 5% ขณะที่หุ้นของสองบริษัทสายการบินรายใหญ่ ANA Holdings และ Japan Airlines ต่างปรับตัวลงเกือบ 4% และ 6% ตามลำดับ

หุ้นค้าปลีก-ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ร่วงแรง 'ชิเซโด้-มูจิ' ดิ่ง 11% หวั่นนักท่องเที่ยวจีนหาย

บรรยากาศนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงตาม หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที โดยดัชนีนิกเคอิร่วงลง 479.02 จุด หรือ 0.95% แตะ 49,897.51 จุด ก่อนจะปิดตลาดครึ่งเช้าลดลง 365.00 จุด หรือ 0.72% ปิดภาคเช้าที่ระดับ 50,011.53 จุด

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างญี่ปุ่นกับจีนทวีความตึงเครียดขึ้น หลังจากที่ "ซานาเอะ ทาคาอิจิ" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวตอบคำถามในรัฐสภากรณีหากไต้หวันถูกโจมจีว่า จะเป็น “สถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของชาติ” ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวที่ระบุ เป็นถ้อยคำในกฎหมายความมั่นคงปี 2015 หมายถึงเมื่อมีการโจมตีด้วยอาวุธต่อพันธมิตรเป็นภัยคุกคามที่มีอยู่จริงต่อญี่ปุ่น ในกรณีเช่นนั้นญี่ปุ่นสามารถใช้กองกำลังป้องกันตนเองตอบโต้ได้

หุ้นค้าปลีก-ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ร่วงแรง 'ชิเซโด้-มูจิ' ดิ่ง 11% หวั่นนักท่องเที่ยวจีนหาย

ด้านปักกิ่งตอบโต้คำกล่าวของผู้นำญี่ปุ่นทันที และเรียกร้องให้เธอถอนคำพูด โดยหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า “หากญี่ปุ่นกล้าแทรกแซงทางทหารใดๆ ในช่องแคบไต้หวัน ก็จะถือเป็นการรุกราน และจีนจะตอบโต้ด้วยมาตรการที่เด็ดขาด”

ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นอีกเมื่อทางการจีนได้ออกคำเตือนเมื่อวันอาทิตย์ แจ้งเตือนประชาชนที่กำลังพิจารณาไปศึกษาต่อในญี่ปุ่นให้ “คิดทบทวน” โดยมีขึ้นตามมาเพียง 2 วัน หลังจากเพิ่งออกคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่น

นิกเคอิรายงานว่า มาซาอากิ คานาอิ เจ้าหน้าที่ระดับอธิบดีจากกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น คาดว่าจะเดินทางเยือนจีนในวันนี้เพื่อพบปะเจ้าหน้าที่จีน โดยเป็นความพยายามเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่าย

ทากาฮิเดะ คิอุจิ นักเศรษฐศาสตร์จาก Nomura Research Institute ระบุในบันทึกวันนี้ว่า การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจกดดันเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ 

“หากนักเดินทางจากจีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อาจทำให้ GDP ที่แท้จริงในไตรมาส 4 (ต.ค.-ธ.ค.) มีความเป็นไปได้ที่จะติดลบ”

กรณีนี้จะทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น 'หดตัวติดต่อกันสองไตรมาส' หลังจากเศรษฐกิจหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส ในช่วงไตรมาส 3 เดือนก.ค.-ก.ย. ขณะที่การหดตัวสองไตรมาสติดต่อกันจะถือเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในเชิงเทคนิค

ทั้งนี้ จำนวนนักเดินทางต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 31.65 ล้านคน ในจำนวนนี้ประมาณ 1 ใน 4 มาจาก "จีน" ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด ตามข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวแห่งชาติญี่ปุ่น (JNTO)
 

 

ที่มา: Nikkei Asia

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์